สูตรเจลครีมสำหรับผิวผสม

คุณต้องการทำครีมเนื้อเจลสำหรับผิวผสมที่ช่วยปรับสมดุลและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ส่วนผสมที่คุณเลือกมานั้นเหมาะสมกับวัตถุประสงค์นี้ครับ

มาวิเคราะห์คำถามของคุณเกี่ยวกับเนื้อสัมผัสและวิธีการผสมกันครับ:

เนื้อสัมผัส (ความเหนอะหนะและความข้นของเจล)

• ความเหนอะหนะ: สูตรของคุณมีสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีหลายตัว เช่น Glycerin, Natural Moisturizing Amino Acids, Aloe Vera Extract, Honey Extract และ Panthenol ส่วนผสมเหล่านี้ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและดูอิ่มน้ำได้ดีเยี่ยม แต่บางครั้งก็อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะหรือหนึบๆ ได้บ้าง โดยเฉพาะถ้าใช้ในปริมาณรวมกันค่อนข้างสูง WaterLock (Polyquaternium-51) ถูกออกแบบมาให้รู้สึกนุ่มลื่นบนผิวและช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำโดยไม่ทำให้เหนอะหนะมากนัก Dimethyl Isosorbide (DMI) เป็นตัวทำละลายและช่วยนำพาสารสำคัญเข้าสู่ผิว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่ทำให้เหนอะหนะ ส่วน AnyGel มีคุณสมบัติให้เนื้อเจลที่ไม่เหนอะหนะ โดยรวมแล้ว การผสมผสานของสารให้ความชุ่มชื้นเหล่านี้อาจทำให้รู้สึกหนึบๆ เล็กน้อยในตอนแรก แต่ความรู้สึกสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสโดยรวมและการซึมซาบของผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจจะไม่เหนอะหนะจนเกินไปครับ
• AnyGel 1%: AnyGel (Dehydroxanthan Gum) เป็นสารก่อเนื้อเจลในน้ำที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเนื้อเจล คุณสมบัติพิเศษคือทนกรด ด่าง และอิเล็กโทรไลต์ได้ดี และให้เนื้อเจลที่ไม่เหนอะหนะ อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 1-2.5% การใช้ที่ 1% ถือเป็นปริมาณที่ค่อนข้างน้อยในขอบเขตที่แนะนำ ซึ่งจะให้เนื้อเจล แต่เนื้ออาจจะค่อนข้างเบาและเหลว คล้ายเซรั่มข้นๆ มากกว่าเจลเนื้อครีมที่ข้นกว่า หากคุณต้องการเนื้อเจลที่ข้นขึ้น ไม่เหมือนเซรั่ม แนะนำให้ลองเพิ่มปริมาณ AnyGel เป็น 1.5% หรือ 2% ครับ โปรดทราบว่าส่วนผสมบางตัวในสูตรของคุณ โดยเฉพาะอิเล็กโทรไลต์ เช่น Vitamin B6 และ Aloe Vera Extract อาจส่งผลให้ความหนืดของเจลที่ได้จาก AnyGel ลดลง ทำให้ 1% อาจให้เนื้อที่บางกว่าที่คาดไว้ได้ คุณอาจต้องทดลองปรับปริมาณเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ

วิธีการผสม

วิธีการผสมที่คุณเสนอมานั้นใช้ได้ในเบื้องต้น แต่มีข้อควรปรับปรุงเล็กน้อยตามคุณสมบัติของส่วนผสม เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและมีความคงตัว:

• Vitamin B6 ไวต่อความร้อน (สูงกว่า 40°C) และแสง และมีความคงตัวดีที่สุดในช่วง pH ต่ำ (2-6) ควรเติมในขั้นตอนหลังๆ หลังจากที่ไม่มีการให้ความร้อนแล้ว และควรหลีกเลี่ยงแสง
• HydroAlgae ก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C เช่นกัน
• Mild Preserved Eco ควรเติมเป็นลำดับสุดท้ายหลังจากที่เนื้อเจลเริ่มก่อตัวแล้ว นอกจากนี้ การละลายในน้ำอาจต้องใช้เวลาในการปั่นหรือคนเพื่อให้ใส
• AnyGel จำเป็นต้องกระจายตัวและดูดน้ำอย่างเหมาะสมในส่วนของน้ำเพื่อสร้างเนื้อเจลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเติม AnyGel เป็นตัวสุดท้ายในสารละลายที่มีส่วนผสมอื่นๆ อยู่แล้ว (รวมถึงอิเล็กโทรไลต์ที่อาจรบกวนการสร้างเจล) อาจทำให้การก่อเนื้อเจลไม่สมบูรณ์หรือเกิดการจับตัวเป็นก้อนได้ง่าย โดยทั่วไปแล้ว ควรนำสารก่อเนื้อเจลมาละลายหรือกระจายตัวในส่วนของน้ำก่อน แล้วจึงค่อยเติมส่วนผสมอื่นๆ

นี่คือวิธีการผสมที่แนะนำ:

1. ในภาชนะหลัก ผสมน้ำกลั่นและ Glycerin เข้าด้วยกัน
2. ค่อยๆ โปรย AnyGel ลงในส่วนผสมน้ำ/Glycerin พร้อมกับคนหรือปั่นอย่างต่อเนื่อง ปั่นจน AnyGel ดูดน้ำและสร้างเนื้อเจลที่เนียนเข้ากันดี อาจใช้เวลาสักครู่
3. ในภาชนะเล็กๆ แยกต่างหาก ละลาย Vitamin B6 ในน้ำกลั่นปริมาณเล็กน้อย
4. เติม WaterLock, HydroAlgae, Natural Moisturizing Amino Acids, Aloe Vera Extract, Honey Extract, DMI และ Panthenol ลงในส่วนผสมเจลหลัก คนผสมเบาๆ แต่ให้เข้ากันดี หลีกเลี่ยงการให้ความร้อนสูงเกินไปในขั้นตอนนี้
5. เติมสารละลาย Vitamin B6 ลงในส่วนผสมหลัก คนให้เข้ากัน
6. สุดท้าย เติม Mild Preserved Eco ลงในส่วนผสม และคนหรือปั่นให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าละลายใสดีแล้ว
7. ตรวจสอบและปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ค่า pH ที่เหมาะสมควรอยู่ในช่วงที่ส่วนผสมส่วนใหญ่มีความคงตัว ซึ่งน่าจะอยู่ระหว่าง 4.0 ถึง 6.5

การทำตามวิธีการนี้จะช่วยให้ได้เจลครีมที่มีความคงตัวและมีประสิทธิภาพตามที่คุณต้องการสำหรับผิวผสมครับ