การวิเคราะห์สูตรครีมกันแดด

นี่คือการวิเคราะห์สูตรครีมกันแดดที่คุณเสนอ:

1. SPF 50 PA+++: การที่จะได้ค่า SPF และ PA ที่ระบุนั้นจำเป็นต้องมีการทดสอบในห้องปฏิบัติการสำหรับสูตรสำเร็จรูป อย่างไรก็ตาม การใช้ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ร่วมกันจะช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ในวงกว้าง ความเข้มข้นที่คุณเสนอที่ 20% สำหรับ Titanium Dioxide และ 5% สำหรับ Zinc Oxide ถือว่าค่อนข้างสูงและอาจเพียงพอที่จะให้ค่า SPF 50 PA+++ ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดอนุภาคเฉพาะของ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ที่ใช้ในสูตรของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องใช้ส่วนผสมเกรดสำหรับครีมกันแดดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV

2. เนื้อสัมผัส: การผสมผสานของ Satin Cream Maker, LipidSoft Moist และ Mineral Oil เหมาะสำหรับการสร้างเนื้อสัมผัสที่บางเบา เนียนลื่น และให้ความรู้สึกเคลือบผิวตามที่คุณต้องการ Satin Cream Maker เป็นสารอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความข้นที่มีประสิทธิภาพสำหรับเนื้อสัมผัสแบบนี้ อัตราการใช้ Satin Cream Maker ประมาณ 1-1.5% เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเปอร์เซ็นต์รวมของเฟสน้ำมันและความหนืดที่ต้องการ LipidSoft Moist และ Mineral Oil จะช่วยเสริมคุณสมบัติในการให้ความนุ่มลื่นและช่วยให้เกลี่ยง่าย

3. การปกปิด: การใส่ Titanium Dioxide, Zinc Oxide, beige Iron Oxide และ Silk Sericite Powder เหมาะสมสำหรับการให้การปกปิดระดับปานกลางพร้อมสีเบจอ่อนๆ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ให้การปกปิดทางกายภาพ ในขณะที่ beige Iron Oxide ช่วยปรับสีตามที่ต้องการ Silk Sericite Powder ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและให้การปกปิดที่เป็นธรรมชาติ ระดับการปกปิดที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์เฉพาะของผงเหล่านี้ในสูตรสุดท้ายของคุณ

4. สารให้ความชุ่มชื้น: สูตรของคุณมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นที่ดีหลายชนิด ได้แก่ LipidSoft Moist, Safe B3 (Niacinamide), Allantoin, Vit B5 (Panthenol) และ Mineral Oil การผสมผสานนี้ควรให้ความชุ่มชื้นเพียงพอสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับส่วนผสมเหล่านี้เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการให้ความชุ่มชื้นโดยทั่วไปคือ Safe B3 (Niacinamide) ประมาณ 5%, Allantoin 0.5%, Vit B5 (Panthenol) 1-3%, LipidSoft Moist และ Mineral Oil เป็นส่วนหนึ่งของเฟสน้ำมันในระดับที่เหมาะสมกับความรู้สึกที่ต้องการและปริมาณน้ำมันทั้งหมด

5. สารกันเสีย: การใช้ Phenonip 1% เป็นอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับสารกันเสียผสมนี้ และควรให้การป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในสูตรของคุณอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ควรทำการทดสอบ Challenge Test กับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของคุณเสมอเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ

6. ความคงตัวและการลดการระคายเคือง: Disodium EDTA ช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตรโดยการจับกับไอออนของโลหะ Allantoin และ Safe B3 (Niacinamide) เป็นที่รู้จักกันดีในคุณสมบัติลดการระคายเคืองและปลอบประโลมผิว ซึ่งจะช่วยต้านทานการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจากส่วนผสมอื่นๆ และทำให้สูตรเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย

7. เปอร์เซ็นต์น้ำ: เปอร์เซ็นต์น้ำ (65%) คือส่วนที่เหลือของสูตรของคุณหลังจากคำนวณส่วนผสมอื่นๆ ทั้งหมดแล้ว หากเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมอื่นๆ ทั้งหมดรวมกันได้ 35% ดังนั้นน้ำ 65% คือปริมาณที่ถูกต้องเพื่อให้สูตรครบ 100%

8. ความเหมาะสมสำหรับสภาพผิว: จากส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น (LipidSoft Moist, Mineral Oil, Vit B5, Allantoin, Safe B3) และการใช้สารกันแดดแบบ Physical (Titanium Dioxide, Zinc Oxide) ซึ่งโดยทั่วไปไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง สูตรนี้จึงเหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง

การวิเคราะห์สูตรเซรั่ม

นี่คือการวิเคราะห์สูตรเซรั่มที่คุณเสนอ:

