สูตรน้ำมันสำหรับผิวติดสเตียรอยด์: ความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนผสม

ถามโดย: shopslim เมื่อ: April 06, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ดิฉันได้ลองทำสูตรน้ำมันสำหรับผิวติดสเตียรอยด์ โดยมีส่วนผสมดังนี้:

  • Squalane (Olive) 49.99 %
  • Rose Hip Oil 30 %
  • LipidSoft™ F (Ethyl Linoleate) 10 %
  • Phospholipid (Hydrogenated Lecithin) 3%
  • Phyto Glycyrrhetinic Acid (จาก Licorice) 2 %
  • SKIN-DEFENSE® V 2 %
  • Alpha Bisabolol 1 %
  • FastRelief™ 2%
  • Vitamin E Acetate 0.01%

มีคำถามเกี่ยวกับสูตรนี้ดังนี้ค่ะ:

  1. สามารถผสมรวมกันได้หรือไม่คะ?
  2. เนื้อที่ได้ตอนผสมเสร็จจะหนักเพิ่มขึ้นหรือไม่คะ?
  3. ถ้าตัด Phospholipid (Hydrogenated Lecithin) 3% ออก จะมีผลต่อสูตรหรือประสิทธิภาพของสูตรมากไหมคะ?
  4. จากสูตรด้านบน ถ้าอยากผสมสารสกัดที่ละลายในน้ำได้หรือไม่คะ? (เช่น นำ Atopi-Telmesteine™, Reservoir-Tech, Plankton GP4G™ มาละลายใน Ethoxydiglycol 5% แล้วค่อยนำไปผสมกับสูตรด้านบน)

คำตอบ

ตามคำถามของคุณและการตอบกลับจากทีมงาน:

  1. สามารถผสมรวมกันได้หรือป่าวครับ
    สามารถผสมรวมกันได้ครับ หาก ตัด Phospholipid (Hydrogenated Lecithin) ออกจากสูตร ตามที่ทีมงานได้แจ้งไว้ Phospholipid ต้องการทั้งน้ำและน้ำมันเพื่อละลายและทำหน้าที่เป็นสารประสาน ในสูตรที่เป็นน้ำมันล้วนแบบนี้จะไม่สามารถละลายเข้ากันได้

  2. เนื้อที่ได้ตอนผสมเสร็จจะหนักเพิ่มขึ้นหรือป่าวครับ
    เนื้อที่ได้จะเป็นน้ำมันผสมครับ จะไม่หนักขึ้นในลักษณะที่เป็นเนื้อครีมหรือโลชั่น เนื้อสัมผัสที่ได้จะขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันที่ใช้ผสมกัน แต่จะยังคงเป็นเนื้อน้ำมัน การเติม Oil Blender (ตามคำแนะนำของทีมงาน) จะช่วยให้น้ำมันผสมเข้ากันได้ดี แต่ไม่ได้เปลี่ยนเนื้อสัมผัสจากน้ำมันครับ

  3. Phospholipid (Hydrogenated Lecithin) 3% ถ้าตัดออกจะมีผลต่อสูตรหรือประสิทธิภาพของสูตรมากมั้ยครับ
    การตัด Phospholipid (Hydrogenated Lecithin) ออก จะทำให้สูตรสูญเสียคุณสมบัติในการช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิวที่ Phospholipid อาจมี อย่างไรก็ตาม การตัดออกมีความจำเป็นเพื่อให้ส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรน้ำมันล้วนสามารถผสมเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนผสมอื่นๆ ที่เหลือในสูตรก็ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวและช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีครับ

  4. จากสูตรด้านบน ถ้าเราอยากผสมสารสกัดที่ละลายในน้ำได้ป่าวครับ (เช่น นำ Atopi-Telmesteine™, Reservoir-Tech, Plankton GP4G™ มาละลายใน Ethoxydiglycol 5% แล้วค่อยนำไปผสมกับสูตรด้านบน)
    ไม่สามารถทำได้ครับ การนำสารสกัดที่ละลายในน้ำมาละลายใน Ethoxydiglycol แล้วเติมลงในสูตรน้ำมันล้วนแบบนี้ จะไม่สามารถผสมเข้ากันได้อย่างเสถียรและอาจเกิดการแยกชั้นได้ ตามที่ทีมงานได้กล่าวไว้ สูตรนี้ไม่มีส่วนประกอบของน้ำ และการเติมสารละลายของสารที่ละลายน้ำ (แม้จะอยู่ในตัวทำละลายอย่าง Ethoxydiglycol) ก็เหมือนกับการนำส่วนประกอบที่มีลักษณะคล้ายน้ำเข้ามา ซึ่งจะเข้ากันไม่ได้กับน้ำมันล้วน หากต้องการใส่สารสกัดที่ละลายน้ำ จำเป็นต้องทำสูตรในรูปแบบอื่น เช่น สูตรอิมัลชั่น (ซึ่งมีทั้งส่วนของน้ำและน้ำมัน และต้องใช้สารประสานอย่าง Phospholipid แต่ใช้ในลักษณะที่แตกต่างจากแนวคิดสูตรน้ำมันล้วนของคุณ)

ความเหมาะสมโดยรวมของสูตร:
สูตรที่ปรับปรุงแล้ว (โดยตัด Phospholipid และ FastRelief ออก และอาจเติม Oil Blender เพื่อช่วยให้เข้ากันดี) ซึ่งประกอบด้วย Squalane, Rose Hip Oil, LipidSoft™ F, Phyto Glycyrrhetinic Acid, SKIN-DEFENSE® V, Alpha Bisabolol, และ Vitamin E Acetate มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเป้าหมายของคุณในการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการระคายเคืองและการแพ้ และช่วยฟื้นฟูผิว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผิวที่ติดสารสเตียรอยด์ ส่วนผสมเหล่านี้ให้กรดไขมันที่จำเป็น มีคุณสมบัติปลอบประโลมผิว และช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวครับ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)
Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)
เครื่องสำอาง
Rose Hip Oil (Extra Virgin Organic)
Rose Hip Oil (Extra Virgin Organic)
เครื่องสำอาง
Squalane (Olive)
Squalane (Olive)
เครื่องสำอาง
Phyto Glycyrrhetinic Acid
Phyto Glycyrrhetinic Acid
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ F (Ethyl Linoleate)
LipidSoft™ F (Ethyl Linoleate)
เครื่องสำอาง