สวัสดีค่ะ

นี่คือคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับสูตรครีมทาผิวกายที่คุณสอบถาม รวมถึงข้อเสนอแนะจากทีมงานค่ะ

คำแนะนำการปรับสูตรครีมทาผิวกาย

คุณต้องการปรับปรุงสูตรครีมทาผิวกาย โดยแบ่งเป็นเจลสำหรับผลัดเซลล์ผิวตอนกลางคืน และครีมบำรุงผิวขาวพร้อมกันแดดสำหรับกลางวัน เพื่อให้ผิวขาวใส ชุ่มชื้น และดูอิ่มเอิบขึ้นค่ะ

เจลเปิดผิวกลางคืน (เจลผลัดเซลล์ผิว)

สูตรที่คุณเสนอ:

1. Trans White (Tranexamic Acid) 3%
2. Papaya Enzyme 1%
3. Protease Enzyme 0.5%
4. Pro Polymer 1%
5. สารกันเสีย 1%
6. น้ำ (ส่วนที่เหลือ)

1. ส่วนผสมทุกสูตรผสมได้มั๊ยคะ ควรปรับตัวไหนแนะนำได้ค่ะ

ส่วนผสมที่คุณเลือกมานั้นมีคุณสมบัติที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว (เอนไซม์ Papain และ Protease) และไวท์เทนนิ่ง (Tranexamic Acid) ซึ่งเข้ากันได้ในแง่ของฟังก์ชัน อย่างไรก็ตาม ข้อควรพิจารณาที่สำคัญสำหรับสูตรนี้คือความเสถียรและการใช้งานของเอนไซม์ค่ะ

• ความเสถียรของเอนไซม์: Papaya Enzyme (ID 1036) และ Protease Enzyme (ID 1017) จะทำงานได้ดีเมื่อละลายน้ำ แต่ประสิทธิภาพจะค่อยๆ ลดลงเมื่ออยู่ในรูปของเหลวเป็นเวลานาน ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเอนไซม์ทั้งสองชนิดระบุว่าควรผสมในสูตรที่ ไม่มีน้ำ เป็นส่วนประกอบหลัก และนำมาผสมกับน้ำ ก่อนใช้ ทาลงบนผิว เพื่อให้เอนไซม์ทำงานได้อย่างเต็มที่และคงประสิทธิภาพได้นานที่สุด การผสมเอนไซม์ลงในเจลที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักตามสูตรของคุณ จะทำให้เอนไซม์เริ่มทำงานและเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ซึ่งจะลดประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวของผลิตภัณฑ์เมื่อเวลาผ่านไปค่ะ
• การปรับปรุง: เพื่อให้เอนไซม์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด คุณควรพิจารณาทำผลิตภัณฑ์นี้ในรูปแบบผงที่ผู้ใช้ต้องนำไปผสมน้ำก่อนใช้ หรือใช้เอนไซม์ชนิดที่มีความเสถียรในน้ำได้ดีกว่า หากต้องการคงรูปแบบเจลพร้อมใช้ ประสิทธิภาพการผลัดเซลล์ผิวจากเอนไซม์จะลดลงอย่างมากค่ะ

2. เนื้อที่ได้จะมีความนุ่มลื่น เวลาทาแล้วจะสบายผิวดีหรือเปล่า

การใช้ Pro Polymer (ID 234) ที่ 1% จะให้เนื้อสัมผัสแบบเจล Pro Polymer มีลักษณะพิเศษคืออาจมีความหนึบเล็กน้อยเมื่อทาลงบนผิวในช่วงแรก ก่อนจะเคลือบผิวเป็นฟิล์มบางๆ เมื่อแห้ง เนื้อสัมผัสโดยรวมจะเป็นเจลที่ค่อนข้างเรียบเนียน ความรู้สึก "สบายผิว" จะขึ้นอยู่กับการรับรู้ส่วนบุคคลต่อความหนึบเริ่มต้นของเนื้อเจลค่ะ เนื้อเจลจะให้ความรู้สึกบางเบากว่าเนื้อครีมค่ะ

3. สูตรเจล ตัวสารสกัด Protease Enzyme สามารถผสมในสูตรได้เลยหรือเปล่าคะ หรือต้องแยกไว้ผสมตอนจะใช้ทาผิว

ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ Protease Enzyme (ID 1017) (และ Papaya Enzyme (ID 1036)) ควรแยกเอนไซม์ไว้ผสมกับน้ำก่อนทาลงบนผิวทุกครั้ง เนื่องจากเอนไซม์จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วเมื่อละลายอยู่ในน้ำ การผสมลงในสูตรเจลที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักตั้งแต่แรก จะทำให้ประสิทธิภาพของเอนไซม์ลดลงไปเรื่อยๆ ตลอดอายุผลิตภัณฑ์ค่ะ

