สูตรไวท์เทนนิ่งผิวกายเนื้อบางเบา และการผสมเซรั่มวิตามินซี
คำถาม
ต้องการหา สูตร vit c หรือ ไวทินิ่งตัวอื่นๆ มาผิวกายน่ะครับ แนะนำหน่อยได้ไหมครับ เอาเบาๆผิว แล้วเห็นผลหน่อยน่ะครับ (เน้นเรื่องรอยแผลเป็นกับความขาว)
ส่วนการผสมเซรั่มวิตามินซีที่มี L-Ascorbic Acid, Ferulic Acid, และ Vitamin E ผสมแนวเดียวกับ Skinceuticals C E Ferulic ใช้ไหมครับ?
คำตอบ
เข้าใจแล้วค่ะ ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สำหรับคำถามเรื่องขั้นตอนการผสมเซรั่มวิตามินซีที่คุณเสนอมา (ที่มี L-Ascorbic Acid, Ferulic Acid, และ Vitamin E) ใช่ค่ะ วิธีที่แนะนำคือการละลาย L-Ascorbic Acid ในน้ำและปรับค่า pH ก่อน จากนั้นจึงค่อยเติมส่วนผสมอื่นๆ เป็นวิธีที่คล้ายคลึงกับวิธีการทั่วไปที่ใช้ในการทำให้เซรั่ม L-Ascorbic Acid เสถียร ซึ่งรวมถึงสูตรที่เป็นที่รู้จักอย่าง Skinceuticals C E Ferulic ด้วย วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจว่า L-Ascorbic Acid อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสถียรก่อนที่จะใส่ส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจรบกวนได้
สำหรับสูตรไวท์เทนนิ่งสำหรับผิวกายที่ให้ความรู้สึกบางเบาและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นเป้าหมายเรื่องการลดรอยแผลเป็นและเพิ่มความขาว นี่คือโครงสร้างสูตรตัวอย่างที่ใช้ส่วนผสมที่เคยพูดคุยกันไปแล้ว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีประโยชน์เหล่านี้และสามารถนำมาทำเป็นเนื้อสัมผัสที่บางเบาได้ค่ะ:
สูตรไวท์เทนนิ่งผิวกายแบบบางเบา (ตัวอย่าง)
สูตรนี้มุ่งเน้นให้ได้เนื้อสัมผัสแบบเซรั่มหรือโลชั่นบางเบา
- ส่วนของน้ำ (ประมาณ 70-80%):
- น้ำกลั่น (Distilled Water): q.s. (ปริมาณที่เพียงพอเพื่อให้ครบ 100%)
- Glycerin หรือ Propanediol: 3-5% (สารให้ความชุ่มชื้น ช่วยละลายส่วนผสมบางชนิด)
- ส่วนผสมออกฤทธิ์ (ประมาณ 7-11%):
- Vitamin B3 (Niacinamide): 4-5% (ช่วยเรื่องความขาว เสริมเกราะป้องกันผิว ช่วยให้รอยแผลเป็นดูจางลง)
- N-Acetyl Glucosamine: 2-4% (ทำงานร่วมกับ Niacinamide เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความขาว ช่วยเรื่องรอยดำจากสิว/รอยแผลเป็น)
- Alpha Arbutin: 1-2% (ช่วยเรื่องความขาว)
- สารสร้างเนื้อสัมผัส/สารเพิ่มความหนืด (ประมาณ 0.5-2%):
- Sepiplus 400 หรือ Light Cream Maker: 0.5-1.5% (เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ปรับอัตราส่วนตามความหนืดที่ต้องการ Sepiplus 400 มักจะให้เนื้อเจล/ครีมบางเบา)
- อีกทางเลือก หากต้องการเซรั่มที่บางมากๆ และมี Pro Polymer อาจลองใช้ในอัตราส่วนที่ต่ำมาก เช่น 0.1-0.5% แต่ต้องระวังเรื่องความเหนียวที่คุณเคยเจอมาก่อน
- สารกันเสีย (ประมาณ 0.5-1%):
