สารทดแทน Sorbeth-6 Laurate ในสูตร Cleansing Gel

ถามโดย: pang_koko เมื่อ: February 14, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

จากรายการส่วนประกอบของ Preme Nobu Cleansing Gel ต้องการหาสารทดแทน Sorbeth-6 laurate ที่จะให้ลักษณะเนื้อสูตรและการทำความสะอาดใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์เดิมมากที่สุด ขอคำแนะนำเกี่ยวกับสารทำความสะอาดทางเลือกหรือสารทำความสะอาดหลายชนิดที่ใช้ร่วมกัน เพื่อพัฒนาสูตร Cleansing Gel ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ต้นแบบครับ/ค่ะ

คำตอบ

วิธีทำ Cleansing Gel คล้าย Preme Nobu Cleansing Gel

การสร้างเจลล้างหน้าที่เหมือนกับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในตลาดอย่าง Preme Nobu Cleansing Gel ทุกประการเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากต้องทราบสัดส่วนที่แน่นอนของส่วนประกอบแต่ละชนิดและกระบวนการผลิตเฉพาะ อย่างไรก็ตาม เราสามารถวิเคราะห์รายการส่วนประกอบที่คุณให้มาและพูดคุยถึงบทบาทของส่วนประกอบหลักเพื่อช่วยให้คุณสามารถพัฒนาสูตรที่ใกล้เคียงได้ค่ะ

จากรายการส่วนประกอบที่คุณให้มา ส่วนประกอบหลักและหน้าที่ของมันในเจลล้างหน้านี้ ได้แก่:

  • น้ำ (Water): เป็นส่วนประกอบพื้นฐานหลักของเนื้อเจล
  • สารทำความสะอาด (Cleansing Agents/Surfactants): ในรายการระบุ Sorbeth-6 laurate การหาสารทำความสะอาดอื่นมาทดแทนที่ให้คุณสมบัติเหมือนเป๊ะอาจทำได้ยาก เนื่องจากสารทำความสะอาดแต่ละชนิดให้คุณสมบัติในการทำความสะอาด การเกิดฟอง และความรู้สึกบนผิวที่แตกต่างกันไป จากผลการค้นหา พบสารที่เกี่ยวข้องในกลุ่ม laurate/sorbitan เช่น Sorbitan Laurate (Span 20), Laureth-3 และ Laureth-9 ซึ่งสามารถนำมาพิจารณาใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบสารทำความสะอาดได้ คุณอาจต้องทดลองใช้สารทำความสะอาดชนิดอ่อนโยนหลายๆ ตัว หรือใช้ร่วมกัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและความรู้สึกเนื้อสัมผัสที่ใกล้เคียงกับที่ต้องการ (เช่น ความรู้สึกฝืดเล็กน้อยที่คุณกล่าวถึง) โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเกินไป
  • สารสร้างเนื้อเจล (Gelling Agents/Thickeners): Carbomer และ Acrylates/C10-30 alkyl acrylate crosspolymer เป็นโพลิเมอร์ที่ทำหน้าที่สร้างโครงสร้างเนื้อเจล Carbomer 940 เป็นสารสร้างเนื้อเจลที่นิยมใช้และต้องปรับ pH ให้เป็นด่างเพื่อให้ขึ้นเจลได้ ส่วน Carbomer 2020 (ซึ่งเป็น Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer) เป็นอีกทางเลือกที่กระจายตัวได้ง่ายกว่าและทนต่ออิเล็กโทรไลต์ได้ดีกว่า ซึ่งอาจช่วยให้เนื้อเจลใสขึ้นได้
  • สารปรับ pH (Neutralizer): Aminomethyl propanol (AMP) เป็นสารด่างที่ใช้ปรับ pH ของ Carbomer ให้สูงขึ้น ทำให้โพลิเมอร์พองตัวและเกิดเป็นเนื้อเจล
  • สารให้ความชุ่มชื้น/ปรับสภาพผิว (Humectants/Conditioners): Butylene Glycol เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ช่วยกักเก็บน้ำในผิว Aloe Barbadensis Leaf Extract (สารสกัดว่านหางจระเข้) มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้นผิว Hydrogenated Lecithin, Cholesterol และ Ceramide 3 (Ceramide NP) เป็นไขมันที่คล้ายคลึงกับที่พบตามธรรมชาติในชั้นผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งจะช่วยลดความรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าได้ นอกจากนี้ อาจใช้ Ceramide Complex ในรูปแบบไลโปโซม เพื่อช่วยนำพาสารเซราไมด์เข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
  • สารสกัดปลอบประโลม/อื่นๆ: Ammonium glycyrrhizate (สารสกัดจากชะเอมเทศ) และ Gentiana lutea มักถูกใส่เพื่อคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมหรือลดการอักเสบ
  • สารกันเสีย (Preservative): Methylparaben (Sodium Paraben) เป็นสารกันเสียที่ใช้ป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์
  • สารคีเลต (Chelating Agent): Pentasodium pentetate เป็นสารที่ช่วยจับไอออนโลหะที่อาจปนเปื้อนมากับน้ำหรือส่วนประกอบอื่นๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตร

ขั้นตอนการทำเจลล้างหน้าเบื้องต้น (ต้องมีการทดลองปรับปรุง)

การทำเจลล้างหน้าต้องนำส่วนประกอบเหล่านี้มาผสมเข้าด้วยกัน นี่คือแนวทางเบื้องต้น แต่สัดส่วนและขั้นตอนที่แน่นอนต้องอาศัยการทดลองและปรับปรุงอย่างละเอียด:

  1. ส่วนของน้ำ: ค่อยๆ โปรยสารสร้างเนื้อเจล (เช่น Carbomer 940 หรือ Carbomer 2020) ลงในน้ำบริสุทธิ์ และคนหรือปั่นให้กระจายตัวและพองตัวเต็มที่
  2. เติมสารให้ความชุ่มชื้นและสารสกัด: เติม Butylene Glycol, สารสกัดว่านหางจระเข้, Ammonium Glycyrrhizate และส่วนประกอบอื่นๆ ที่ละลายน้ำได้
  3. ส่วนของไขมัน (ถ้ามี): หากใช้ไขมันที่ละลายในน้ำมัน เช่น Cholesterol หรือ Ceramide 3 ชนิดผง อาจต้องนำไปให้ความร้อนและละลายในน้ำมันปริมาณเล็กน้อยก่อนนำมาผสมกับส่วนของน้ำ หรืออาจใช้รูปแบบที่กระจายตัวในน้ำได้ง่าย เช่น Ceramide Complex ในรูปแบบไลโปโซม
  4. เติมสารทำความสะอาด: ค่อยๆ ผสมสารทำความสะอาดที่เลือกใช้ ขั้นตอนนี้สำคัญมากต่อการได้เนื้อสัมผัสและประสิทธิภาพในการทำความสะอาด การหาสารทดแทน Sorbeth-6 laurate ที่เหมาะสมและปรับความเข้มข้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้คุณสมบัติตามต้องการ
  5. ปรับ pH ให้ขึ้นเจล: เมื่อสารสร้างเนื้อเจลพองตัวเต็มที่และส่วนประกอบอื่นๆ เข้ากันดีแล้ว ค่อยๆ เติมสารปรับ pH (Aminomethyl propanol) ทีละน้อย พร้อมคนหรือปั่น จนได้เนื้อเจลที่มีความหนืดตามต้องการ และ pH อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (โดยทั่วไปคือ pH 5.5-7)
  6. เติมสารกันเสียและสารคีเลต: ใส่ Sodium Paraben และ Pentasodium pentetate
  7. ปรับปรุงขั้นสุดท้าย: ตรวจสอบและปรับ pH ถ้าจำเป็น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อเจลสม่ำเสมอ

การทำให้เนื้อเจลมีลักษณะและความรู้สึกในการทำความสะอาดเหมือนกับผลิตภัณฑ์ต้นแบบนั้นต้องอาศัยการทดลองปรับชนิดและสัดส่วนของส่วนประกอบต่างๆ โดยเฉพาะระบบสารทำความสะอาดและสารสร้างเนื้อเจลอย่างละเอียดค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Butylene Glycol
Butylene Glycol
เครื่องสำอาง
Cholesterol (95%, NF, Fine Powder)
Cholesterol (95%, NF, Fine Powder)
เครื่องสำอาง
Carbomer 940 (EasyDisperse™, France)
Carbomer 940 (EasyDisperse™, France)
เครื่องสำอาง
Laureth-3
Laureth-3
เครื่องสำอาง
Laureth-9
Laureth-9
เครื่องสำอาง
AMP (2-Amino-2-methyl-1-propanol) 95% (Deodorized)
AMP (2-Amino-2-methyl-1-propanol) 95% (Deodorized)
เครื่องสำอาง
Sorbitan Laurate (Span 20)
Sorbitan Laurate (Span 20)
เครื่องสำอาง
Pentasodium Pentetate (DTPA-5Na, 40%)
Pentasodium Pentetate (DTPA-5Na, 40%)
เครื่องสำอาง
Ceramide 3 (Ceramide NP)
Ceramide 3 (Ceramide NP)
เครื่องสำอาง
Ammonium Glycyrrhizate
Ammonium Glycyrrhizate
เครื่องสำอาง
Sodium Paraben (Sodium Ethyl Paraben)
Sodium Paraben (Sodium Ethyl Paraben)
เครื่องสำอาง
Hydrogenated Lecithin (95% Phosphatidylcholine)
Hydrogenated Lecithin (95% Phosphatidylcholine)
เครื่องสำอาง