สอบถามสูตรแชมพูอ่อนโยนใช้ทุกวัน: การเลือกสารชำระล้างและการปรับความหนืด

Disodium Laureth Sulfosuccinate เป็นสารลดแรงตึงผิวที่มีความอ่อนโยน เหมาะสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ต้องการความอ่อนโยนสูง เช่น แชมพูเด็ก หรือผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย อย่างไรก็ตาม การใช้ Disodium Laureth Sulfosuccinate เป็นสารชำระล้างเพียงอย่างเดียวในแชมพูสำหรับใช้ทุกวัน อาจมีข้อจำกัดในด้านประสิทธิภาพการทำความสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผมที่อาจมีน้ำมันหรือสิ่งสกปรกสะสม และปริมาณฟองที่ได้อาจไม่มากเท่าที่ต้องการ

สำหรับสูตรที่คุณสอบถามมา:
การใช้ Disodium Laureth Sulfosuccinate 30% เป็นสารชำระล้างหลักนั้นสามารถทำได้เพื่อให้ได้แชมพูที่อ่อนโยน แต่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดและฟองที่ดีขึ้น มักนิยมใช้ร่วมกับสารลดแรงตึงผิวตัวอื่น ๆ ในกลุ่ม Amphoteric (เช่น Cocamidopropyl Betaine) หรือ Non-ionic (เช่น Decyl Glucoside, Coco Glucoside) ในสัดส่วนที่เหมาะสม การผสมผสานสารลดแรงตึงผิวหลายชนิดจะช่วยเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน ทำให้ได้แชมพูที่ทำความสะอาดได้ดีขึ้น มีฟองที่นุ่มและคงตัวมากขึ้น ในขณะที่ยังคงความอ่อนโยนไว้ได้

ส่วนประกอบอื่น ๆ ในสูตร เช่น Cetrimonium Chloride และ Poly-Conditioner Eco (Polyquaternium-7) เป็นสารที่ช่วยปรับสภาพเส้นผม ลดไฟฟ้าสถิตย์ ทำให้ผมนุ่มลื่น ไม่พันกัน ซึ่งเหมาะสมกับการใช้ในแชมพูอยู่แล้ว Mild Preserved Eco และน้ำมันหอมระเหยก็ทำหน้าที่เป็นสารกันเสียและน้ำหอมตามลำดับ

ข้อแนะนำในการปรับปรุงสูตร:

1. เพิ่มสารลดแรงตึงผิวร่วม (Co-surfactant): พิจารณาเพิ่ม Cocamidopropyl Betaine หรือ Decyl Glucoside/Coco Glucoside ประมาณ 3-5% เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำความสะอาดและฟอง
2. การปรับความข้นหนืด: สูตรปัจจุบันจะมีความเหลวมาก เนื่องจาก Disodium Laureth Sulfosuccinate เพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความข้นหนืดได้ดีนัก วิธีปรับความข้นหนืดที่นิยมใช้ในระบบสารลดแรงตึงผิว ได้แก่:
   • การเติมเกลือ (Sodium Chloride - NaCl): เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัด แต่ต้องทดลองเติมทีละน้อย (เช่น 0.5-2%) เพราะปริมาณที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของสารลดแรงตึงผิวในสูตร และการใช้เกลือในปริมาณสูงเกินไปอาจทำให้แชมพูระคายเคืองได้
   • การใช้สารเพิ่มความข้นกลุ่มโพลิเมอร์ (Polymeric Thickeners): เช่น Carbomer หรือ Acrylates Copolymer บางชนิดที่ออกแบบมาสำหรับระบบสารลดแรงตึงผิว วิธีนี้ให้ความข้นที่คงที่กว่าและไม่ขึ้นอยู่กับปริมาณเกลือ
   • การใช้สารลดแรงตึงผิวบางชนิดที่ช่วยเพิ่มความข้นได้: เช่น PEG-150 Distearate หรือ Laureth-4/Laureth-23 ซึ่งมักใช้ร่วมกับสารลดแรงตึงผิวหลักเพื่อช่วยเพิ่มความข้นและปรับปรุงเนื้อสัมผัส

สรุป:
สามารถใช้ Disodium Laureth Sulfosuccinate เป็นสารชำระล้างหลักได้ แต่แนะนำให้เพิ่มสารลดแรงตึงผิวร่วมเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และจำเป็นต้องมีการปรับความข้นหนืดโดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งตามที่กล่าวมาข้างต้น