สอบถามการพัฒนาสูตรครีมรักษาฝ้าและครีมกันแดด (อาการระคายเคือง, การละลาย, SPF/PA, การกันน้ำ)
ถามโดย: poolyplus
เมื่อ: February 21, 2016
ประเภทผลิตภัณฑ์:
เครื่องสำอาง
คำถาม
มีคำถามเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง 2 ส่วนหลักครับ:
1. สูตรครีมรักษาฝ้า:
- สามารถใช้ ODA White Plus (Octadecenedioic Acid) 2% กับ MSH White (Alpha-MSH) 2% เป็นตัวทำละลาย SymWhite (Phenylethyl Resorcinol) 0.5% ได้เลยใช่ไหมครับ
- ผมกับพี่ลองใช้ครีมรักษาฝ้าที่ทำเองแล้วรู้สึกแสบ คันยิบๆ เป็นทุกครั้งที่ทา มันเกิดจากอะไรครับ
- อยากทราบความปลอดภัยของสาร ODA White Plus, MSH White, และ SymWhite แต่ละตัว:
- ใช้แล้วเสี่ยงทำให้ผิวคล้ำกว่าเดิมได้ไหมครับ
- มีตัวไหนที่ระคายเคืองผิวได้รึเปล่าครับ
- ทำให้ผิวบางหรือไวแสงได้รึเปล่าครับ
2. สูตรครีมกันแดด:
กำลังพัฒนาสูตรครีมกันแดดโดยมีส่วนผสมดังนี้ครับ:
- Zinc Oxide 10%
- Titanium Dioxide 5%
- BEMT (Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine) 1%
- Lipid Soft Dry (Oil-Free Emollient) 20%
- Satin Mousse (Silky Cream Maker) 1.5%
- Disodium EDTA 0.2%
- Phenonip (สารกันเสีย) 1%
จากสูตรนี้:
- จะคำนวณ SPF กับ PA ยังไงครับ
- วิธีทำโดยใช้ Satin Mousse เป็นสารสร้างครีมทำยังไงครับ (โดยไม่ใช้ Light Cream Maker)
- สูตรนี้กันน้ำรึเปล่าครับ และถ้าอยากให้กันน้ำทำยังไงครับ
- สามารถล้างออกหมดด้วยโฟมล้างหน้าทั่วไปได้ไหมครับ
- Disodium EDTA เป็นไอออนที่ทำให้เจลอ่อนตัวได้รึเปล่าครับ
- สามารถลดปริมาณ Lipid Soft Dry เป็น 10% ได้ไหมครับ
คำตอบ
สูตรครีมรักษาฝ้า
จากสูตรและคำถามของคุณ:
- การละลาย SymWhite: คุณถามว่าสามารถใช้ ODA White Plus (2%) และ MSH White (2%) เป็นตัวทำละลาย SymWhite (Phenylethyl Resorcinol) (0.5%) ได้หรือไม่ ทั้ง ODA White Plus และ MSH White เป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน และสามารถผสมในส่วนของน้ำมันในสูตรได้ SymWhite ก็ละลายในน้ำมันเช่นกัน เพื่อให้แน่ใจว่า SymWhite ละลายหมด ควรผสม SymWhite กับส่วนผสมในเฟสน้ำมัน (เช่น ODA White Plus และ MSH White) ให้เข้ากันดีก่อนนำไปรวมกับเฟสน้ำ หรือเติมลงในเนื้อครีมที่ทำเสร็จแล้วซึ่งมีเฟสน้ำมันอยู่ และผสมให้เข้ากันจนกว่าจะไม่มีผงเหลืออยู่
- อาการแสบ คันยิบๆ: อาการแสบหรือคันยิบๆ ที่คุณและพี่ของคุณลองใช้แล้วเป็น อาจเกิดจากสองสาเหตุหลัก ตามที่ได้รับคำตอบบางส่วนไปแล้ว คือ
- ปริมาณสารไวท์เทนนิ่งสูงเกินไป: สูตรของคุณมีสารไวท์เทนนิ่งและสารออกฤทธิ์หลายชนิดในปริมาณที่ค่อนข้างสูง (Vitamin B3, Calendula Extract, Lemon Peel Bioferment, ODA White Plus, MSH White, SymWhite) แม้ว่าแต่ละตัวจะมีประโยชน์ แต่เมื่อใช้รวมกันในความเข้มข้นนี้ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวบางประเภทได้ SymWhite ที่ 0.5% เป็นปริมาณสูงสุดที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้งไว้ และ Vitamin B3 (Niacinamide) ที่ 4% ก็เป็นความเข้มข้นปานกลางถึงสูง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกร้อนหรือคันยิบๆ ได้ในบางคน แม้ว่าชนิด Safe-B3 จะช่วยลดอาการนี้แล้วก็ตาม
- SymWhite ละลายไม่หมด: หากผง SymWhite ละลายไม่หมดในเนื้อครีม การทาครีมอาจทำให้ผิวสัมผัสกับอนุภาคที่มีความเข้มข้นสูงโดยตรง ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบ หรือคันยิบๆ ได้ การผสมให้แน่ใจว่าสารละลายหมดจึงสำคัญมาก
- ความปลอดภัย (ทำให้คล้ำขึ้น, ระคายเคือง, ผิวบาง/ไวแสง):
- ทำให้คล้ำกว่าเดิม: สารไวท์เทนนิ่งในสูตรของคุณ (Vitamin B3, Lemon Peel Bioferment, ODA White Plus, MSH White, SymWhite) มีคุณสมบัติช่วยลดรอยดำ ไม่ได้ทำให้ผิวคล้ำขึ้นโดยตรงเมื่อใช้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม หากสูตรทำให้เกิดการระคายเคือง อาจนำไปสู่ภาวะ Post-inflammatory hyperpigmentation (รอยดำหลังการอักเสบ) ซึ่งอาจดูเหมือนผิวคล้ำลงได้ ที่สำคัญคือ การไม่ทาครีมกันแดดอย่างเพียงพอขณะใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง จะทำให้ผิวเสี่ยงต่อความเสียหายจากแสงแดดมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของฝ้าและจุดด่างดำ
- ระคายเคือง: ดังที่กล่าวไปแล้ว การรวมกันและความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์หลายชนิด โดยเฉพาะ SymWhite (หากละลายไม่หมด) และ Niacinamide เป็นสาเหตุหลักของอาการระคายเคือง แสบ หรือคันยิบๆ Lemon Peel Bioferment ก็อาจทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไวต่อการสัมผัสมากขึ้นได้
- ผิวบางหรือไวแสง: ส่วนผสมส่วนใหญ่ในสูตรของคุณ รวมถึง Vitamin B3, Calendula Extract, Panthenol, Disodium EDTA, Butylene Glycol, Phenonip, Satin Mousse, Pro Polymer Silk, ODA White Plus, MSH White และ SymWhite ไม่ได้มีคุณสมบัติทำให้ผิวบางลงหรือไวต่อแสงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้ตามคำแนะนำ แม้ว่า Lemon Peel Bioferment จะมีการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ไวต่อแสงเท่าสารกลุ่ม AHA/BHA การใช้ครีมกันแดดทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นเสมอเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ปรับสีผิว เพื่อปกป้องผิวและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สูตรกันแดด
สำหรับสูตรครีมกันแดดและคำถามของคุณ:
- การคำนวณ SPF และ PA: การคำนวณค่า SPF และ PA สำหรับสูตรกันแดดที่มีทั้ง Physical Filter (Zinc Oxide, Titanium Dioxide) และ Organic Filter (BEMT) เป็นเรื่องซับซ้อน ไม่สามารถคำนวณได้จากเปอร์เซ็นต์ส่วนผสมเพียงอย่างเดียว ค่า SPF และ PA สุดท้ายจะต้องได้รับการทดสอบในห้องปฏิบัติการ (In-vivo หรือ In-vitro) กับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ชนิดและขนาดอนุภาคของ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide รวมถึงเกรดและความเข้มข้นของ BEMT และการกระจายตัวของสารกันแดดในเนื้อสูตร ล้วนมีผลต่อระดับการป้องกันแสงแดดขั้นสุดท้าย
- วิธีทำโดยใช้ Satin Mousse: คุณสามารถใช้ Satin Mousse (Satin Cream Maker) เป็นสารสร้างเนื้อครีมได้โดยไม่ต้องใช้ Light Cream Maker Satin Mousse เป็นสารอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความข้นที่ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน วิธีใช้คือ ผสม Satin Mousse ลงในส่วนของน้ำ (Water Phase) แล้วคนให้กระจายตัว จากนั้นเติมส่วนของน้ำมัน (Oil Phase ที่มีน้ำมัน สารกันแดด ฯลฯ) ลงในส่วนของน้ำ และผสมต่อเนื่องจนได้เนื้อครีม ควรหลีกเลี่ยงการปั่นด้วยความเร็วสูงมาก (เกิน 2500 รอบต่อนาที) เพราะอาจทำให้โพลีเมอร์เสียหายได้
- สูตรนี้กันน้ำหรือไม่ และวิธีทำให้กันน้ำ: สูตรของคุณที่ใช้ Satin Mousse มีแนวโน้มที่จะไม่กันน้ำ เนื่องจาก Satin Mousse สร้างอิมัลชันแบบ Oil-in-Water ซึ่งสามารถล้างออกด้วยน้ำได้ง่าย หากต้องการให้สูตรกันน้ำ คุณจะต้องเปลี่ยนไปใช้อิมัลชันแบบ Water-in-Oil (น้ำในน้ำมัน) ซึ่งต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์ที่ออกแบบมาสำหรับระบบ Water-in-Oil โดยเฉพาะ เช่น Water-Capsule หรือ Water-in-Oil EZ อิมัลซิไฟเออร์เหล่านี้จะช่วยสร้างเนื้อครีมที่น้ำกระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำมัน ทำให้สูตรมีความสามารถในการกันน้ำได้ดีขึ้น สูตรปัจจุบันของคุณน่าจะล้างออกได้ด้วยโฟมล้างหน้าทั่วไป การใช้ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ชนิด EasyDisperse (เช่น Zinc Oxide EasyDisperse) จะช่วยให้ผงสารกันแดดเกาะติดผิวได้ดีขึ้น แม้เนื้อครีมจะถูกล้างออกไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้สูตรทั้งหมดกันน้ำได้
- อัตราส่วนสารใน Phenonip และ Phenoxyethanol SA:
- Phenonip (Para-Preserve): สารกันเสียนี้เป็นส่วนผสมของ Phenoxyethanol, Methylparaben, Ethylparaben, Propylparaben และ Butylparaben โดยทั่วไปแล้ว ข้อมูลผลิตภัณฑ์จะระบุส่วนผสมเหล่านี้ แต่ไม่ได้ระบุอัตราส่วนเฉพาะของแต่ละตัวในส่วนผสมสำเร็จรูป
- Phenoxyethanol SA (Optiphen Plus): สารกันเสียนี้ประกอบด้วย Phenoxyethanol, Caprylyl Glycol และ Sorbic Acid เช่นกัน โดยทั่วไปจะไม่ระบุอัตราส่วนเฉพาะของแต่ละตัวในส่วนผสมสำเร็จรูป
- Disodium EDTA ทำให้เจลอ่อนตัวได้หรือไม่: Disodium EDTA เป็นสารคีเลตที่สามารถจับกับไอออนของโลหะได้ ในบางสูตร โดยเฉพาะที่ใช้สารสร้างเนื้อเจลบางประเภท ไอออนของโลหะอาจส่งผลต่อความหนืด Disodium EDTA สามารถจับกับไอออนเหล่านี้ ซึ่ง อาจ ทำให้ความหนืดลดลงหรือเจลอ่อนตัวลงได้ อย่างไรก็ตาม ที่อัตราการใช้ทั่วไป 0.1-0.2% ในสูตรของคุณ ผลกระทบต่อความหนืดของเจลมักจะน้อยมาก
- ลดปริมาณ Lipid Soft Dry เหลือ 10%: การลดปริมาณ Lipid Soft Dry จาก 20% เหลือ 10% ในสูตรกันแดดของคุณสามารถทำได้ แต่อาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและการเกลี่ย สาร Emollient เช่น Lipid Soft Dry ช่วยกระจายผงสารกันแดด (Zinc Oxide และ Titanium Dioxide) และทำให้รู้สึกเรียบเนียนบนผิว เมื่อมีผงสารกันแดดรวม 15% การลดปริมาณ Emollient ลงอย่างมากอาจทำให้เนื้อครีมรู้สึกแห้งขึ้น เกลี่ยยากขึ้น และอาจทำให้เกิดคราบขาวได้ชัดเจนขึ้น คุณจะต้องทดลองลดปริมาณเพื่อดูว่าเนื้อสัมผัสที่ได้เป็นที่ยอมรับสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณหรือไม่.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง

Calendula Extract (Water Soluble)
เครื่องสำอาง

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง

Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง

Disodium EDTA
เครื่องสำอาง

Lemon Peel Bioferment (Lemon Skin™)
เครื่องสำอาง

Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง

Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™
เครื่องสำอาง

Zinc Oxide (Micronized)
เครื่องสำอาง

Butylene Glycol
เครื่องสำอาง

LipidSoft™ C1215 (C12-15 alkyl benzoate)
เครื่องสำอาง

Water-Capsule™ (Water-in-Oil Cream)
เครื่องสำอาง

GABA Gamma aminobutyric acid (Synthetic)
เครื่องสำอาง

Water-in-Oil EZ™ (Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone)
เครื่องสำอาง

Pro Polymer™ Silk
เครื่องสำอาง

MSH White Absorb™
เครื่องสำอาง

Para-Preserve (eq. Phenonip P4)
เครื่องสำอาง
Phenylethyl Resorcinol (e.q. SymWhite 377)
เครื่องสำอาง
ODA-White Plus™
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง