สอบถามการเปลี่ยนส่วนผสม ปัญหาฟอง และการนำพาสารเข้าสู่ผิว

ถามโดย: my-thai เมื่อ: July 23, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีข้อสงสัยเกี่ยวกับส่วนผสมและการขึ้นสูตรดังนี้ค่ะ:

เมื่อลองผสมสูตรแล้วพบว่าการปั่น Phospholipid แล้วเป็นฟองเล็กๆ ทีมงานคาดว่าน่าจะเกิดจากวิธีการปั่นหรือหัวปั่นที่ไม่เหมาะสม ถ้าเปลี่ยน Phospholipid เป็น 1,2-Hexanediol 3% สามารถทำได้หรือไม่คะ
เปรียบเทียบการช่วยนำพาส่วนผสมต่างๆเข้าสู่ผิวระหว่าง 1,2-Hexanediol 3% กับ Phospholipid อย่างไหนดีกว่ากันคะ
ถ้าใช้ 1,2-Hexanediol 3% แทนได้ สามารถใส่สารในขั้นตอนสุดท้ายของการผสมได้ไหมคะ
มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่มีอยู่แล้วซึ่งเป็นเบสน้ำที่ไม่มีสารช่วยประสานน้ำ-น้ำมัน สามารถเติมส่วนผสมต่อไปนี้ลงไปได้หรือไม่ และควรใส่ในอัตราส่วนเท่าไหร่คะ
- DMAE (Dimethylaminoethanol) 10%
- N-Acetyl Glucosamine และ L-Tyrosine (N-Acetyl L-Tyrosine) 2%
- Pep®-Coll (Palmitoyl Tripeptide-5) 3%
- Soy Extract (Isoflavones, Genistein) 5%
ต้องการทำเซรั่มเนื้อบางเบาซึมไวจากส่วนผสม Silky Serum Base Plus, Cyclomethicone, และ Phospholipid ควรมีวิธีการขึ้นสูตรอย่างไรคะ
ในสูตร AnyGel ที่ทีมงานแนะนำ สามารถเปลี่ยน Myristyl Nicotinate 5% เป็น Repair Activator (Bifida Ferment Lysate) 10-15% ได้หรือไม่คะ
ถ้าใช้ Repair Activator ในสูตร AnyGel ควรใส่ในขั้นตอนไหนคะ

คำตอบ

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับส่วนผสมและแผนการผสมของคุณค่ะ

สำหรับคำถามแรกเกี่ยวกับการเติมส่วนผสมลงในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่มีอยู่แล้ว:
ตามที่ทีมงานได้แจ้งไปก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้อยู่มีลักษณะเป็นเบสน้ำที่ไม่มีสารช่วยประสานน้ำ-น้ำมัน ดังนั้น คุณสามารถเติมได้เฉพาะส่วนผสมที่ละลายน้ำได้โดยตรงเท่านั้นค่ะ จากรายการส่วนผสมที่คุณสอบถาม มีรายการที่สามารถละลายน้ำได้และสามารถเติมลงไปได้ ดังนี้ค่ะ

DMAE (Dimethylaminoethanol) - ทีมงานแนะนำให้เริ่มต้นที่ 5% แทน 10% เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองและความเหนอะหนะที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
N-Acetyl Glucosamine และ L-Tyrosine (ที่ระบุรวมกันเป็น N-Acetyl L-Tyrosine) - สามารถใส่ได้ 2%
Pep®-Coll (Palmitoyl Tripeptide-5) - สามารถใส่ได้ 3%
Soy Extract (Isoflavones, Genistein) - ทีมงานแนะนำให้เริ่มต้นที่ 2-3% แทน 5% เพื่อหลีกเลี่ยงความเหนอะหนะค่ะ
ส่วนผสมที่ไม่ละลายน้ำหรือไม่สามารถกระจายตัวในเบสน้ำได้โดยตรง จะไม่สามารถเติมลงในผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วนี้ได้ค่ะ

สำหรับคำถามที่สองเกี่ยวกับการทำเซรั่มเนื้อบางเบาซึมไวจากส่วนผสมที่คุณเสนอ (Silky Serum Base Plus, Cyclomethicone, Phospholipid):
ทีมงานได้แนะนำให้ใช้ AnyGel เป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าสำหรับการสร้างเนื้อเจลสำหรับผู้เริ่มต้นค่ะ สูตรที่คุณเสนอซึ่งมีส่วนผสมอย่าง Silky Serum Base Plus, Cyclomethicone และ Phospholipid บ่งชี้ว่าเป็นการสร้างเนื้อแบบอิมัลชั่น (การผสมส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคนเข้ากับส่วนของน้ำ) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีความซับซ้อนกว่าการทำเนื้อเจลแบบง่ายๆ และต้องอาศัยความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับเทคนิคการทำอิมัลชั่น และอาจต้องใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างจากเครื่องปั่นมือถือทั่วไปเพื่อให้ได้เนื้อที่คงตัวและมีลักษณะตามที่ต้องการค่ะ ทีมงานไม่ได้ให้คำแนะนำขั้นตอนการผสมเฉพาะสำหรับสูตรที่คุณเสนอที่มี Silky Serum Base Plus, Cyclomethicone และ Phospholipid ค่ะ

สำหรับคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยน Myristyl Nicotinate เป็น Repair Activator (Bifida Ferment Lysate) ในสูตร AnyGel ที่ทีมงานแนะนำ:
ใช่ค่ะ ตามที่ทีมงานยืนยัน คุณสามารถเปลี่ยน Myristyl Nicotinate 5% เป็น Repair Activator 10-15% ในสูตรนั้นได้ค่ะ เนื่องจาก Repair Activator สามารถละลายน้ำได้โดยตรง และสูตรนี้ไม่มีขั้นตอนที่ต้องใช้ความร้อน คุณสามารถผสม Repair Activator ลงในส่วนของน้ำได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการผสมเลยค่ะ ตามคำแนะนำของทีมงาน

สำหรับคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยน Phospholipid เป็น 1,2-Hexanediol ในสูตร AnyGel เนื่องจากมีฟองเกิดขึ้น:
ทีมงานได้กล่าวถึงว่าปัญหาฟองที่เกิดขึ้นกับการปั่น Phospholipid อาจเกิดจากวิธีการปั่นหรือหัวปั่นที่ใช้ค่ะ ทีมงานยังแจ้งด้วยว่า Phospholipid โดยทั่วไปให้ผลในการช่วยนำพาส่วนผสมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าและให้เนื้อสัมผัสที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับ 1,2-Hexanediol แม้ว่าส่วนผสมทั้งสองจะไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้โดยตรงเนื่องจากมีคุณสมบัติต่างกัน แต่หากคุณไม่ต้องการใช้ Phospholipid และต้องการใช้ 1,2-Hexanediol เพื่อช่วยในการนำพาส่วนผสมต่างๆ ในสูตร ก็สามารถทำได้ค่ะ สามารถผสม 1,2-Hexanediol 3% ลงในส่วนของน้ำ หรือจะผสมในขั้นตอนสุดท้ายก็ได้ค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