สูตรโลชั่นบำรุงผิวกายผสมสารปรับผิวขาว: วิธีทำและข้อควรพิจารณา

สวัสดีค่ะ

เห็นสูตรโลชั่นบำรุงผิวตัวที่คุณปรับมาแล้วนะคะ สูตรนี้มีส่วนผสมที่ดีหลายตัวที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและให้ความชุ่มชื้นค่ะ

สูตรที่คุณเสนอมาคือ:

• NAG 4%
• Vit. B3 4%
• Almond Oil 10%
• Glycolic Acid 2%
• Alpha Arbutin 2%
• Oxyresveratrol 5%
• Phenoxyethanol 1%
• Satin Mousse 3%
• Water 69%

ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสูตร:

1. ส่วนผสม: สูตรนี้รวมสารออกฤทธิ์ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสหลายตัว (NAG, Vit B3, Glycolic Acid, Alpha Arbutin, Oxyresveratrol) ซึ่งมีประสิทธิภาพดี แต่ก็อาจเพิ่มโอกาสในการระคายเคืองผิวได้ โดยเฉพาะ Glycolic Acid
2. Glycolic Acid และค่า pH: Glycolic Acid เป็น AHA ที่ต้องใช้ในค่า pH ที่ต่ำ (โดยทั่วไปต่ำกว่า 4-5) จึงจะมีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิว การใส่ Glycolic Acid จะทำให้ค่า pH ของสูตรลดลงอย่างมาก คุณ ต้อง วัดและปรับค่า pH สุดท้ายของโลชั่น ค่า pH ที่ต่ำเกินไปอาจทำให้ระคายเคือง ส่วนค่า pH ที่สูงเกินไปจะทำให้ Glycolic Acid ทำงานได้ไม่ดี
3. ความเข้มข้นของ Oxyresveratrol: Oxyresveratrol 5% เป็นความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูง ควรตรวจสอบการละลายในสูตรของคุณ และตรวจสอบอัตราการใช้ที่แนะนำเพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพ
4. Satin Mousse: การเพิ่ม Satin Mousse เป็น 3% เป็นการปรับที่ดีตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ เนื่องจาก Glycolic Acid อาจทำให้เนื้อสูตรเหลว ปริมาณนี้ควรช่วยในการอิมัลซิไฟออยล์ 10% และได้เนื้อโลชั่นที่เหมาะสม
5. น้ำมัน/บัตเตอร์: คุณได้ตัด Shea Butter ออกไป ซึ่งดีแล้วหากกังวลเรื่องการอุดตันผิว Almond Oil 10% ช่วยให้ความชุ่มชื้น แต่ความรู้สึกบนผิวจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคุณ (ตามที่เจ้าหน้าที่สอบถาม)

สรุป: สูตรนี้มีศักยภาพในการช่วยให้ผิวกระจ่างใส แต่การรวมสารออกฤทธิ์หลายตัวต้องจัดการค่า pH อย่างระมัดระวัง และพิจารณาถึงโอกาสในการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้

วิธีทำโลชั่น:

นี่เป็นวิธีทำอิมัลชั่นโดยทั่วไป ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเฉพาะสำหรับวัตถุดิบแต่ละตัวหากมี

1. ส่วนน้ำ: ทำให้น้ำร้อนประมาณ 70-75°C ใส่ NAG, Vit B3, Glycolic Acid ชนิดผง (ต้องแน่ใจว่าละลายหมด), Alpha Arbutin และ Oxyresveratrol (ตรวจสอบการละลาย - อาจต้องใช้ความร้อนหรือตัวทำละลายเฉพาะ หรืออาจใส่ในขั้นตอนหลังหากไวต่อความร้อน) คนจนทุกอย่างละลายเข้ากัน
2. ส่วนน้ำมัน: ในภาชนะแยกต่างหาก ผสม Almond Oil และ Satin Mousse ทำส่วนนี้ให้ร้อนประมาณ 70-75°C
3. การทำอิมัลชั่น: ค่อยๆ เทส่วนน้ำมันที่ร้อนลงในส่วนน้ำที่ร้อน พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องปั่นแบบมือถือ (stick blender) หรือเครื่อง Homogenizer เป็นเวลาหลายนาที จนได้เนื้ออิมัลชั่นที่คงตัว
4. การทำให้เย็น: คนเบาๆ ต่อไปขณะที่ส่วนผสมเย็นลง
5. ใส่ส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: เมื่ออุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 40°C จึงใส่ Phenoxyethanol
6. การปรับค่า pH: ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ใช้เครื่องวัด pH หรือกระดาษวัด pH วัดค่า pH ของโลชั่น ค่า pH น่าจะต่ำเนื่องจาก Glycolic Acid หากค่า pH ต่ำเกินไป (เช่น ต่ำกว่า 3.5) คุณอาจต้องปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยใช้สารละลายด่าง เช่น สารละลาย Sodium Hydroxide (ใช้สารละลายที่เจือจางมากๆ และค่อยๆ หยดทีละน้อย คนให้เข้ากันดี แล้ววัดค่า pH ใหม่ทุกครั้ง) ตั้งเป้าหมายค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับประสิทธิภาพของ Glycolic Acid และความปลอดภัยต่อผิว (มักจะอยู่ระหว่าง 4 ถึง 5 แต่ควรตรวจสอบข้อมูลเฉพาะของ Glycolic Acid ที่ใช้)
7. ตรวจสอบขั้นสุดท้าย: เมื่อเย็นลงและปรับค่า pH แล้ว ให้ตรวจสอบความข้น หากข้นหรือเหลวเกินไป คุณอาจต้องปรับปริมาณ Satin Mousse ในการทำครั้งต่อไป

ข้อควรระวัง: เนื่องจากมีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ค่อนข้างแรง โดยเฉพาะ Glycolic Acid และ Oxyresveratrol แนะนำอย่างยิ่งให้ทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วร่างกาย เพื่อตรวจสอบการระคายเคือง