ครีมทาผิวกลางวัน

สูตรที่คุณเสนอ:

1. MSH White 5%
2. น้ำมันองุ่น 20%
3. B3 (Niacinamide) 4%
4. NAG (Acetyl Glucosamine) 4%
5. Titanium Dioxide 4%
6. Matt Silica 5%
7. Satin Cream Maker (ไม่ได้ระบุ%)
8. สารกันเสีย 1%
9. น้ำ (ส่วนที่เหลือ)

1. ส่วนผสมทุกสูตรผสมได้มั๊ยคะ ควรปรับตัวไหนแนะนำได้ค่ะ

ส่วนผสมโดยรวมสามารถนำมาผสมกันได้ แต่ปริมาณน้ำมันที่สูง (20% Grape Seed Oil (ID 120)) ร่วมกับส่วนผสมที่เป็นผง (Titanium Dioxide (ID 236), Matte Silica (ID 518)) และการเลือกใช้ Satin Cream Maker (ID 247) อาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและความเสถียรของสูตรค่ะ

• MSH White (ID 699): เป็นสารที่ละลายในน้ำมันและต้องใช้ความร้อนช่วยในการละลาย ควรผสมในส่วนของน้ำมัน
• น้ำมันองุ่น (ID 120) (20%): ปริมาณน้ำมัน 20% ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับครีมทาผิวกายทั่วไป โดยเฉพาะหากต้องการเนื้อที่บางเบาและไม่เหนอะหนะ แม้น้ำมันองุ่นจะค่อนข้างเบา แต่ปริมาณ 20% ก็มีผลต่อความรู้สึกบนผิวค่ะ
• B3 (Niacinamide) (ID 74) และ NAG (Acetyl Glucosamine) (ID 116): เป็นสารไวท์เทนนิ่งและบำรุงผิวที่ละลายน้ำได้ดี และทำงานเสริมกันได้ดีค่ะ
• Titanium Dioxide (ID 236) (4%): เป็นสารกันแดดแบบ Physical ที่ช่วยสะท้อนรังสี UV และให้ความขาวนวล แต่ปริมาณ 4% เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะให้ค่า SPF50 PA+++ ได้ การทำครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงต้องใช้สารกันแดดในปริมาณที่สูงขึ้นและอาศัยเทคนิคการผสมที่เหมาะสมค่ะ
• Matte Silica (ID 518) (5%): ช่วยดูดซับความมันและให้เนื้อสัมผัสแบบแมตต์ ซึ่งจะช่วยลดความมันจากน้ำมันองุ่นได้
• Satin Cream Maker (ID 247): เป็น Emulsifier ที่ใช้ในส่วนของน้ำ สามารถผสานน้ำมันได้สูงสุด 25% การที่คุณใช้น้ำมันองุ่น 20% และยังมีส่วนผสมผงอื่นๆ (Titanium Dioxide, Matte Silica) ที่ต้องกระจายตัวในส่วนน้ำมัน/ซิลิโคน อาจทำให้ปริมาณรวมของส่วนที่ต้องผสานเกินความสามารถของ Satin Cream Maker หรือทำให้เนื้อครีมหนักและอาจไม่เสถียรได้ค่ะ

การปรับปรุง:

• หากต้องการเนื้อที่บางเบาและไม่เหนอะหนะ ควรพิจารณาลดปริมาณน้ำมันองุ่นลง หรือเลือกใช้น้ำมันชนิดอื่นที่เบาบางกว่า (เช่น LipidSoft Dry (ID 391)) หรืออาจต้องพิจารณาใช้ Emulsifier ชนิดอื่นที่เหมาะสมกับปริมาณน้ำมันที่สูงกว่าและให้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ
• หากต้องการค่า SPF50 PA+++ สูตรนี้ยังไม่เพียงพอ ควรใช้สูตรกันแดดโดยเฉพาะที่มีสารกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ
• ควรผสมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันและผงต่างๆ ให้เข้ากันดีก่อนนำไปผสานกับส่วนน้ำที่มี Satin Cream Maker

