สูตรเซรั่มเพื่อฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และผิวกระจ่างใส

นี่คือสูตรที่อิงตามส่วนประกอบสำคัญและสารสร้างเนื้อที่คุณต้องการสำหรับเซรั่มที่เน้นการฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และผิวกระจ่างใส เหมาะสำหรับผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง มีสิวเล็กน้อย และใช้ในช่วงกลางคืนเป็นหลัก

หมายเหตุสำคัญ: เปอร์เซ็นต์ที่คุณระบุมาทั้งหมดรวมกันได้ 100% สูตรนี้อิงตามเปอร์เซ็นต์เหล่านี้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าสูตรนี้จะไม่มีส่วนของน้ำหรือส่วนประกอบจำเป็นอื่นๆ เช่น สารกันเสีย และสารปรับค่า pH ที่จำเป็นสำหรับเซรั่มพื้นฐานที่เป็นน้ำที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ คุณจะต้องปรับลดเปอร์เซ็นต์ของส่วนประกอบเหล่านี้ลงเพื่อเพิ่มส่วนของน้ำและสารเติมแต่งอื่นๆ ที่จำเป็น

สูตรที่เสนอ (อิงตามเปอร์เซ็นต์ที่คุณให้มา):

• Galactomyces Ferment Filtrate: 62%
• Repair Activator™ BG: 15%
• Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): 4%
• GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): 4%
• Activated Resorcinol™: 1%
• Laurocapram (Water Soluble): 2%
• Silicone Gel (Ultra Clear): 5%
• Satin Cream Maker™: 1%
• Dimethyl Isosorbide (DMI): 3%
• Phospholipid: 3%

หน้าที่ของส่วนประกอบ:

• Galactomyces Ferment Filtrate: ช่วยฟื้นฟูและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน
• Repair Activator™ BG: ช่วยซ่อมแซม DNA ผิวที่เสียหายจากแสง UV และมีคุณสมบัติ Anti-aging
• Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแดง/รอยดำ (hyperpigment) เพิ่มความชุ่มชื้นโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซราไมด์ เสริมเกราะป้องกันผิว ลดความมันบนใบหน้า และเหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิว
• GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): ทำงานร่วมกับ Niacinamide เพื่อให้ผิวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ กระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติเพื่อความชุ่มชื้น และช่วยลดการเกิดสิวได้
• Activated Resorcinol™: สารให้ความกระจ่างใสที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสี โปรดทราบว่า Activated Resorcinol™ ที่คุณระบุมานั้นละลายในน้ำมัน สำหรับเซรั่มพื้นฐานที่เป็นน้ำ การใช้ NanoRes™ (Liposome 4-Butyl Resorcinol) ซึ่งละลายน้ำได้ อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าเพื่อให้ผสมเข้ากับสูตรได้ง่ายขึ้น
• Laurocapram (Water Soluble): ทำหน้าที่เป็นสารนำพา (penetration enhancer) สำหรับส่วนประกอบสำคัญที่ละลายน้ำได้
• Silicone Gel (Ultra Clear): ช่วยเพิ่มความสามารถในการเกลี่ย ให้ความรู้สึกนุ่ม ลื่น ไม่เหนอะหนะ และบางเบาบนผิว ทำให้ผิวดูนุ่มและแมทท์
• Satin Cream Maker™: สารอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความข้นที่ไม่ใช้ความร้อน ช่วยสร้างเนื้อเซรั่มและช่วยผสานส่วนประกอบที่ละลายในน้ำมัน/ซิลิโคนเข้ากับส่วนของน้ำ
• Dimethyl Isosorbide (DMI): ตัวทำละลายและสารนำพาที่ช่วยนำพาส่วนประกอบต่างๆ เข้าสู่ผิวได้ดี
• Phospholipid: ช่วยให้ส่วนประกอบซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น ให้ความชุ่มชื้น บำรุงเกราะป้องกันผิว และลดการระคายเคือง จำเป็นต้องกระจายตัวในทั้งส่วนของน้ำและน้ำมัน

ข้อควรพิจารณาในการผสม:

เนื่องจากส่วนประกอบบางชนิดไวต่อความร้อน (Activated Resorcinol, Galactomyces, Repair Activator, Phospholipid) แนะนำให้ใช้วิธีผสมแบบเย็นหรือใช้ความร้อนต่ำ (ต่ำกว่า 40°C)

1. รวมส่วนประกอบที่ละลายน้ำได้ (Galactomyces, Repair Activator, Safe-B3, GlucoBright, Laurocapram, DMI) ในส่วนของน้ำ
2. กระจาย Satin Cream Maker™ ในส่วนของน้ำและคนให้เข้ากัน
3. ในภาชนะแยกต่างหาก กระจาย Phospholipid ในน้ำมันปริมาณเล็กน้อยหรือส่วนหนึ่งของน้ำที่อุณหภูมิห้อง (ต่ำกว่า 40°C) และปั่นให้เข้ากัน
4. ละลาย Activated Resorcinol™ ซึ่งละลายในน้ำมัน ในส่วนของน้ำมันที่เหมาะสม (เช่น Silicone Gel หรือน้ำมันชนิดอื่นที่เข้ากันได้กับสูตรของคุณ)
5. ค่อยๆ เติมส่วนของน้ำมันที่มี Activated Resorcinol™ และ Silicone Gel ลงในส่วนของน้ำ พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเนื้ออิมัลชัน/เซรั่ม
6. เติม Phospholipid ที่กระจายตัวแล้วลงในส่วนผสมหลัก และปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน
7. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผสมเข้ากันดี (ปั่นอย่างน้อย 1000 รอบต่อนาที เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที หลังจากเติม Phospholipid) แต่หลีกเลี่ยงความเร็วที่สูงเกินไป (สูงกว่า 2500 รอบต่อนาที สำหรับ Satin Cream Maker)
8. ปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (ประมาณ 4.5-5.5) เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนประกอบ
9. เพิ่มสารกันเสียที่เหมาะสม

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

• คุณจะต้องปรับลดเปอร์เซ็นต์เพื่อรวมน้ำ (ซึ่งเป็นพื้นฐานของเซรั่ม) และสารกันเสีย
• พิจารณาใช้ NanoRes™ (Liposome 4-Butyl Resorcinol) แทน Activated Resorcinol™ เพื่อให้ผสมเข้ากับสูตรพื้นฐานที่เป็นน้ำได้ง่ายขึ้น
• ทำการทดสอบความเสถียรของสูตรสุดท้ายของคุณ.