- Phenoxyethanol: 0.5-1% (สารกันเสียที่ใช้ทั่วไป)
- ส่วนผสมเสริม (สำหรับดูแลรอยแผลเป็นเป็นพิเศษ):
- Rose Hip Oil: 0.5-1% (สามารถเติมในขั้นตอนสุดท้ายหากใช้สารประสานเนื้อแบบ Light Cream Maker หรือใช้แต้มเฉพาะจุดแยกต่างหากหากใช้เบสแบบเจล เช่น Sepiplus 400)
ขั้นตอนการผสมอย่างง่าย (ตัวอย่างการใช้ Sepiplus 400 หรือ Light Cream Maker):
- ชั่งน้ำและ Glycerin/Propanediol ลงในบีกเกอร์
- เติม Niacinamide, N-Acetyl Glucosamine, และ Alpha Arbutin ลงในส่วนของน้ำ คนหรือผสมจนละลายหมด การอุ่นเบาๆ (หากมีวิธีที่ปลอดภัย เช่น อุ่นในอ่างน้ำร้อน แต่หลีกเลี่ยงความร้อนโดยตรง) จะช่วยให้ละลายได้ง่ายขึ้น แต่โดยทั่วไปจะละลายได้ที่อุณหภูมิห้องด้วยการผสม
- ค่อยๆ เติมสารสร้างเนื้อสัมผัสที่เลือก (Sepiplus 400 หรือ Light Cream Maker) ลงในส่วนผสม พร้อมกับคนหรือผสมอย่างต่อเนื่อง ผสมจนได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการและเนื้อเบสเข้ากันดี
- เติม Phenoxyethanol (และ Rose Hip Oil หากใช้ในสูตร) ผสมให้เข้ากันดี
- ตรวจสอบค่า pH ส่วนผสมเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานได้ดีในช่วง pH 5-7 ซึ่งโดยทั่วไปเข้ากันได้กับผิว Niacinamide จะเสถียรที่สุดที่ pH ประมาณ 5-6 หากจำเป็น สามารถปรับค่า pH เล็กน้อยโดยใช้กรดเจือจาง (เช่น สารละลาย Citric Acid) เพื่อลดค่า pH หรือใช้เบสเจือจาง (เช่น สารละลาย Triethanolamine) เพื่อเพิ่มค่า pH แต่ส่วนใหญ่มักจะได้ค่า pH ที่ยอมรับได้ตามธรรมชาติ
สูตรลักษณะนี้จะให้ความรู้สึกค่อนข้างบางเบาบนผิว ในขณะที่ให้ส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเรื่องความขาวและปรับปรุงลักษณะของรอยแผลเป็นเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องค่ะ อย่าลืมว่าผลลัพธ์ต้องใช้เวลาและการใช้อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับสูตรเดิมที่เคยผสมแล้วเหนียวจาก Pro Polymer และ Panthenol ในปริมาณสูง: เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลถูกต้องค่ะว่า Panthenol ที่ความเข้มข้น 5% สามารถทำให้รู้สึกเหนียวได้ โดยเฉพาะในเบสเจลแบบง่ายๆ การใช้ Panthenol ในปริมาณที่น้อยลง (เช่น 2%) และอาจใช้สารเพิ่มความหนืดชนิดอื่น หรือใช้ Pro Polymer ในความเข้มข้นที่ต่ำลง หรือใส่สารที่ช่วยให้ลื่น (เช่น ซิลิโคนเบาๆ ในปริมาณที่น้อยมาก หากเข้ากันได้กับสารเพิ่มความหนืดของคุณ) อาจช่วยลดความเหนียวในสูตรครั้งต่อไปได้ค่ะ สำหรับปริมาณ 300ml ที่ผสมไปแล้ว คุณอาจลองเจือจางด้วยน้ำเพิ่มเล็กน้อย หรือใช้เบสที่ไม่เหนียวผสมเข้าไป แต่ก็อาจส่งผลต่อความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ได้ค่ะ
หากต้องการปรับปรุงสูตรผิวกายนี้ หรือมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยนะคะ!