สูตรครีมทาฝ้าสำหรับผิวธรรมดา-ผิวแห้ง

สูตรนี้เน้นส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำ พร้อมให้ความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง และคำนึงถึงข้อกำหนดสำหรับการจดแจ้งเป็นเครื่องสำอาง

• ส่วนที่ 1: ส่วนน้ำ (Water Phase)

  • Distilled Water (น้ำกลั่น): ปรับตามส่วนที่เหลือ
  • WaterLock™: 2% (ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น)
  • Disodium EDTA: 0.2% (ช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตร โดยเฉพาะ Activated Resorcinol™)
  • ActiveProtec™ OX: 0.6% (ไม่บังคับ แต่แนะนำเพื่อช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีของสูตร)
  • Satin Mousse™: 2% (หรืออาจเพิ่มเป็น 2.5-3% หากเนื้อครีมเหลวเกินไปเมื่อผสมสารที่มีประจุ)

• ส่วนที่ 2: ส่วนน้ำมัน (Oil Phase)

  • LipidSoft™ Lite: 5% (เป็น Emollient เนื้อบางเบา ช่วยให้ครีมเกลี่ยง่าย)
  • Shea Butter Ultra Soft: 3% (ให้ความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวแห้ง)
  • Fractionated Coconut Oil: 2% (เป็นน้ำมันเนื้อเบา ช่วยบำรุงผิว)
  • Activated Resorcinol™: 1% (สารสำคัญช่วยลดเลือนฝ้า จุดด่างดำ)

• ส่วนที่ 3: สารสำคัญและสารกันเสีย (Actives & Preservative)

  • Liquid Azelaic™: 10% (สารสำคัญช่วยลดเลือนฝ้า ลดความมัน และลดการอุดตัน)
  • Tranexamic Acid (Trans-White™): 3% (สารสำคัญช่วยลดการสร้างเม็ดสี เหมาะสำหรับฝ้า)
  • Phenoxyethanol (Extra Pure): 1% (สารกันเสีย)

วิธีผสม:

1. เตรียมส่วนน้ำ: ในภาชนะที่ 1 ผสม Distilled Water, WaterLock™, Disodium EDTA, และ ActiveProtec™ OX (ถ้าใช้) คนให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ เติม Satin Mousse™ ลงไปในส่วนน้ำ คนหรือปั่นด้วยความเร็วต่ำถึงปานกลางจนได้เนื้อเจล
2. เตรียมส่วนน้ำมัน: ในภาชนะที่ 2 ผสม LipidSoft™ Lite, Shea Butter Ultra Soft, และ Fractionated Coconut Oil หาก Shea Butter ยังเป็นของแข็ง สามารถอุ่นเบาๆ (ไม่เกิน 50°C) เพื่อให้ละลายเข้ากับน้ำมันอื่นๆ เมื่อส่วนผสมน้ำมันเข้ากันดีแล้ว เติม Activated Resorcinol™ ลงไป คนหรือปั่นให้ละลายเข้ากันในส่วนน้ำมัน (ห้ามใช้ความร้อนสูง)
3. ทำ Emulsion: ค่อยๆ เทส่วนน้ำมัน (ภาชนะที่ 2) ลงในส่วนน้ำ (ภาชนะที่ 1) ทีละน้อย พร้อมกับคนหรือปั่นอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วต่ำถึงปานกลาง จนส่วนผสมรวมตัวเป็นเนื้อครีมเนียน
4. เติมสารสำคัญและสารกันเสีย: เมื่อได้เนื้อครีมแล้ว เติม Liquid Azelaic™, Tranexamic Acid, และ Phenoxyethanol ลงไป คนหรือปั่นให้เข้ากัน
5. ปรับ pH: ตรวจสอบค่า pH ของเนื้อครีม ควรปรับให้อยู่ในช่วง 4.5-5.5 ซึ่งเป็นช่วงที่ Activated Resorcinol™ มีความคงตัวและประสิทธิภาพดีที่สุด สามารถใช้สารปรับ pH ที่เหมาะสม (เช่น Lactic Acid หรือ Triethanolamine) ค่อยๆ เติมทีละน้อยพร้อมวัดค่า pH จนได้ค่าที่ต้องการ
6. ผสมขั้นสุดท้าย: คนหรือปั่นเบาๆ อีกครั้งเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี หลีกเลี่ยงการปั่นด้วยความเร็วสูงเกินไป
7. บรรจุภัณฑ์: ควรบรรจุในภาชนะทึบแสงเพื่อป้องกัน Activated Resorcinol™ จากแสง ซึ่งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสีได้

ข้อควรทราบสำหรับการจดแจ้ง อย.:

• การใช้ Tranexamic Acid ในเครื่องสำอางสามารถใช้ได้ไม่เกิน 3% หากใช้เกินกว่านี้จะต้องจดแจ้งเป็นยาสำหรับรักษาฝ้า
• Activated Resorcinol™ สามารถใช้ในผลิตภัณฑ์ทาแล้วไม่ล้างออกได้ไม่เกิน 1%
• Liquid Azelaic™ (Potassium azeloyl diglycinate) สามารถใช้ในเครื่องสำอางได้ตามความเหมาะสม โดยทั่วไปแนะนำที่ 5-10% เพื่อผลเรื่องความกระจ่างใสและลดความมัน
• สูตรนี้ใช้ส่วนผสมที่อยู่ในรายการที่อนุญาตให้ใช้ในเครื่องสำอางตามประกาศของ อย. หากใช้ในปริมาณที่แนะนำและปฏิบัติตามวิธีการผลิตที่ดี (GMP) ก็มีโอกาสสูงที่จะสามารถจดแจ้งเป็นเครื่องสำอางได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบข้อกำหนดล่าสุดจาก อย. อีกครั้ง และทำการทดสอบความคงตัวของสูตรก่อนผลิตจริง

การแก้ปัญหาเนื้อครีมและการเปลี่ยนสี:

• เนื้อครีมไม่ขึ้น/เหลว: หากใช้ Satin Mousse™ แล้วเนื้อครีมเหลว อาจเป็นเพราะมีสารที่มีประจุไฟฟ้า (Electrolyte) ในสูตรมากเกินไป (เช่น Liquid Azelaic™) สามารถแก้ไขได้โดยเพิ่มปริมาณ Satin Mousse™ เป็น 2.5-3% หรือพิจารณาใช้ Light Cream Maker™ แทน โดย Light Cream Maker™ จะมีวิธีการผสมที่แตกต่างออกไปคือต้องผสมในส่วนน้ำมันก่อนแล้วค่อยๆ เติมส่วนน้ำ
• การเปลี่ยนสี: Activated Resorcinol™ อาจมีปัญหาสีเปลี่ยนได้หาก pH ไม่เหมาะสม (ควรอยู่ที่ 4.5-5.5) และไวต่อแสง การเติม Disodium EDTA และ/หรือ ActiveProtec™ OX จะช่วยเพิ่มความคงตัวเรื่องสีได้ และการบรรจุในภาชนะทึบแสงเป็นสิ่งจำเป็น

สูตรนี้เป็นการรวมสารสำคัญที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการดูแลปัญหาฝ้า พร้อมทั้งส่วนผสมที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแห้ง และคำนึงถึงความคงตัวของสูตรและการจดแจ้งเป็นเครื่องสำอางค่ะ