สอบถามสูตรเจลบำรุงผิวขาวใส ชะลอวัย และการใช้ร่วมกับเซรั่มวิตามินซี
คำถาม
สภาพผิวผิวผสม อายุ 35 ปี เมื่อก่อนมีสิวแต่ตอนนี้สิวหายแล้ว จากการผสมเจลใช้เองจากที่นี่มาสักระยะ จึงอยากให้ผิวขาวใสเด้งมากขึ้นค่ะ จากสูตรเดิมต้องการเพิ่มส่วนผสมอีก 2 ตัว คือข้อ 1 และ 2 อยากสอบถามว่าส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามาเหมาะสมแล้วหรือยังคะ และการใช้ Vitamin C 15% สูตรกลูต้าไทโอนของที่นี่ ทาก่อนบำรุง (เจลสูตรนี้) ทั้งเช้าและเย็น จะเหมาะสมกับการใช้ร่วมกับสูตรนี้ไหมคะ?
ส่วนผสมในสูตรเจลที่เสนอ:
- Repair Activator 10%
- Activated Resorcinol 1%
- Vit3 5%
- Glucosamine 4%
- Pep-coll 5%
- Argireline 10%
- Double Hyalulon 2%
- สารกันเสีย 1%
- ที่เหลือคือน้ำ
คำถามการใช้งาน: การใช้ Vitamin C 15% สูตรกลูต้าไทโอนของที่นี่ ทาก่อนเจลสูตรนี้ ทั้งเช้าและเย็น จะเหมาะสมกับการใช้ร่วมกันไหมคะ?
คำตอบ
การวิเคราะห์สูตรเจลและขั้นตอนการบำรุงที่คุณเสนอ
จากเป้าหมายของคุณที่ต้องการให้ผิวขาวใสและเด้งขึ้น หลังจากที่ปัญหาสิวดีขึ้นแล้ว สูตรที่คุณเสนอมีการผสมผสานส่วนผสมที่มีประโยชน์หลายอย่าง ลองมาวิเคราะห์ความเหมาะสมกันค่ะ:
ส่วนผสมในสูตรเจลที่คุณเสนอ:
- Repair Activator (10%): ส่วนผสมนี้ (เช่น Repair Activator BG) ช่วยซ่อมแซม DNA ผิวที่เสียหายจากแสง UV และมีคุณสมบัติช่วยชะลอวัย ความเข้มข้น 10% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (5-100%)
- Activated Resorcinol (1%): เป็นสารให้ความกระจ่างใสที่มีประสิทธิภาพสูง (Activated Resorcinol) ทำงานโดยการยับยั้งการสร้างเม็ดสี ความเข้มข้น 1% เป็นความเข้มข้นสูงสุดที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์แบบ Leave-on ซึ่งควรให้ผลลัพธ์ด้านความกระจ่างใสที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ที่ความเข้มข้นนี้อาจมีโอกาสเกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะกับผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ใช้ร่วมกับสารลดการระคายเคือง นอกจากนี้ Activated Resorcinol ละลายในน้ำมันและไวต่อแสง การผสมในเบสเจลจึงต้องพิจารณาเทคนิคการผสมอย่างรอบคอบ (เช่น การใช้ Oil phase, การเติม Disodium EDTA และการบรรจุในภาชนะทึบแสง) เพื่อให้ส่วนผสมคงตัวและมีประสิทธิภาพ
- Vit3 (Safe-B3, 5%): วิตามินบี 3 หรือ Niacinamide (Safe-B3) มีประโยชน์มากในการลดรอยดำ รอยแดง เสริมเกราะป้องกันผิว ลดความมัน และช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย ความเข้มข้น 5% เป็นความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูงและอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับ Safe-B3 ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูงและลดโอกาสการเกิดอาการแดง (Flushing) ได้ดีกว่า Niacinamide ทั่วไป
- Glucosamine (GlucoBright, 4%): N-Acetyl Glucosamine (GlucoBright) ทำงานเสริมกับ Niacinamide ในการเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวและลดจุดด่างดำ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติของผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ความเข้มข้น 4% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (1-8%) และเข้ากันได้ดีกับ Niacinamide 5%
- Pep-coll (5%): เปปไทด์ตัวนี้ (Pep-Coll) ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความกระชับให้ผิว ความเข้มข้น 5% อยู่ในระดับค่อนข้างสูงของช่วงที่แนะนำ (1-5% โดยทั่วไปแนะนำ 3%) ซึ่งควรให้ผลลัพธ์ที่ดีด้านการชะลอวัย
- Argireline (10%): Acetyl Hexapeptide-8 (Argireline) มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ โดยการคลายกล้ามเนื้อใบหน้า ความเข้มข้น 10% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (3-10%) และมีประสิทธิภาพในการจัดการกับริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา สามารถใช้ร่วมกับ Pep-Coll ได้ดี
