สูตรเซรั่มสำหรับผิวมัน เป็นสิว และมีริ้วรอย
คำถาม
ลักษณะผิวของดิฉันคือผิวมัน ขาดน้ำ มีการลอกข้างจมูก มีสิวเสี้ยนและสิวอุดตันเนื่องจากรูขุมขนกว้าง มีรอยแดงรอยดำจากสิวเยอะ และมีปัญหาริ้วรอย/ไม่กระชับ เคยใช้ Lactic Acid แล้วรู้สึกว่าสิวขึ้นค่ะ
พอใช้ skincare ที่มี hyaluron หรือพวก anti age แล้วผิวมีความชุ่มชื่นขึ้น แต่หน้ายังมีความมันเหมือนเดิม เลยอยากปรึกษาสูตรที่เหมาะกับผิวมัน (ไม่ใช้น้ำมัน) แต่มีการเติมน้ำให้ผิว เป็นเนื้อเซรั่ม ช่วยฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดีหรือแข็งแรง ลดรอยแดงรอยดำ ลดริ้วรอย ยกกระชับผิว
สูตรประมาณนี้ได้ไหมคะ รบกวนแนะนำหรือปรับแต่งหน่อยค่ะ
สูตรที่เสนอ:
- Safe-B3......................5%
- GlucoBright ................4%
- Dimethyl Isosorbide (DMI)...3%
- Mild Preserved Eco..........1%
- Ectoin......................2%
- Repair Activator............10%
- beta glucan.................5%
- Double Hyaluron Liquid......6%
- Pal-GHK.....................5%
- Argireline.................10%
- Wrinkle-Lax................0.5%
- Wrinkle-Fill..............2%
- Adenosine Liposome.........5%
- MOIST72.....................2%
- TaraGel.....................1.5%
- น้ำ..........................38%
คำถาม:
- กลุ่ม whitening (Safe-B3, GlucoBright) ประสิทธิภาพจะเพียงพอต่อการลดรอยดำไหมคะ
- แล้วปริมาณและชนิดสารเยอะไปไหมคะ
คำตอบ
ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรเซรั่ม
จากลักษณะผิวของคุณ (ผิวมัน ขาดน้ำ มีการลอกข้างจมูก มีสิวเสี้ยน สิวอุดตันเนื่องจากรูขุมขนกว้าง มีรอยแดงรอยดำจากสิวเยอะ และมีปัญหาริ้วรอย/ยกกระชับ) และสูตรเซรั่มที่คุณเสนอมา นี่คือการวิเคราะห์และข้อเสนอแนะบางประการค่ะ
เป้าหมายของคุณคือการสร้างเซรั่มที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ซึ่งช่วยเติมน้ำให้ผิว เสริมเกราะป้องกันผิว ลดรอยสิว และมีคุณสมบัติลดเลือนริ้วรอย ส่วนผสมที่คุณเลือกมานั้นตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ได้ดี
มาดูส่วนผสมหลักในสูตรของคุณกันค่ะ:
- การเติมน้ำให้ผิว: ส่วนผสมอย่าง Double Hyaluron Liquid, MOIST72, Beta Glucan และ GlucoBright เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมในการให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมัน ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผิวขาดน้ำของคุณได้
- ควบคุมความมันและรูขุมขน: Safe-B3 (Niacinamide) มีประโยชน์ในการลดความมันและช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
- รอยสิว (รอยแดง/รอยดำ): การผสมผสานระหว่าง Safe-B3 (Niacinamide) และ GlucoBright (Acetyl Glucosamine) มีงานวิจัยรองรับว่ามีประสิทธิภาพในการลดรอยดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ การใช้ Safe-B3 ที่ 5% และ GlucoBright ที่ 4% อยู่ในอัตราส่วนที่แนะนำสำหรับการลดรอยดำโดยเฉพาะ และควรให้ผลลัพธ์ที่ดี GlucoBright ยังมีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดสิวได้ด้วย
- เสริมเกราะป้องกันผิว: Safe-B3 (Niacinamide), Repair Activator (Bifida Ferment Lysate), Ectoin และ Beta Glucan ล้วนมีส่วนช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการระคายเคือง และส่งเสริมสุขภาพผิวโดยรวม ซึ่งสำคัญมากสำหรับผิวที่มีแนวโน้มขาดน้ำและเป็นสิวง่าย
- ลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับ: คุณมีส่วนผสมของเปปไทด์หลายชนิด (Pal-GHK, Argireline), Wrinkle-Lax และ Wrinkle-Fill ส่วนผสมเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่ปัญหาผิวสูงวัยในหลายด้าน เช่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายเพื่อลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เปอร์เซ็นต์ที่คุณเลือกใช้สำหรับสารออกฤทธิ์เหล่านี้โดยทั่วไปอยู่ในช่วงที่แนะนำหรือค่อนไปทางสูง ซึ่งควรให้ประโยชน์ในการลดเลือนริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพ
- สารนำพา: Dimethyl Isosorbide (DMI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำพาสารออกฤทธิ์ต่างๆ เข้าสู่ผิว
สำหรับคำถามเฉพาะของคุณ:
- ประสิทธิภาพในการลดรอยดำ: ใช่ค่ะ การผสมผสานระหว่าง Safe-B3 (Niacinamide) และ GlucoBright (Acetyl Glucosamine) ในความเข้มข้นที่คุณใส่มานั้นเป็นที่ทราบกันดีว่ามีประสิทธิภาพในการลดรอยดำและปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น
- ส่วนผสมเยอะเกินไปหรือไม่/ความซับซ้อน: สูตรของคุณมีส่วนผสมค่อนข้างมาก โดยมีสารออกฤทธิ์หลายชนิดที่มุ่งเป้าไปที่ปัญหาหลายด้าน แม้ว่าส่วนผสมหลายชนิดจะเสริมฤทธิ์กันได้ แต่สูตรที่ซับซ้อนมากๆ บางครั้งอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดปฏิกิริยาระหว่างส่วนผสม หรืออาจทำให้ผิวแพ้ง่ายขึ้น และยังทำให้ระบุสาเหตุได้ยากหากผิวเกิดการระคายเคือง (เช่นเดียวกับที่คุณเคยแพ้ Lactic Acid) อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมส่วนใหญ่ที่คุณระบุมา (ยกเว้น "Adenosine Liposome" และ "TaraGel" ที่ไม่มีข้อมูลรายละเอียด) ดูเหมือนจะเข้ากันได้ในสูตรเซรั่มแบบน้ำ และตอบโจทย์ปัญหาผิวที่คุณแจ้งมาได้ดี เปอร์เซ็นต์การใช้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในช่วงที่แนะนำตามข้อมูลผลิตภัณฑ์
ข้อควรพิจารณาและการปรับปรุง:
- การแพ้ Lactic Acid: คุณแจ้งว่าเคยแพ้ Lactic Acid ซึ่งบ่งชี้ว่าผิวของคุณอาจไวต่อสารผลัดเซลล์ผิวหรือผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ต่ำ สูตรปัจจุบันของคุณหลีกเลี่ยงสารผลัดเซลล์ผิวที่รุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายของเซรั่มอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมต่างๆ (โดยทั่วไปคือกรดอ่อนๆ ถึงกลางๆ ประมาณ pH 4-7) เพื่อรักษาประสิทธิภาพและลดโอกาสการระคายเคือง
- "Adenosine Liposome" และ "TaraGel": ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ "Adenosine Liposome" และ "TaraGel" บางส่วนไม่ครบถ้วนในรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่ค้นหาได้ สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบอัตราการใช้ที่แนะนำ การละลาย และความเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ และเนื้อเซรั่มที่ต้องการ โดยอ้างอิงข้อมูลรายละเอียดจากผู้จำหน่ายโดยตรง
- ยอดรวมเปอร์เซ็นต์: เปอร์เซ็นต์ส่วนผสมที่คุณระบุรวมกันได้ 95% ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนที่เหลืออีก 5% เป็นส่วนผสมพื้นฐานอื่นๆ เช่น น้ำ หรือส่วนผสมที่เหมาะสมอื่นๆ เพื่อให้ครบ 100%
- การทดสอบการแพ้: เนื่องจากมีส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด และคุณเคยมีประวัติการแพ้ Lactic Acid ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทำการทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้กับใบหน้าทั้งหมด
โดยรวมแล้ว สูตรที่คุณเสนอมาเป็นเซรั่มที่มีประสิทธิภาพสูงและครอบคลุมหลายปัญหาผิว การผสมผสานส่วนผสมที่ช่วยเติมน้ำ เสริมเกราะป้องกันผิว ลดรอยดำ และลดเลือนริ้วรอย ถือว่าเลือกมาได้ดีสำหรับผิวที่มัน ขาดน้ำ มีปัญหาริ้วรอย และรอยสิว เพียงแต่ควรคำนึงถึงความซับซ้อนของสูตร และตรวจสอบความเข้ากันได้และค่า pH ที่เหมาะสมค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)

MOIST72™

Double Hyaluron Liquid

Wrinkle-Fill™ (Acetyl-Tyrosine)

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Wrinkle-Lax™ คลายริ้วรอย

Ectoine (Ectoin, from Bio-fermentation)

Dimethyl Isosorbide (DMI)
