สูตรกันแดดผสมสารให้ความขาวที่เสถียร

ถามโดย: hiphop5142 เมื่อ: October 14, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรกันแดด โดยตอนแรกคิดจะเพิ่ม L-Ascorbic Acid (Vitamin C) และ Glutathione (เฉพาะ Glutathione (L-Glutathione) (Extrasol)) เพื่อให้ได้คุณสมบัติไวท์เทนนิ่ง เบสกันแดดใช้ Physical Filter อย่าง Titanium Dioxide Nanosil (10%) และ Zinc Oxide 35nm Liquid หรือ Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base) (10%) ร่วมกับ Light Cream Maker (1.5%) และ Caprylic/Capric Triglyceride (5%)

  • ความเป็นไปได้ของส่วนผสมนี้เป็นอย่างไรบ้างในแง่ความเสถียร โดยเฉพาะในสูตรกันแดดสำหรับใช้กลางวัน?
  • ความรู้สึกของสูตรนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อพิจารณาจากส่วนประกอบ?
  • การตัด Vitamin B3 (Niacinamide) และ Centella Asiatica Extract ออกจากสูตรจะมีผลอย่างไร?
  • มีสารให้ความขาวตัวไหนบ้างที่เสถียร เหมาะสำหรับใช้กลางวันในสูตรกันแดด โดยเฉพาะสำหรับทาตัวที่ต้องการราคาไม่แพง?
  • โดยทั่วไปแล้ว การใช้ Vitamin B3 ร่วมกับ N-acetyl Glucosamine (เช่น GlucoBright™) จะใช้ระยะเวลานานเท่าใดจึงจะเริ่มเห็นผลเรื่องความขาวชัดเจน?

คำตอบ

การผสมสูตรกันแดดร่วมกับสารให้ความขาว

เกี่ยวกับสูตรกันแดดของคุณที่ผสมวิตามินซีและกลูต้า และคำถามของคุณเกี่ยวกับความเป็นไปได้ ความรู้สึกบนผิว และสารให้ความขาวทางเลือก:

  1. ความเป็นไปได้และความรู้สึกของสูตรเดิม:

    • ไม่แนะนำ ให้ใส่วิตามินซีชนิด L-Ascorbic Acid ลงในสูตรกันแดดที่ใช้ทาออกแดดโดยตรง เนื่องจาก L-Ascorbic Acid ไม่เสถียรอย่างยิ่งและเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วเมื่อโดนแสง ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพและอาจก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้
    • แม้ว่ากลูต้าไธโอน (เช่น Glutathione (L-Glutathione) (Extrasol)) จะมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและอาจช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ แต่ความเสถียรในเบสกันแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ร่วมกับวิตามินซีที่ไม่เสถียร อาจเป็นปัญหาได้
    • ความรู้สึกของสูตร (หนักผิวหรือไม่) น่าจะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสารกันแดดแบบ Physical Filter ในปริมาณสูง (รวม 20% จาก Titanium Dioxide และ Zinc Oxide) แม้จะใช้ชนิดนาโนแบบ "Oil Free" เช่น Titanium Dioxide Nanosil และ Zinc Oxide 35nm Liquid หรือ Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base) ก็อาจทำให้รู้สึกหนักผิวหรือทิ้งคราบขาวได้ แม้ว่าอนุภาคนาโนจะถูกออกแบบมาเพื่อลดปัญหานี้ก็ตาม Light Cream Maker 1.5% และ Caprylic/Capric Triglyceride 5% ถือว่าค่อนข้างน้อยสำหรับส่วนน้ำมัน ซึ่งอาจช่วยลดความรู้สึกหนักได้ แต่ปริมาณผงกันแดดที่สูงคือปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความรู้สึกและโอกาสเกิดคราบขาว
  2. ผลของการตัด Vitamin B3 และ Centella Asiatica Extract ออก:

