สูตรครีม: ความรู้สึกร้อนจากสารให้ความชุ่มชื้นและการปรับค่า pH
คำถาม
ฉันทำครีมโดยใช้ส่วนผสมต่างๆ ได้แก่ Propylene Glycol (20%), Ethoxydiglycol (20%), Light Cream Maker™, Pep®-Coll, Matrixyl™ 3000, DMAE Bitartrate, Rose Hip Oil, Delentigo, MOIST72™, Panthenol (Vitamin B5), และ Cyclomethicone / Cyclopentasiloxane เมื่อทาแล้วครีมมีความรู้สึกร้อนที่ผิว จะแก้ไขครีมที่ทำไปแล้วได้อย่างไร ป้องกันไม่ให้เกิดในครั้งต่อไปได้อย่างไร และค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับครีมสูตรนี้ควรอยู่ในช่วงเท่าใด?
คำตอบ
การทำครีมและความรู้สึกร้อนที่ผิว
ความรู้สึกร้อนที่คุณประสบกับครีมที่ทำขึ้นนั้น น่าจะเกิดจากความเข้มข้นที่สูงของ Propylene Glycol และ Ethoxydiglycol (อย่างละ 20%) ในสูตรของคุณ ตามที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งไป ส่วนผสมเหล่านี้เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (humectants) และเมื่อใช้ในปริมาณสูง อาจทำให้เกิดความรู้สึกอุ่นๆ บนผิวขณะที่ดึงดูดและทำปฏิกิริยากับความชื้น แม้ความรู้สึกนี้อาจทำให้ไม่สบายผิว แต่ก็ไม่ได้บ่งชี้ว่าครีมก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น อาการแสบหรือแดง
การปรับค่า pH
สำหรับคำถามเรื่องการปรับค่า pH แม้ว่าความรู้สึกร้อนจะเกิดจากสารให้ความชุ่มชื้น ไม่ใช่ค่า pH แต่การตรวจสอบและปรับค่า pH ของครีมยังคงเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำเครื่องสำอาง ค่า pH มีผลต่อ:
- ความคงตัวของผลิตภัณฑ์: ช่วยให้ครีมมีความเสถียรเมื่อเวลาผ่านไป
- ประสิทธิภาพของส่วนผสมออกฤทธิ์: ส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด โดยเฉพาะเปปไทด์ เช่น Pep®-Coll และ Matrixyl™ 3000 รวมถึงวิตามิน เช่น Panthenol (Vitamin B5) จะทำงานได้ดีที่สุดในช่วงค่า pH ที่เหมาะสม
- ความเข้ากันได้กับผิว: ผิวที่มีสุขภาพดีมีค่า pH เป็นกรดอ่อนๆ (ประมาณ 4.5-5.5) การทำสูตรครีมให้อยู่ในช่วงที่เข้ากันได้กับผิว ซึ่งโดยทั่วไปคือ pH 4.5 ถึง 6.5 สำหรับครีมทาหน้า จะช่วยรักษาเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิวและลดโอกาสการระคายเคือง
ดังนั้น จึงแนะนำอย่างยิ่งให้ตรวจสอบค่า pH ของครีมโดยใช้เครื่องวัด pH หรือกระดาษวัด pH และปรับให้อยู่ในช่วง 4.5-6.5 หากจำเป็น
การแก้ไขครีมที่ทำไปแล้ว
สำหรับครีมที่คุณทำไปแล้ว ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ วิธีหลักที่อาจช่วยลดความรู้สึกร้อนได้คือ การเจือจางสูตรด้วยการเติมน้ำเพิ่ม อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าวิธีนี้จะทำให้ความเข้มข้นของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ทั้งหมดที่คุณใส่ไป เช่น Pep®-Coll, Matrixyl™ 3000, Rose Hip Oil, Delentigo, MOIST72™, และ Panthenol เจือจางลงไปด้วย ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพที่คาดหวังลดลง
การทำสูตรในครั้งต่อไป
เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกร้อนในครั้งต่อไป ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ โดยลดความเข้มข้นของ Propylene Glycol และ Ethoxydiglycol ลงให้ไม่เกิน 5% ต่อชนิด คุณยังคงได้รับคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นและเป็นตัวทำละลายที่ดีในปริมาณที่ต่ำกว่านี้ได้
สูตรของคุณประกอบด้วยส่วนผสมที่มีประโยชน์หลายชนิด ได้แก่:
- Light Cream Maker™: สารประสานเนื้อครีมและสารเพิ่มความข้น
- Pep®-Coll และ Matrixyl™ 3000: เปปไทด์ที่รู้จักในคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอยและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- DMAE Bitartrate: มักใช้เพื่อช่วยให้ผิวดูกระชับ
- Rose Hip Oil: น้ำมันบำรุงผิวที่อุดมด้วยกรดไขมัน ช่วยฟื้นฟูและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
- Delentigo: ส่วนผสมที่มักใช้เพื่อจัดการกับจุดด่างดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- MOIST72™: สารให้ความชุ่มชื้นที่ออกฤทธิ์ยาวนาน
- Panthenol (Vitamin B5): มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และเสริมเกราะป้องกันผิว
- Cyclomethicone / Cyclopentasiloxane: ซิลิโคนให้ความรู้สึกบางเบา เนียนลื่น และช่วยในการนำพาส่วนผสมเข้าสู่ผิว
การปรับลดปริมาณสารให้ความชุ่มชื้นและตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH อยู่ในช่วงที่เหมาะสม จะช่วยให้ครีมในอนาคตของคุณสบายผิวมากขึ้น ในขณะที่ยังคงได้รับประโยชน์จากส่วนผสมออกฤทธิ์เหล่านี้อย่างเต็มที่
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Propylene Glycol

Light Cream Maker™

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

MOIST72™

Rose Hip Oil (Virgin, Fresh)