- Double Hyaluron (2%): ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว (Double Hyaluron Liquid) ด้วย Hyaluronic Acid ทั้งขนาดมาตรฐานและนาโนโมเลกุล เพื่อให้ความชุ่มชื้นได้ทั้งผิวชั้นบนและชั้นล่าง แม้จะมีประโยชน์ แต่ความเข้มข้น 2% อาจจะน้อยกว่าที่แนะนำโดยทั่วไปสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง (3-5%) คุณอาจพิจารณาเพิ่มความเข้มข้นเพื่อความชุ่มชื้นที่มากขึ้น ขึ้นอยู่กับเบสเจลที่คุณใช้
- สารกันเสีย (1%): สารกันเสียมีความจำเป็นเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ความเหมาะสมขึ้นอยู่กับชนิดของสารกันเสียที่ใช้ และความเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ รวมถึงค่า pH โดยรวมของสูตร
ความเหมาะสมโดยรวมของสูตรเจล: การผสมผสานส่วนผสมในสูตรของคุณมีประสิทธิภาพสูงในการดูแลเรื่องความกระจ่างใส การชะลอวัย และความชุ่มชื้น ความเข้มข้นโดยทั่วไปเหมาะสมดี อย่างไรก็ตาม การใส่ Activated Resorcinol ซึ่งละลายในน้ำมันลงในเบสเจลที่ส่วนใหญ่เป็นน้ำ อาจต้องใช้เทคนิคการผสมที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าละลายเข้ากันได้ดีและคงตัว นอกจากนี้ Activated Resorcinol ไวต่อแสง สูตรควรได้รับการปกป้องจากแสง (เช่น บรรจุในภาชนะทึบแสง) ค่า pH ของสูตรสำเร็จควรอยู่ในช่วง 4.5-5.5 เพื่อให้ Activated Resorcinol และ Safe-B3 ทำงานได้ดีที่สุดและคงตัว
การใช้เซรั่มวิตามินซี 15% ก่อนทาเจล:
คุณใช้เซรั่มวิตามินซี 15% (ซึ่งกล่าวถึงว่าเป็นสูตรกลูต้าไทโอน น่าจะคล้ายกับผลิตภัณฑ์อย่าง 16% Vitamin C Brightening Serum ที่มี Ascorbic Acid และ Glutathione) ก่อนทาเจลที่คุณผสมเอง Ascorbic Acid เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยให้ผิวกระจ่างใสที่มีประสิทธิภาพสูง และ Glutathione ก็มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและอาจช่วยเรื่องความกระจ่างใสได้
อย่างไรก็ตาม การทาเซรั่มวิตามินซีที่มีความเป็นกรดสูง (สารละลาย Ascorbic Acid มักมีค่า pH ต่ำ ประมาณ 2.5-3.5) ทันทีก่อนทาเจลที่มีส่วนผสมของ Niacinamide (Safe-B3) และ Activated Resorcinol อาจนำไปสู่ปัญหาได้:
- โอกาสในการระคายเคือง: การใช้ร่วมกันระหว่างวิตามินซีที่มีค่า pH ต่ำ กับส่วนผสมอย่าง Niacinamide และ Activated Resorcinol (โดยเฉพาะ Activated Resorcinol ที่ความเข้มข้น 1%) อาจเพิ่มความเสี่ยงในการระคายเคืองผิว รอยแดง หรืออาการแดง (Flushing) ในบางรายได้
- ประสิทธิภาพลดลง: ความแตกต่างของค่า pH ที่มากระหว่างเซรั่มวิตามินซีที่เป็นกรด กับช่วงค่า pH ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Activated Resorcinol (4.5-5.5) และ Niacinamide (4.0-7.0) อาจทำให้ประสิทธิภาพของส่วนผสมเหล่านี้ในเจลลดลง หากทาทับกันเร็วเกินไป
คำแนะนำในการใช้: เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองและให้ส่วนผสมออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ ควรพิจารณา:
- ใช้เซรั่มวิตามินซี 15% ในตอนเช้า และใช้สูตรเจลของคุณในตอนกลางคืน หรือสลับกัน
- หากต้องการใช้ทั้งสองอย่างในขั้นตอนเดียวกัน ให้ทาเซรั่มวิตามินซีแล้วรออย่างน้อย 20-30 นาที เพื่อให้ค่า pH ของผิวกลับสู่สภาวะปกติ ก่อนที่จะทาเจลตาม ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตามค่า pH ที่เหมาะสม
โดยสรุป สูตรเจลที่คุณเสนอมีการผสมผสานสารออกฤทธิ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับความกระจ่างใส การชะลอวัย และความชุ่มชื้น ควรให้ความสำคัญกับเทคนิคการผสม โดยเฉพาะเรื่อง Activated Resorcinol และระมัดระวังในการใช้ร่วมกับเซรั่มวิตามินซีที่มีความเข้มข้นสูงและค่า pH ต่ำ ควรพิจารณาแยกเวลาการทาเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลิตภัณฑ์แต่ละตัวค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Double Hyaluron Liquid

Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)
