สูตรไวท์เทนนิ่งผิวกายเนื้อบางเบา และการผสมเซรั่มวิตามินซี

ถามโดย: hiphop5142 เมื่อ: September 21, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการหา สูตร vit c หรือ ไวทินิ่งตัวอื่นๆ มาผิวกายน่ะครับ แนะนำหน่อยได้ไหมครับ เอาเบาๆผิว แล้วเห็นผลหน่อยน่ะครับ (เน้นเรื่องรอยแผลเป็นกับความขาว)

ส่วนการผสมเซรั่มวิตามินซีที่มี L-Ascorbic Acid, Ferulic Acid, และ Vitamin E ผสมแนวเดียวกับ Skinceuticals C E Ferulic ใช้ไหมครับ?

คำตอบ

เข้าใจแล้วค่ะ ยินดีให้คำแนะนำค่ะ

สำหรับคำถามเรื่องขั้นตอนการผสมเซรั่มวิตามินซีที่คุณเสนอมา (ที่มี L-Ascorbic Acid, Ferulic Acid, และ Vitamin E) ใช่ค่ะ วิธีที่แนะนำคือการละลาย L-Ascorbic Acid ในน้ำและปรับค่า pH ก่อน จากนั้นจึงค่อยเติมส่วนผสมอื่นๆ เป็นวิธีที่คล้ายคลึงกับวิธีการทั่วไปที่ใช้ในการทำให้เซรั่ม L-Ascorbic Acid เสถียร ซึ่งรวมถึงสูตรที่เป็นที่รู้จักอย่าง Skinceuticals C E Ferulic ด้วย วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจว่า L-Ascorbic Acid อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสถียรก่อนที่จะใส่ส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจรบกวนได้

สำหรับสูตรไวท์เทนนิ่งสำหรับผิวกายที่ให้ความรู้สึกบางเบาและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นเป้าหมายเรื่องการลดรอยแผลเป็นและเพิ่มความขาว นี่คือโครงสร้างสูตรตัวอย่างที่ใช้ส่วนผสมที่เคยพูดคุยกันไปแล้ว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีประโยชน์เหล่านี้และสามารถนำมาทำเป็นเนื้อสัมผัสที่บางเบาได้ค่ะ:

สูตรไวท์เทนนิ่งผิวกายแบบบางเบา (ตัวอย่าง)

สูตรนี้มุ่งเน้นให้ได้เนื้อสัมผัสแบบเซรั่มหรือโลชั่นบางเบา

  • ส่วนของน้ำ (ประมาณ 70-80%):
    • น้ำกลั่น (Distilled Water): q.s. (ปริมาณที่เพียงพอเพื่อให้ครบ 100%)
    • Glycerin หรือ Propanediol: 3-5% (สารให้ความชุ่มชื้น ช่วยละลายส่วนผสมบางชนิด)
  • ส่วนผสมออกฤทธิ์ (ประมาณ 7-11%):
    • Vitamin B3 (Niacinamide): 4-5% (ช่วยเรื่องความขาว เสริมเกราะป้องกันผิว ช่วยให้รอยแผลเป็นดูจางลง)
    • N-Acetyl Glucosamine: 2-4% (ทำงานร่วมกับ Niacinamide เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความขาว ช่วยเรื่องรอยดำจากสิว/รอยแผลเป็น)
    • Alpha Arbutin: 1-2% (ช่วยเรื่องความขาว)
  • สารสร้างเนื้อสัมผัส/สารเพิ่มความหนืด (ประมาณ 0.5-2%):
    • Sepiplus 400 หรือ Light Cream Maker: 0.5-1.5% (เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ปรับอัตราส่วนตามความหนืดที่ต้องการ Sepiplus 400 มักจะให้เนื้อเจล/ครีมบางเบา)
    • อีกทางเลือก หากต้องการเซรั่มที่บางมากๆ และมี Pro Polymer อาจลองใช้ในอัตราส่วนที่ต่ำมาก เช่น 0.1-0.5% แต่ต้องระวังเรื่องความเหนียวที่คุณเคยเจอมาก่อน
  • สารกันเสีย (ประมาณ 0.5-1%):
    • Phenoxyethanol: 0.5-1% (สารกันเสียที่ใช้ทั่วไป)
  • ส่วนผสมเสริม (สำหรับดูแลรอยแผลเป็นเป็นพิเศษ):
    • Rose Hip Oil: 0.5-1% (สามารถเติมในขั้นตอนสุดท้ายหากใช้สารประสานเนื้อแบบ Light Cream Maker หรือใช้แต้มเฉพาะจุดแยกต่างหากหากใช้เบสแบบเจล เช่น Sepiplus 400)

ขั้นตอนการผสมอย่างง่าย (ตัวอย่างการใช้ Sepiplus 400 หรือ Light Cream Maker):

  1. ชั่งน้ำและ Glycerin/Propanediol ลงในบีกเกอร์
  2. เติม Niacinamide, N-Acetyl Glucosamine, และ Alpha Arbutin ลงในส่วนของน้ำ คนหรือผสมจนละลายหมด การอุ่นเบาๆ (หากมีวิธีที่ปลอดภัย เช่น อุ่นในอ่างน้ำร้อน แต่หลีกเลี่ยงความร้อนโดยตรง) จะช่วยให้ละลายได้ง่ายขึ้น แต่โดยทั่วไปจะละลายได้ที่อุณหภูมิห้องด้วยการผสม
  3. ค่อยๆ เติมสารสร้างเนื้อสัมผัสที่เลือก (Sepiplus 400 หรือ Light Cream Maker) ลงในส่วนผสม พร้อมกับคนหรือผสมอย่างต่อเนื่อง ผสมจนได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการและเนื้อเบสเข้ากันดี
  4. เติม Phenoxyethanol (และ Rose Hip Oil หากใช้ในสูตร) ผสมให้เข้ากันดี
  5. ตรวจสอบค่า pH ส่วนผสมเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานได้ดีในช่วง pH 5-7 ซึ่งโดยทั่วไปเข้ากันได้กับผิว Niacinamide จะเสถียรที่สุดที่ pH ประมาณ 5-6 หากจำเป็น สามารถปรับค่า pH เล็กน้อยโดยใช้กรดเจือจาง (เช่น สารละลาย Citric Acid) เพื่อลดค่า pH หรือใช้เบสเจือจาง (เช่น สารละลาย Triethanolamine) เพื่อเพิ่มค่า pH แต่ส่วนใหญ่มักจะได้ค่า pH ที่ยอมรับได้ตามธรรมชาติ

สูตรลักษณะนี้จะให้ความรู้สึกค่อนข้างบางเบาบนผิว ในขณะที่ให้ส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเรื่องความขาวและปรับปรุงลักษณะของรอยแผลเป็นเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องค่ะ อย่าลืมว่าผลลัพธ์ต้องใช้เวลาและการใช้อย่างสม่ำเสมอ

สำหรับสูตรเดิมที่เคยผสมแล้วเหนียวจาก Pro Polymer และ Panthenol ในปริมาณสูง: เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลถูกต้องค่ะว่า Panthenol ที่ความเข้มข้น 5% สามารถทำให้รู้สึกเหนียวได้ โดยเฉพาะในเบสเจลแบบง่ายๆ การใช้ Panthenol ในปริมาณที่น้อยลง (เช่น 2%) และอาจใช้สารเพิ่มความหนืดชนิดอื่น หรือใช้ Pro Polymer ในความเข้มข้นที่ต่ำลง หรือใส่สารที่ช่วยให้ลื่น (เช่น ซิลิโคนเบาๆ ในปริมาณที่น้อยมาก หากเข้ากันได้กับสารเพิ่มความหนืดของคุณ) อาจช่วยลดความเหนียวในสูตรครั้งต่อไปได้ค่ะ สำหรับปริมาณ 300ml ที่ผสมไปแล้ว คุณอาจลองเจือจางด้วยน้ำเพิ่มเล็กน้อย หรือใช้เบสที่ไม่เหนียวผสมเข้าไป แต่ก็อาจส่งผลต่อความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ได้ค่ะ

หากต้องการปรับปรุงสูตรผิวกายนี้ หรือมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยนะคะ!