การตรวจสอบสูตรครีมกันแดด (50 กรัม)

สูตรของคุณประกอบด้วยส่วนผสมดังนี้:

ส่วนน้ำมัน:

• SPF Protect Ultra: 10 กรัม
• LipidSoft CC: 1 กรัม
• Water-Capsule: 1.5 กรัม

ส่วนน้ำ:

• Light Cream Maker: 0.75 กรัม
• Disodium EDTA: 0.1 กรัม
• WaterLock: 0.5 กรัม
• Phenoxyethanol: 0.4 กรัม
• น้ำกลั่นบริสุทธิ์: 34.3 กรัม

เติมภายหลัง:

• AminoSilk: 1 กรัม
• PowderCream: 0.5 กรัม

รวม: 50.05 กรัม (นี่คือปริมาณที่คำนวณถูกต้องสำหรับสูตร 50 กรัม โดยคำนึงถึงเปอร์เซ็นต์ส่วนผสม)

การตรวจสอบวิธีผสม

วิธีผสมที่คุณเสนอคือ:
(A) ผสมส่วนน้ำมัน (1 + 2 + 3)
(B) ผสมส่วนน้ำ (4 + 5 + 6 + 7 + 8)
(C) เทส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำทั้งหมดในครั้งเดียว คนให้เข้ากัน
(D) ใส่ 9 + 10 คนให้เข้ากัน

จากคุณสมบัติของส่วนผสม โดยเฉพาะ Water-Capsule ซึ่งเป็นสารประสานเนื้อแบบ Water-in-Oil (W/O) วิธีผสมจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน สำหรับอิมัลชัน W/O ควรเติมส่วนน้ำ ทีละน้อย ลงในส่วนน้ำมัน ไม่ใช่กลับกัน นอกจากนี้ SPF Protect Ultra จำเป็นต้องใช้ความร้อนในการละลายในส่วนน้ำมันอย่างเหมาะสม

วิธีผสมที่เหมาะสมกว่าสำหรับอิมัลชัน Water-in-Oil โดยใช้ Water-Capsule คือ:

1. เตรียมส่วนน้ำมัน: รวม SPF Protect Ultra, LipidSoft CC และ Water-Capsule เข้าด้วยกัน ให้ความร้อนส่วนผสมนี้ถึง 70-80°C และคนหรือปั่นจน SPF Protect Ultra ละลายหมดและส่วนน้ำมันเข้ากันดี
2. เตรียมส่วนน้ำ: รวม Light Cream Maker, Disodium EDTA, WaterLock, Phenoxyethanol และน้ำกลั่นบริสุทธิ์ คนจนส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ทั้งหมดละลาย การให้ความร้อนส่วนน้ำเล็กน้อย (เช่น ถึง 70-80°C ให้เท่ากับอุณหภูมิส่วนน้ำมัน) บางครั้งสามารถช่วยเพิ่มความคงตัวของอิมัลชันได้ แต่ Light Cream Maker สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่ Phenoxyethanol ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 80°C
3. การทำอิมัลชัน: ขณะที่คนหรือปั่นส่วนน้ำมัน (จากขั้นตอนที่ 1) อย่างต่อเนื่อง ให้ ค่อยๆ เติมส่วนน้ำ (จากขั้นตอนที่ 2) ทีละน้อย ปั่นด้วยความเร็วต่ำในตอนแรกจนส่วนผสมเริ่มข้นขึ้นและเกิดอิมัลชัน เมื่ออิมัลชันก่อตัวแล้ว คุณสามารถเพิ่มความเร็วในการปั่นเพื่อให้ได้ความข้นของเนื้อครีมที่ต้องการ (คำอธิบาย Water-Capsule แนะนำ 1000-1500 รอบต่อนาทีสำหรับครีมที่ข้นขึ้น สูงสุด 3000 รอบต่อนาที) ปั่นจนเนื้อครีมเนียนและเข้ากันดี
4. เติมผง: เมื่อเนื้อครีมก่อตัวและเย็นลงแล้ว ให้ใส่ AminoSilk และ PowderCream ปั่นจนผงเหล่านี้กระจายตัวอย่างสมบูรณ์และเนื้อครีมเนียน

คำตอบสำหรับคำถามของคุณ

1. สูตรและวิธีผสมถูกต้องหรือไม่คะ?
   องค์ประกอบของสูตรโดยทั่วไปเหมาะสมสำหรับครีมกันแดดสำหรับผิวแห้งโดยใช้ Water-Capsule เป็นสารประสานเนื้อ อย่างไรก็ตาม วิธีผสมที่เสนอ (โดยเฉพาะขั้นตอน C การเทส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำ) ไม่ถูกต้องสำหรับการสร้างอิมัลชัน Water-in-Oil ที่คงตัวด้วย Water-Capsule ควรเติมส่วนน้ำทีละน้อยลงในส่วนน้ำมันขณะปั่น

2. ตำแหน่งของ Light Cream Maker (ส่วนน้ำมัน vs. ส่วนน้ำ):
   Light Cream Maker เป็นสารประสานเนื้อและสารเพิ่มความข้นหลักสำหรับระบบ Oil-in-Water (O/W) คำอธิบายระบุว่าสามารถผสมในส่วนน้ำมัน หากมี หรือในส่วนน้ำ โดยไม่มี ส่วนน้ำมัน (ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความข้น)
   ในสูตร Water-in-Oil (W/O) เช่นของคุณ (ที่ใช้ Water-Capsule) Light Cream Maker มักจะใส่ใน ส่วนน้ำ เนื่องจากละลายน้ำได้และช่วยเพิ่มความข้นของส่วนน้ำซึ่งเป็นวัฏภาคภายในในอิมัลชัน W/O แม้ว่า Water-Capsule จะเป็นสารประสานเนื้อ W/O หลักที่ช่วยยึดระบบไว้ด้วยกัน การเพิ่มความข้นของหยดน้ำภายในด้วย Light Cream Maker สามารถปรับปรุงความคงตัวและเนื้อสัมผัสของอิมัลชัน W/O โดยรวมได้ ดังนั้น การใส่ Light Cream Maker ในส่วนน้ำจึงเหมาะสมในบริบทของสูตร W/O นี้ แม้ว่าคำอธิบายทั่วไปจะกล่าวถึงการผสมในส่วนน้ำมันสำหรับระบบ O/W ก็ตาม

3. ความแตกต่างระหว่างการใส่น้ำลงในน้ำมัน และการใส่น้ำมันลงในน้ำ:
   ลำดับการเติมวัฏภาคมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดประเภทของอิมัลชันที่เกิดขึ้น (Oil-in-Water หรือ Water-in-Oil) และเพื่อให้เกิดความคงตัวกับสารประสานเนื้อเฉพาะอย่าง

   • การเติมส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำ (ขั้นตอน C ของคุณ): วิธีนี้ใช้เพื่อสร้าง อิมัลชัน Oil-in-Water (O/W) น้ำเป็นวัฏภาคภายนอกที่ต่อเนื่อง และหยดน้ำมันกระจายตัวอยู่ในนั้น โดยทั่วไปจะได้เนื้อครีมที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ และล้างออกด้วยน้ำได้ง่าย
   • การเติมส่วนน้ำลงในส่วนน้ำมัน (แนะนำสำหรับ Water-Capsule): วิธีนี้ใช้เพื่อสร้าง อิมัลชัน Water-in-Oil (W/O) น้ำมันเป็นวัฏภาคภายนอกที่ต่อเนื่อง และหยดน้ำกระจายตัวอยู่ในนั้น โดยทั่วไปจะได้เนื้อครีมที่เข้มข้น ให้ความรู้สึกเคลือบผิวได้ดีกว่า และมักจะกันน้ำได้ดีกว่า เนื่องจากวัฏภาคภายนอกเป็นน้ำมัน
     เนื่องจาก Water-Capsule เป็นสารประสานเนื้อ W/O คุณ ต้อง เติมส่วนน้ำทีละน้อยลงในส่วนน้ำมันขณะปั่นเพื่อให้เกิดอิมัลชัน W/O อย่างถูกต้อง การเติมส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำจะไม่ทำงานอย่างถูกต้องกับสารประสานเนื้อ W/O และมีแนวโน้มที่จะทำให้แยกชั้นได้

4. (คำถามข้อ 4 ไม่ได้รวมอยู่ในรายการของคุณ)

5. ตำแหน่งของ AminoSilk:
   การใส่ AminoSilk หลังจากเนื้อครีมก่อตัวแล้ว (ขั้นตอน D ของคุณ) เป็นวิธีที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ AminoSilk ละลายได้ในน้ำมัน ซิลิโคน และเนื้อครีม การผสมลงในเนื้อครีมที่ทำเสร็จแล้วจะช่วยให้กระจายตัวและให้ประโยชน์ในการปรับปรุงเนื้อสัมผัส (ความนุ่มนวล ความเรียบเนียน การเกลี่ยง่าย) ข้อมูลที่คุณอ่านเกี่ยวกับการผสมกับน้ำก่อนก็เป็นวิธีที่ใช้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้เครื่องปั่น เนื่องจากช่วยให้ผงกระจายตัวในส่วนน้ำได้ดีก่อนนำไปรวมกับส่วนน้ำมันในขั้นตอนการทำอิมัลชัน อย่างไรก็ตาม การใส่ในขั้นตอนสุดท้ายลงในเนื้อครีมที่ก่อตัวแล้วเป็นวิธีที่นิยมและมีประสิทธิภาพสำหรับผงเช่น AminoSilk เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัส

6. การปรับสูตรสำหรับคนผิวมัน:
   เพื่อให้สูตรเหมาะสมกับคนผิวมันมากขึ้น การลดปริมาณสารให้ความนุ่มลื่นที่อาจทำให้รู้สึกหนักผิวเป็นแนวทางที่ดี การตัด WaterLock (สารให้ความชุ่มชื้น/สารสร้างฟิล์ม) และ LipidSoft CC (สารให้ความนุ่มลื่น) ออกจะช่วยลดความเข้มข้นของเนื้อครีมได้
   เพื่อควบคุมความมันและลดความเงาเพิ่มเติม คุณสามารถเพิ่มผงดูดซับความมันได้ ลองพิจารณาแทนที่น้ำบางส่วนหรือลดปริมาณสารให้ความนุ่มลื่นและเพิ่ม:

   • MatteSilica 5XL: ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อการดูดซับความมันสูงโดยเฉพาะและให้ผิวสัมผัสแบบแมทท์
   • PowderCream: คุณมีตัวนี้อยู่ในสูตรแล้ว และช่วยดูดซับน้ำมันและน้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนทาแป้ง คุณอาจเพิ่มเปอร์เซ็นต์เล็กน้อยได้ (อยู่ในช่วงที่แนะนำ 1-15%)
   • Oil-Fix O, S, หรือ W: ส่วนผสมที่มีซิลิกาเป็นหลักเหล่านี้สามารถช่วยลดความเหนอะหนะและให้ผิวสัมผัสแบบแมทท์ได้ นอกเหนือจากคุณสมบัติการขึ้นเนื้อเจล/เพิ่มความคงตัว Oil-Fix W มีประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณต้องการคงคุณสมบัติการกันน้ำไว้ด้วย
     สำหรับ Water-Capsule เป็นสารประสานเนื้อ W/O ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วจะให้ความรู้สึกเคลือบผิวและอาจหนักผิวกว่าอิมัลชัน O/W แม้ว่า Water-Capsule จะถูกออกแบบมาให้เหนอะหนะน้อยกว่า W/O ทั่วไป แต่อาจยังรู้สึกหนักเกินไปสำหรับคนผิวมันมากเมื่อเทียบกับครีมกันแดด O/W หากคุณต้องการคุณสมบัติการกันน้ำที่ Water-Capsule ให้มา คุณสามารถพยายามปรับสมดุลความเข้มข้นโดยการลดสารให้ความนุ่มลื่นอื่นๆ ลงอย่างมากและเพิ่มสารดูดซับความมัน สำหรับคนผิวมันมาก สูตรครีมกันแดดแบบ O/W อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีกว่า

7. การทำครีมกันแดดให้กันน้ำได้ ไม่เหนอะ:
   Water-Capsule เองมีส่วนสำคัญในการทำให้สูตรกันน้ำได้ดี โดยการสร้างอิมัลชัน W/O ที่มีวัฏภาคน้ำมันเป็นวัฏภาคต่อเนื่อง ซึ่งสร้างชั้นกันน้ำบนผิว นอกจากนี้ยังถูกออกแบบมาให้เหนอะหนะน้อยกว่าระบบ W/O ทั่วไป
   เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกันน้ำและลดความเหนอะหนะเพิ่มเติม ลองพิจารณา:

   • Oil-Fix W: ส่วนผสมนี้มีคุณสมบัติพิเศษในการปรับปรุงประสิทธิภาพการกันน้ำของสูตร Water-in-Oil และ Water-in-Silicone และช่วยลดความเหนอะหนะ
   • LipidSoft Fix: ตัวนี้มีคำอธิบายว่าเป็นสารกันน้ำ + สารเพิ่มความคงตัว
   • การใช้ซิลิโคนบางชนิดในส่วนน้ำมัน (เช่น Cyclomethicone หรือ Dimethicone) ก็สามารถช่วยให้เนื้อสัมผัสเนียนลื่น ไม่เหนอะหนะ และกันน้ำได้เล็กน้อย แม้ว่าจะไม่ใช่สารกันน้ำหลักก็ตาม

โดยสรุป ส่วนผสมในสูตรของคุณเหมาะสม แต่จำเป็นต้องปรับวิธีผสมเพื่อให้เกิดอิมัลชัน Water-in-Oil ที่ถูกต้องด้วย Water-Capsule โดยการค่อยๆ เติมส่วนน้ำลงในส่วนน้ำมันที่ให้ความร้อนขณะปั่น คุณสามารถปรับสูตรสำหรับผิวมันได้โดยการลดสารให้ความนุ่มลื่นและเพิ่มผงดูดซับความมัน เช่น MatteSilica 5XL หรือเพิ่ม PowderCream และพิจารณาว่าระบบ W/O เหมาะสมที่สุดสำหรับผิวมันมากเมื่อเทียบกับ O/W หรือไม่ สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการกันน้ำ สามารถพิจารณาใช้ Oil-Fix W หรือ LipidSoft Fix ได้