1. การใช้งานแบบ All-in-one ทั้งกลางวันและกลางคืน: สูตรเซรั่มของคุณมีการผสมผสานของสารออกฤทธิ์ที่หลากหลายซึ่งมุ่งเน้นปัญหาผิวหลายด้าน รวมถึงการต่อต้านริ้วรอย (DMAE, Wrinkle Fill, Rosa Hybrid Cell Extract), การปรับผิวให้กระจ่างใส (Safe B3, Tranexamic Acid, Sym White), การป้องกันอนุมูลอิสระ (Grape Seed Extract, Sym White) และการให้ความชุ่มชื้น (Vit B5, Safe B3, Allantoin, Sodium Lactate Plus, Moist 24, Grape Seed Oil, Flaxseed Oil, Mineral Oil) ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับการใช้ในเวลากลางวัน แนะนำให้ทาครีมกันแดดทับหลังจากใช้เซรั่มเพื่อการปกป้องที่ครอบคลุม

2. ความเพียงพอของสารให้ความชุ่มชื้นและสารบำรุงสำหรับผิวธรรมดาถึงแห้ง (อายุ 35 ปีขึ้นไป): สูตรนี้อุดมไปด้วยส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิว ทำให้เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากสารออกฤทธิ์ในการต่อต้านริ้วรอย เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอ ควรใช้อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับส่วนผสมหลัก เช่น Sodium Lactate Plus (1-5%), Moist 24 (5-8% เพื่อผลลัพธ์ความชุ่มชื้นที่ชัดเจน), Vit B5 (1-3%), Safe B3 (5%) และ Allantoin (0.5%) น้ำมันต่างๆ (Grape Seed Oil, Flaxseed Oil, Mineral Oil) ก็จะช่วยบำรุงผิวและกักเก็บความชุ่มชื้น สารออกฤทธิ์ เช่น DMAE (แนะนำ 3%), Rosa Hybrid Cell Extract (แนะนำ 2%), Grape Seed Extract (0.5-2%), Wrinkle Fill (1-2%), Tranexamic Acid (สูงสุด 3%) และ Sym White (0.1-1.0%) ถูกรวมอยู่ในความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพทั่วไปเพื่อให้ได้ประโยชน์ตามเป้าหมาย การผสมผสานและเปอร์เซ็นต์ทั่วไปควรเพียงพอสำหรับสภาพผิวและช่วงอายุเป้าหมาย

3. การอุดตันรูขุมขน: โอกาสในการอุดตันรูขุมขน (Comedogenicity) ขึ้นอยู่กับสูตรโดยรวมและความไวของผิวแต่ละบุคคล แม้ว่า Mineral Oil อาจเป็นข้อกังวลสำหรับบางคน แต่ LipidSoft Moist และ Grape Seed Oil โดยทั่วไปถือว่าไม่ค่อยก่อให้เกิดการอุดตัน สูตรนี้มีไว้สำหรับใช้ในเวลากลางคืน และมีส่วนผสมที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง หากคุณกังวลเกี่ยวกับการอุดตันรูขุมขน คุณสามารถปรับเปอร์เซ็นต์ของน้ำมันหรือพิจารณาสารให้ความนุ่มลื่นทางเลือก อย่างไรก็ตาม ในรูปแบบเซรั่ม ความเข้มข้นของน้ำมันอาจต่ำกว่าในรูปแบบครีม ซึ่งอาจลดความเสี่ยงได้

4. กลยุทธ์ความเข้มข้น: การใช้ส่วนผสมที่เป็นประโยชน์หลากหลายชนิดในความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพตามที่แนะนำ แทนที่จะใช้เพียงไม่กี่ชนิดในเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก สามารถให้ประโยชน์ต่อผิวได้กว้างขวางกว่า วิธีนี้ช่วยให้สามารถจัดการปัญหาหลายด้านพร้อมกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ในเซรั่มแบบ All-in-one ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารออกฤทธิ์แต่ละชนิดถูกใช้ภายในช่วงที่แนะนำเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด

5. เปอร์เซ็นต์น้ำ: เปอร์เซ็นต์น้ำ (68%) คือส่วนที่เหลือของสูตรของคุณ หากเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมอื่นๆ ทั้งหมดรวมกันได้ 32% ดังนั้นน้ำ 68% คือปริมาณที่ถูกต้องเพื่อให้สูตรครบ 100%

6. เนื้อสัมผัส: Light Cream Maker เหมาะสำหรับการสร้างเนื้อเซรั่มที่บางเบาและซึมซาบง่าย หากต้องการความหนืดแบบเซรั่ม (เบากว่าครีม) คุณควรใช้ Light Cream Maker ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่า โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 0.5-1% ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเปอร์เซ็นต์รวมของเฟสน้ำมันและความหนืดที่ต้องการ

7. ความคงตัวและการลดการระคายเคือง: Disodium EDTA ช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตรโดยการจับกับไอออนของโลหะ Phenonip ให้การป้องกันการเสื่อมสภาพอย่างมีประสิทธิภาพ Allantoin, Safe B3 (Niacinamide), Vit B5 (Panthenol) และ Flaxseed Oil ถูกรวมไว้เพื่อคุณสมบัติในการปลอบประโลมและลดการระคายเคือง ซึ่งเป็นประโยชน์เนื่องจากมีส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด การผสมผสานนี้ควรให้ความคงตัว การป้องกันการเสื่อมสภาพที่ดี และช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้