คำแนะนำสำหรับเจลอาบน้ำ

ส่วนผสมที่ไม่จำเป็นและส่วนผสมทางเลือก

จากส่วนผสมในเจลอาบน้ำที่คุณลูกค้าชอบ: Aqua, Ammonium Lauryl Sulfate, Cocamidopropylbetain, Shea butter, Sunflower oil, ricebran oil, Glycerine, Vit E, Acrylates/Stearth-20 Methacrylate Crosspolymer, CoQ10, Mulberry extract, EDTA, Ethylhexy Glycerin, Wheat protein, fragrance, Methylisothiazolinone

• Ammonium Lauryl Sulfate (ALS) เป็นสารซักฟอกกลุ่มซัลเฟตที่ค่อนข้างรุนแรง ไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้สารซักฟอกที่อ่อนโยนกว่า เช่น Lauryl Glucoside หรือ Cocamidopropyl Betaine
• ส่วนผสมบำรุงผิวอื่นๆ เช่น Shea butter, Sunflower oil, Rice bran oil, Glycerine, Vitamin E, CoQ10, Mulberry extract, Wheat protein สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการบำรุงผิว

ความหมายของส่วนผสมบางชนิด

• Acrylates/Steareth-20 Methacrylate Crosspolymer: เป็นสารสร้างเนื้อเจลหรือเพิ่มความหนืดในสูตร ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีเนื้อสัมผัสที่ต้องการ สารในกลุ่มใกล้เคียงที่อาจใช้แทนได้คือ Aristoflex AVC
• EDTA: เป็นสารคีเลต (Chelating Agent) ช่วยจับไอออนโลหะในน้ำ (เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม) เพื่อป้องกันไม่ให้ไอออนเหล่านี้รบกวนความเสถียรและประสิทธิภาพของสูตร ช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์
  • Disodium EDTA และ Tetrasodium EDTA แตกต่างกันที่ช่วง pH ที่ทำงานได้ดี Disodium EDTA เหมาะกับสูตรที่มี pH ระหว่าง 3-9 ในขณะที่ Tetrasodium EDTA เหมาะกับ pH ระหว่าง 8-12 สำหรับเจลอาบน้ำที่มี pH เหมาะกับผิว (ประมาณ 5-6) ควรเลือกใช้ Disodium EDTA
• Ethylhexylglycerin: ทำหน้าที่เป็นสารกันเสียชนิดอ่อนโยน และยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น มักใช้ร่วมกับสารกันเสียอื่นๆ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

คำถามเพิ่มเติมและการปรับสูตร

• การแทนที่ Methylisothiazolinone ด้วย Phenoxyethanol 1%: สามารถทำได้ค่ะ Phenoxyethanol 1% เป็นสารกันเสียที่ใช้กันทั่วไป
• การใช้ Ammonium Chloride หรือ Sodium Chloride: เกลือเหล่านี้ใช้เพิ่มความหนืดในสูตรที่มีสารซักฟอกกลุ่มซัลเฟตเป็นหลัก หากเปลี่ยนไปใช้สารซักฟอกชนิดไม่มีประจุ (Non-ionic) เช่น Lauryl Glucoside เกลือจะไม่ช่วยเพิ่มความหนืด แนะนำให้ใช้สารสร้างความหนืดชนิดอื่น เช่น SugarThick แทน
• การใช้ Lauryl Glucoside และ Cocamidopropyl Betaine ร่วมกัน: สามารถใช้ร่วมกันได้ค่ะ เพื่อให้ได้ฟองและคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับผิวแพ้ง่าย แนะนำให้เริ่มต้นที่ความเข้มข้นรวมประมาณ 5% แล้วปรับตามความเหมาะสม
• ClearClean: โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้ ClearClean ยกเว้นต้องการใส่น้ำมันบำรุงผิวลงในสูตรเจลอาบน้ำที่ต้องการให้เนื้อใส ClearClean จะช่วยประสานน้ำมันให้เข้ากับน้ำและคงความใสไว้ได้ หากไม่ต้องการให้มีน้ำมันในสูตร หรือไม่เน้นความใสมาก อาจไม่จำเป็นต้องใช้
• การปรับค่า pH: หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้ว ควรวัดค่า pH ของสูตร หากค่า pH ไม่อยู่ในช่วงที่ต้องการ (ประมาณ 5-6 สำหรับผิว) สามารถใช้กรด เช่น Lactic Acid หรือ Citric Acid ในการปรับลดค่า pH ได้ เลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งได้ค่ะ
• การเพิ่มสารเพื่อให้กลิ่นน้ำหอมติดทน: สำหรับเจลอาบน้ำทั่วไป กลิ่นมักจะไม่ติดทนทั้งวัน หากต้องการช่วยกระจายกลิ่นในสูตรน้ำ แนะนำให้ผสมน้ำหอมกับสารช่วยละลายน้ำหอม เช่น Flora Solve (อัตราส่วนน้ำหอมต่อ Flora Solve ประมาณ 1:3) ก่อนเติมลงในเจลอาบน้ำ หากต้องการให้กลิ่นติดทนนานเป็นพิเศษ ต้องใช้สารตรึงกลิ่น (Fixative) ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น
• สัดส่วนน้ำหอมและ Dipropylene Glycol/Tween20: สัดส่วนน้ำหอมขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นที่ต้องการ (โดยทั่วไป 0.5-2%) หากใช้ Flora Solve ในการช่วยกระจายกลิ่น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Dipropylene Glycol หรือ Tween20 ค่ะ