    • การนำ Vitamin B3 (Niacinamide) และ Centella Asiatica Extract ออก จะทำให้สูตรง่ายขึ้นและอาจลดปริมาณส่วนผสมโดยรวม ซึ่งอาจช่วยลดความรู้สึก "หนัก" หรือภาระบนผิวได้เล็กน้อย
    • อย่างไรก็ตาม ทั้ง Vitamin B3 (เช่น Safe-B3™ หรือ Extreme-B3™) และ Centella Asiatica Extract (เช่น Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%) หรือ Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract) ต่างก็มีประโยชน์ต่อผิวอย่างมาก Vitamin B3 ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดรอยแดง/รอยดำ และควบคุมความมัน ในขณะที่ Centella Asiatica มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลม ต้านการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน การนำออกหมายถึงการสูญเสียประโยชน์เหล่านี้ไป จะไม่ได้ทำให้สูตร "ดีขึ้น" ในแง่ของประสิทธิภาพ แต่ความรู้สึกบนผิวอาจเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกันของส่วนผสมที่เหลือ
  3. สารให้ความขาวที่เสถียรสำหรับใช้กลางวัน / ในสูตรกันแดด (ราคาไม่แพงสำหรับทาตัว):

    • เนื่องจาก L-Ascorbic Acid ไม่เหมาะสำหรับการใช้กลางวันเมื่อต้องเจอแสงแดด จึงแนะนำให้ใช้สารให้ความขาวที่มีความเสถียรมากกว่า
    • Vitamin B3 (Niacinamide) เป็นตัวเลือกที่ดี มีความเสถียรมากกว่า L-Ascorbic Acid และมีประโยชน์หลายด้าน รวมถึงการลดรอยดำ/รอยแดง มีผลิตภัณฑ์เช่น Safe-B3™ หรือ Extreme-B3™
    • N-acetyl Glucosamine (เช่น GlucoBright™) เป็นอีกตัวเลือกที่เสถียรและทำงานได้ดีเมื่อใช้ร่วมกับ Vitamin B3 เพื่อลดจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอขึ้น
    • การใช้ Vitamin B3 ร่วมกับ N-acetyl Glucosamine เป็นแนวทางที่ได้รับการวิจัยว่าช่วยเรื่องความขาว และมีความเสถียรในสูตรมากกว่าเมื่อเทียบกับ L-Ascorbic Acid
    • อนุพันธ์ของวิตามินซีบางชนิดที่มีความเสถียร เช่น Ethyl Ascorbic Acid ก็เหมาะสำหรับการใช้กลางวันมากกว่า L-Ascorbic Acid เนื่องจากมีความเสถียรต่อแสงและความร้อนมากกว่า อย่างไรก็ตาม อาจมีราคาสูงกว่า Vitamin B3 หรือ N-acetyl Glucosamine
    • สำหรับการทาตัวที่ต้องการราคาไม่แพง Vitamin B3 และ N-acetyl Glucosamine เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากมีความเสถียร ประสิทธิภาพดี และราคาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับสารให้ความขาวอื่นๆ
  4. ระยะเวลาเห็นผลของ Vitamin B3 + N-acetyl Glucosamine:

    • สารให้ความขาว รวมถึงการใช้ Vitamin B3 ร่วมกับ N-acetyl Glucosamine โดยทั่วไปต้องใช้เวลาอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลชัดเจน
    • การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้มักจะเกิดขึ้นหลังจากวงจรการผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อยหนึ่งรอบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 28 วัน ผลลัพธ์อาจชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จากการพูดคุย

สรุปคือ แม้จะสามารถผสมวิตามินซีและกลูต้าไธโอนลงในเบสกันแดดได้ในทางเทคนิค แต่ไม่แนะนำเนื่องจากวิตามินซีไม่เสถียรเมื่อโดนแสงแดด ความรู้สึกของสูตรที่เสนอมีแนวโน้มที่จะหนักผิวเนื่องจากปริมาณ Physical Filter ที่สูง การนำ B3 และ Centella ออกจะทำให้สูญเสียประโยชน์ของสารเหล่านั้นไป สำหรับสารให้ความขาวที่เสถียรสำหรับใช้กลางวัน แนะนำ Vitamin B3 และ N-acetyl Glucosamine ซึ่งมีประสิทธิภาพและความเสถียรที่ดี โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลชัดเจนหลังจากใช้ไปประมาณ 28 วัน.

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide 35nm Liquid
Zinc Oxide 35nm Liquid
เครื่องสำอาง
Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)
Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)
เครื่องสำอาง
Titanium Dioxide Nanosil
Titanium Dioxide Nanosil
เครื่องสำอาง
Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract (TECA 95%, CICA)
Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract (TECA 95%, CICA)
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base)
Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base)
เครื่องสำอาง
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
เครื่องสำอาง