2. เนื้อที่ได้จะมีความนุ่มลื่น เวลาทาแล้วจะสบายผิวดีหรือเปล่า

ด้วยปริมาณน้ำมันองุ่น 20% (ID 120), Matte Silica 5% (ID 518), และ Titanium Dioxide 4% (ID 236) เนื้อครีมที่ได้มีแนวโน้มที่จะค่อนข้างหนัก Matte Silica จะช่วยให้ผิวดูแมตต์ขึ้นและลดความมัน แต่ความรู้สึกโดยรวมจะยังคงความหนักและความมันจากน้ำมันอยู่ อาจไม่ให้ความรู้สึกบางเบาและสบายผิวเท่าที่คาดหวัง หากคุณมีผิวแห้งมาก เนื้อสัมผัสที่หนักขึ้นนี้อาจให้ความชุ่มชื้นได้ดี แต่หากต้องการเนื้อที่เกลี่ยง่ายและไม่เหนอะหนะ อาจต้องปรับสูตรตามที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ

สูตรที่ทีมงานแนะนำ

ทีมงานได้แนะนำ 2 สูตร ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีค่ะ

สูตรกันแดด (SPF50 PA+++):

• ส่วนน้ำมัน:
  • MSH White Absorb (MSH White) (ID 699) 5%
  • SPF Protect Ultra II (ID 1048) 20%
  • LipidSoft (ID 391) 10%
  • Milk Lotion Maker (ID 1040) 4%
• ส่วนน้ำ:
  • B3 (Safe-B3) (ID 74) 2%
  • GlucoBright (NAG) (ID 116) 2%
  • Satin Cream Maker (ID 247) (ไม่ได้ระบุ%)
  • สารกันเสีย (ID 1001) 1%
  • น้ำ (ส่วนที่เหลือ)

สูตรนี้ออกแบบมาเพื่อให้การปกป้องแสงแดดสูง (SPF50 PA+++) โดยใช้ SPF Protect Ultra II (ID 1048) และมีส่วนผสมไวท์เทนนิ่ง (MSH White (ID 699), B3 (ID 74), GlucoBright (ID 116)) และ Emollient (LipidSoft (ID 391)) ทีมงานแจ้งว่าสูตรนี้เกลี่ยง่ายและไม่เหนอะหนะค่ะ

สูตรบำรุงผิวกายสำหรับผิวแห้ง:

• ส่วนน้ำมัน:
  • Butter Cream Maker (ID 1041) 3%
  • Shea Butter (ID 117) 15%
  • Tribehenin (ID 1081) 1%
  • Palmitamide MEA (ID 1123) 1%
  • Activated Resorcinol (ID 493) 1%
• ส่วนน้ำ:
  • Vitamin B5 (ID 111) 3%
  • Safe-B3 (ID 74) 5%
  • MOIST24 (ID 1053) 4%
  • Sodium Lactate (ID 145) 15%
  • น้ำ (52% พร้อม Phenoxyethanol (ID 155) 1%)

สูตรนี้เน้นการบำรุงผิวแห้งมากเป็นพิเศษ ด้วยส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น Shea Butter (ID 117), Tribehenin (ID 1081), Sodium Lactate (ID 145), และ MOIST24 (ID 1053) รวมถึงสารไวท์เทนนิ่งที่มีประสิทธิภาพ (Activated Resorcinol (ID 493), Safe-B3 (ID 74)) และสารลดการระคายเคือง (Palmitamide MEA (ID 1123)) ทีมงานแจ้งว่าสูตรนี้จะมีเนื้อหนักกว่าสูตรกันแดด แต่เหมาะสมกับผิวแห้งมากค่ะ

เนื้อสัมผัสของสูตรที่แนะนำ

ตามที่ทีมงานได้แจ้งไว้:

• สูตรกันแดด ที่แนะนำจะเกลี่ยง่ายและไม่เหนอะหนะ
• สูตรบำรุงผิวกายสำหรับผิวแห้ง จะมีเนื้อที่หนักกว่าและอาจเกลี่ยยากกว่าสูตรกันแดดเล็กน้อย แต่ลักษณะเนื้อนี้เหมาะสมกับการบำรุงผิวแห้งมาก และช่วยสร้างฟิล์มเคลือบผิวเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นค่ะ

โดยสรุป สูตรที่คุณเสนอมาเป็นแนวทางที่ดีค่ะ แต่สำหรับเจลผลัดเซลล์ผิว ควรพิจารณาเรื่องความเสถียรของเอนไซม์ในสูตรน้ำ และสำหรับครีมกลางวัน หากต้องการเนื้อที่บางเบา อาจต้องปรับลดปริมาณน้ำมันหรือเลือก Emulsifier ที่เหมาะสมกว่าค่ะ สูตรที่ทีมงานแนะนำเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครีมกันแดด SPF สูง และครีมบำรุงผิวแห้งมากพร้อมคุณสมบัติไวท์เทนนิ่งค่ะ

หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสูตรของคุณนะคะ!