สูตรน้ำยาบ้วนปากเสริมสร้างผิวฟัน/ลดเสียวฟัน และการใช้เจลฟอกสีฟัน

ถามโดย: austiname789 เมื่อ: December 24, 2022 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีสูตรน้ำยาบ้วนปากที่เสนอมา ประกอบด้วย Calcium Lactate, Calcium Glycerophosphate, Zinc Lactate, Hydroxyapatite และ Sodium Fluoride เพื่อเสริมสร้างผิวฟันและลดอาการเสียวฟัน อยากทราบว่ามีส่วนผสมใดที่ทำงานซ้ำซ้อนกันหรือไม่ จำเป็นต้องใส่ Disodium EDTA หรือไม่และควรใช้กี่ % และสามารถใช้ 20nm Silver Pure เป็นสารกันเสียหลักเพียงอย่างเดียวได้หรือไม่ นอกจากนี้ น้ำยาบ้วนปากนี้ควรใช้บ่อยแค่ไหน (เช้า/ก่อนนอน) ควรบ้วนน้ำสะอาดตามหรือไม่เพราะเหตุใด และมีข้อจำกัดด้านอายุผู้ใช้หรือไม่? อีกคำถามคือ เกี่ยวกับการใช้เจล Carbamide Peroxide (ระบุ 44% แต่คำตอบอิง 25%) จำเป็นต้องใช้คู่กับที่ครอบฟันเพื่อป้องกันการระคายเคืองริมฝีปาก/เหงือกหรือไม่ ควรใช้บ่อยแค่ไหนเพื่อให้ฟันขาว ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นกรด/มีสีหลังใช้หรือไม่ และการดูแลหลังใช้ควรแปรงฟันหรือบ้วนน้ำสะอาด?

คำตอบ

การวิเคราะห์สูตรน้ำยาบ้วนปาก

สูตรน้ำยาบ้วนปากที่คุณเสนอมามีส่วนผสมหลายชนิดที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างผิวฟันให้แข็งแรงและลดอาการเสียวฟัน มาดูส่วนประกอบและหน้าที่ของแต่ละตัวกันครับ:

  • Calcium Lactate และ Calcium Glycerophosphate: สารเหล่านี้ให้ไอออนแคลเซียมและฟอสเฟต ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวฟัน ช่วยสนับสนุนกระบวนการคืนแร่ธาตุ (remineralization) ฟื้นฟูความเสียหายของผิวฟันในระยะเริ่มต้น และเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวฟัน
  • Zinc Lactate: ส่วนผสมนี้มีเป้าหมายหลักคือการลดแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยลดคราบพลัคและต่อสู้กับกลิ่นปาก แม้หน้าที่หลักจะไม่ใช่การคืนแร่ธาตุโดยตรง แต่การรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในช่องปากก็เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปากโดยรวม
  • Hydroxyapatite: เป็น Hydroxylapatite สังเคราะห์ ซึ่งเป็นแร่ธาตุหลักที่พบในผิวฟันตามธรรมชาติ สามารถช่วยเติมเต็มช่องว่างเล็กๆ บนผิวฟันได้โดยตรง ช่วยในกระบวนการคืนแร่ธาตุ และอาจช่วยลดอาการเสียวฟันโดยการปิดท่อเล็กๆ ในเนื้อฟัน การใช้ที่ 7% อยู่ในอัตราที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก
  • Sodium Fluoride: ฟลูออไรด์เป็นสารออกฤทธิ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างดีในการป้องกันฟันผุ ทำงานโดยทำให้ผิวฟันทนทานต่อการโจมตีของกรดมากขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการคืนแร่ธาตุตามธรรมชาติ ความเข้มข้น 0.15% เป็นระดับมาตรฐานที่ใช้ในน้ำยาบ้วนปากสำหรับผู้ใหญ่

เกี่ยวกับการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันของส่วนผสม: แม้ว่า Calcium Lactate, Calcium Glycerophosphate, Hydroxyapatite และ Sodium Fluoride จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างฟันและคืนแร่ธาตุเหมือนกัน แต่ทำงานผ่านกลไกที่แตกต่างกัน เกลือแคลเซียมและฟอสเฟตให้วัตถุดิบ Hydroxyapatite จะเข้าไปรวมกับโครงสร้างผิวฟันโดยตรง และฟลูออไรด์ช่วยเพิ่มความทนทานของผิวฟันและอัตราการคืนแร่ธาตุ การใช้ร่วมกันสามารถให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมในการดูแลสุขภาพผิวฟันและลดอาการเสียวฟัน ไม่น่าจะต้องตัดส่วนผสมใดออกเนื่องจากการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน หากส่วนผสมเหล่านี้เข้ากันได้ดีในสูตร

Disodium EDTA: ใช่ โดยทั่วไปแล้วจำเป็นต้องมีสารคีเลต (chelating agent) เช่น Disodium EDTA ในสูตรที่เป็นน้ำ โดยเฉพาะน้ำยาบ้วนปาก ช่วยจับไอออนโลหะที่อาจมีอยู่ในน้ำ (แม้แต่น้ำบริสุทธิ์ก็อาจมีปริมาณเล็กน้อย) ซึ่งไอออนเหล่านี้อาจทำให้สูตรไม่เสถียร ความใสลดลง หรือลดประสิทธิภาพของส่วนผสมอื่นๆ รวมถึงสารกันเสียบางชนิด อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 0.1-0.2% ดังนั้น 0.2% เป็นปริมาณที่เหมาะสมครับ

20nm Silver Pure: นาโนซิลเวอร์มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ซึ่งสามารถช่วยลดแบคทีเรียในช่องปาก และอาจช่วยในการถนอมสูตรโดยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย อย่างไรก็ตาม การใช้นาโนซิลเวอร์เป็นสารกันเสีย เพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถให้การป้องกันที่ครอบคลุมต่อจุลินทรีย์ทุกชนิด (เช่น ยีสต์และรา) ที่อาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำอย่างน้ำยาบ้วนปากได้ ขอแนะนำอย่างยิ่ง ให้ใช้ระบบสารกันเสียที่ผ่านการทดสอบและครอบคลุมจุลินทรีย์หลายชนิดที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำยาบ้วนปากมีความเสถียรและปลอดภัยตลอดอายุการเก็บรักษา สามารถใช้นาโนซิลเวอร์เพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ในการต้านแบคทีเรียนอกเหนือจากระบบสารกันเสียหลักได้ครับ

การใช้น้ำยาบ้วนปาก:

  • ความถี่: การใช้น้ำยาบ้วนปากวันละสองครั้ง เช้าและก่อนนอน หลังจากการแปรงฟัน เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างผิวฟันและลดอาการเสียวฟัน
  • การบ้วนน้ำสะอาดตาม: สำหรับน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมช่วยคืนแร่ธาตุ เช่น ฟลูออไรด์และ Hydroxyapatite โดยทั่วไปไม่แนะนำ ให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทันทีหลังใช้ เพื่อให้สารออกฤทธิ์คงอยู่บนผิวฟันได้นานขึ้น ทำให้มีโอกาสสูงสุดในการเสริมสร้างผิวฟันและลดอาการเสียวฟัน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มอย่างน้อย 30 นาทีหลังใช้
  • ข้อจำกัดด้านอายุ: ความเข้มข้นของ Sodium Fluoride (0.15%) มักจะใช้สำหรับผู้ใหญ่และเด็กที่มีอายุมากกว่าที่กำหนด (โดยทั่วไปคือ 6 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละพื้นที่และการได้รับฟลูออไรด์ทั้งหมดจากแหล่งอื่น เช่น ยาสีฟัน) ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสำหรับเด็กเล็กมักมีความเข้มข้นของฟลูออไรด์ต่ำกว่า หรือไม่มีฟลูออไรด์เลย สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบแนวทางและข้อกำหนดเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากเกี่ยวกับความเหมาะสมตามอายุ

Carbamide Peroxide (สำหรับการฟอกสีฟัน)

เกี่ยวกับการใช้ Carbamide Peroxide (สมมติว่าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเจล 25% ตามที่ค้นพบ เนื่องจาก 44% ถือว่ามีความเข้มข้นสูงมากและมักใช้โดยผู้เชี่ยวชาญ):

  • การใช้ร่วมกับถาดฟอกสีฟัน: ใช่ เจล Carbamide Peroxide โดยเฉพาะที่ความเข้มข้น 25% หรือสูงกว่า มักถูกออกแบบมาให้ใช้ร่วมกับถาดฟอกสีฟันแบบเฉพาะบุคคลหรือแบบสำเร็จรูป ซึ่งช่วยให้เจลสัมผัสกับผิวฟันโดยตรง และที่สำคัญคือลดการสัมผัสกับเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ ในช่องปาก การสัมผัสโดยตรงอาจทำให้เกิดการระคายเคือง แสบร้อน หรือทำให้เหงือกขาวชั่วคราวได้
  • การระคายเคืองหากไม่ใช้ถาดฟอกสีฟัน: การใช้เจลโดยไม่มีถาด ทำให้เจลกระจายและสัมผัสกับริมฝีปากด้านใน เหงือก และเนื้อเยื่อช่องปากอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองและไม่สบายตัวได้
  • ความถี่ในการใช้เพื่อฟอกสีฟัน: ความถี่ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์และคำแนะนำ สำหรับเจล 25% การใช้ทุกวันเป็นระยะเวลาหนึ่ง (เช่น 1-2 สัปดาห์) เป็นเรื่องปกติเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ฟันขาว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์นั้นๆ อย่างเคร่งครัด
  • การหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นกรด/มีสี: ใช่ ขอแนะนำอย่างยิ่งให้หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม (เช่น กาแฟ ชา ไวน์แดง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่) และอาหาร/เครื่องดื่มที่เป็นกรดทันทีหลังจากการฟอกสีฟัน เนื่องจากผิวฟันอาจมีความพรุนชั่วคราวและไวต่อการติดสีหรือการกัดกร่อนของกรดมากขึ้น
  • การดูแลหลังใช้: หลังจากใช้เจลฟอกสีฟันแล้ว ควรถอดถาดออกและบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดให้ทั่วเพื่อล้างเจลที่ตกค้างออก หลีกเลี่ยงการแปรงฟันทันทีด้วยยาสีฟันที่มีฤทธิ์กัดกร่อน การบ้วนน้ำสะอาดมักจะเพียงพอ ปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลหลังใช้ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ครับ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Nano Silver 20nm Powder
Nano Silver 20nm Powder
เครื่องสำอาง
Zinc Lactate
Zinc Lactate
เครื่องสำอาง
Sodium Fluoride (anti-caries, oral care)
Sodium Fluoride (anti-caries, oral care)
เครื่องสำอาง
Calcium Glycerophosphate (anti-caries, oral care)
Calcium Glycerophosphate (anti-caries, oral care)
เครื่องสำอาง
Calcium Lactate
Calcium Lactate
เครื่องสำอาง
Carbamide Peroxide (Gel, 25% Carbamide Peroxide)
Carbamide Peroxide (Gel, 25% Carbamide Peroxide)
เครื่องสำอาง
Hydroxyapatite (Hexagonal, Synthetic)
Hydroxyapatite (Hexagonal, Synthetic)
เครื่องสำอาง