คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับ AnyGel และ Satin Cream Maker

ขอบคุณสำหรับคำถามโดยละเอียดเกี่ยวกับความท้าทายในการพัฒนาสูตรของคุณ จากคำถามและการตอบกลับของเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้ นี่คือสรุปข้อมูลค่ะ:

เกี่ยวกับสูตรที่ใช้ AnyGel:

• ความเข้ากันได้กับน้ำมัน: AnyGel ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้สร้างเนื้อเจลในส่วนของน้ำเป็นหลัก เมื่อใช้เดี่ยวๆ โดยไม่มีสารประสานอื่น จะมีความสามารถในการประสานน้ำมันได้จำกัด โดยทั่วไป ไม่ควรมีส่วนของน้ำมันเกิน 10% ของสูตร หากเกินกว่านี้มีโอกาสที่สูตรจะแยกชั้นได้สูงค่ะ
• ปัญหาการเป็นขุย: ปัญหาการเป็นขุยที่คุณพบ น่าจะเกิดจากการใช้ AnyGel ในปริมาณที่สูงเกินไป (มากกว่า 2%) และ/หรือการละลายผง AnyGel ที่ไม่สมบูรณ์ AnyGel จำเป็นต้องกระจายตัวในน้ำให้ดีเพื่อให้เกิดการอุ้มน้ำและสร้างเนื้อเจลที่เรียบเนียนค่ะ
• อิเล็กโทรไลต์และความหนืด: สูตรของคุณมีส่วนผสมที่เป็นอิเล็กโทรไลต์ เช่น Calcium Pantothenate (ตามที่เจ้าหน้าที่ยืนยัน) สารสกัดอื่นๆ เช่น ว่านหางจระเข้, แตงกวา, และ Wakame ก็อาจมีส่วนของอิเล็กโทรไลต์ด้วย ขึ้นอยู่กับรูปแบบและความบริสุทธิ์ของสารสกัดนั้นๆ ปริมาณอิเล็กโทรไลต์ที่สูงสามารถลดความหนืดที่ได้จาก AnyGel ได้อย่างมาก การเพิ่มปริมาณ AnyGel อาจไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ทั้งหมด และอาจทำให้เกิดการเป็นขุยได้หากกระจายตัวไม่ดีค่ะ สำหรับสูตรที่มีปริมาณอิเล็กโทรไลต์และน้ำมันสูง ระบบสารสร้างเนื้อหรือสารประสานอื่นอาจเหมาะสมกว่าค่ะ
• คำแนะนำสำหรับผิวแห้ง/ระคายเคืองที่มีอิเล็กโทรไลต์: เมื่อพิจารณาถึงการมีอิเล็กโทรไลต์ในสูตร และเป้าหมายสำหรับผิวแห้ง/ระคายเคือง การเปลี่ยนไปใช้ระบบสารประสาน เช่น Satin Cream Maker เพื่อสร้างเนื้อครีม (ตามที่คุณเสนอ) เป็นแนวทางที่ดีค่ะ เนื้อครีมโดยทั่วไปจะให้ความรู้สึกเคลือบผิวได้ดีกว่า และสามารถพัฒนาให้คงตัวได้ดีกว่าในสภาวะที่มีอิเล็กโทรไลต์ เมื่อเทียบกับเจลที่สร้างเนื้อด้วย AnyGel เพียงอย่างเดียวค่ะ

เกี่ยวกับสูตรที่ใช้ Satin Cream Maker:

• ความเข้ากันได้กับน้ำมัน: ใช่ค่ะ Satin Cream Maker ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประสานส่วนของน้ำมันได้ถึง 25% ของสูตรทั้งหมดค่ะ
• ขั้นตอนการผสม: ขั้นตอนการผสมที่คุณอธิบายมาถูกต้องแล้วค่ะ โดยเฉพาะหากคุณไม่ได้ใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง ควรทำดังนี้:
  1. รวมส่วนผสมที่ละลายน้ำเข้าด้วยกันในส่วนของน้ำ
  2. เติม Satin Cream Maker ลงในส่วนของน้ำ และปั่นหรือคนจนได้เนื้อเจล
  3. เตรียมส่วนผสมของน้ำมันแยกต่างหาก (อย่าลืมอุ่น Shea Butter ให้ร้อนจนละลายเป็นของเหลวหากใช้)
  4. ค่อยๆ เติมส่วนของน้ำมันลงในเนื้อเจลที่เตรียมไว้ พร้อมกับปั่นหรือคนอย่างต่อเนื่องจนได้เนื้อครีมที่เข้ากันดี การค่อยๆ เติมน้ำมันพร้อมกับการคนจะช่วยให้การประสานน้ำ-น้ำมันเป็นไปอย่างสมบูรณ์ค่ะ
• การเติม Mild Preserved Eco: Mild Preserved Eco โดยทั่วไปควรเติมในขั้นตอนสุดท้าย หลังจากที่เนื้อครีมได้ก่อตัวขึ้นแล้ว โดยเฉพาะหากมีการใช้อุณหภูมิในการหลอมละลายส่วนผสม เช่น Shea Butter หากไม่มีการใช้อุณหภูมิในขั้นตอนใดๆ ก็สามารถเติมในขั้นตอนแรกๆ ได้ แต่การเติมในขั้นตอนสุดท้ายเป็นวิธีที่ปลอดภัยค่ะ
• การเติม Ceramide: เวลาที่เหมาะสมในการเติม Ceramide ขึ้นอยู่กับชนิดของ Ceramide ที่คุณใช้ค่ะ เรามี Ceramide หลายชนิด (เช่น Ceramide Complex) ไม่ทราบว่าคุณใช้ชนิดใดอยู่คะ? โดยทั่วไป Ceramide ที่ละลายในน้ำมันจะเติมในส่วนของน้ำมัน ส่วน Ceramide ที่ละลายน้ำหรือกระจายตัวในน้ำได้ อาจเติมในส่วนของน้ำ หรือในขั้นตอนสุดท้าย ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของ Ceramide ชนิดนั้นๆ ค่ะ
• การใช้ Shea Butter 15% + Moringa Oil 10% (รวมน้ำมัน 25%): ใช่ค่ะ คุณสามารถใช้ส่วนของน้ำมันรวม 25% ซึ่งประกอบด้วย Shea Butter 15% และ Moringa Oil 10% ร่วมกับ Satin Cream Maker ได้ค่ะ เพื่อให้แน่ใจว่าสูตรมีความคงตัวที่ดีสำหรับปริมาณน้ำมันนี้ เราแนะนำให้ใช้ Satin Cream Maker ในปริมาณ 1.5% ถึง 2.0% ค่ะ อย่าลืมอุ่น Shea Butter จนละลายเป็นของเหลวก่อนนำไปผสมกับ Moringa Oil และเติมลงในส่วนของน้ำ การใช้ส่วนของน้ำมัน 25% อยู่ในขีดความสามารถของ Satin Cream Maker และจะทำให้ได้เนื้อครีมที่เข้มข้นขึ้น เหมาะสำหรับผิวแห้งค่ะ สัดส่วนที่เหลือในสูตรจะเป็นส่วนของน้ำและส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งเป็นสัดส่วนปกติสำหรับสูตรครีมค่ะ สูตรโดยรวมจะยังคงเท่ากับ 100% ค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสูตรของคุณนะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยค่ะ!