สูตร BHA โทนเนอร์, การเพิ่มความหนืด, และการใช้ร่วมกับยารักษาสิว
คำถาม
สภาพผิวตอนนี้เป็นผิวมัน มีสิวอุดตัน อักเสบนิดหน่อย เลยลองสั่ง BHA มาใช้ไปได้ครึ่งนึงแล้ว แต่เติมส่วนผสมไปมั่วๆ ไม่ได้ศึกษาอะไร
พอมาศึกษาเพิ่มเติมพบว่า สารบางอย่างเติมไปแล้วอาจจะทำให้ค่า pH ไม่เหมาะกับการทำงานและจะทำให้ทำงานได้แย่ลง หรือว่าเสื่อมสภาพจากความเป็นกรด เลยอยากถามว่าสูตรที่ใช้อยู่ตอนนี้ดีหรือไม่ดียังไงครับ
รายละเอียดสูตร Timed-Released BHA Toner ที่ใช้อยู่:
- Whitening: Glucosamine (N-acetyl-D) 4%
- Moisturizing: Aloe Vera Extract 10:1 (เท่ากับ Aloe Vera 30%) 3%
- Anti-Acne: Licorice Root Extract (Licochalcone A) 1.0%
- Anti-Acne: Zinc PCA 1%
- Anti-Aging/Anti-Acne: Vitamin B3 (Niacinamide) 5%
กำลังจะสั่งผสมใหม่ อยากทราบว่า ถ้าจะเพิ่มอะไรให้เหมาะกับสภาพที่มีการใช้ยารักษาสิวอยู่ (Benzac 5%) ควรเพิ่มหรือลดอะไรได้บ้างครับ
อีกอย่างที่อยากทราบคือ ผมไม่ชอบใช้สำลีทา Toner เลยเทลงมือก่อนแล้วเอานิ้วทา ปัญหาคือมันเหลวไปแล้วหกเลอะเทอะ ทีนี้ถ้าอยากเติมสารเพิ่มความหนืด Organic Natural Thickener มาเติม แต่สงสัยเรื่องการคนด้วยความเร็วสูงนี่ต้องใช้เครื่องหรือว่าใช้แรงมือธรรมดาได้ครับ
และขอถามเพิ่มเติมอีกนิดว่า หลังจากทา BHA สูตรที่ว่าด้านบนแล้ว ตามด้วย Toner สูตรด้านล่าง เพื่อเน้นฟื้นฟูสุขภาพผิว จะดีรึเปล่าครับ
รายละเอียดสูตร Witch Hazel Alcohol-Free Toner:
- Whitening: Alpha-Arbutin 2%
- Moisturizing: Vitamin B5 (Panthenol) 5%
- Anti-Irritant: Calendula Extract 5%
- Anti-Aging: Copper Peptide (GHK-Cu) 3%
- Anti-Aging: Gotu Kola (Centella Asiatica) Extract 5%
ขอบคุณครับ
คำตอบ
การวิเคราะห์กิจวัตรการดูแลผิวและสูตรของคุณ
ดูเหมือนว่าคุณกำลังดูแลปัญหาสภาพผิวที่เป็นสิวง่าย ผิวมัน และมีการอักเสบเล็กน้อยอย่างจริงจัง เรามาพิจารณาสูตร BHA โทนเนอร์ที่คุณใช้อยู่ การใช้ร่วมกับ Benzac วิธีเพิ่มความหนืด และการใช้ร่วมกับโทนเนอร์อีกสูตรหนึ่งของคุณกันครับ
สูตร Timed-Released BHA โทนเนอร์ปัจจุบันของคุณ
สูตรปัจจุบันของคุณมีส่วนผสมหลายอย่างที่ดีสำหรับสภาพผิวของคุณ:
- Timed-Released BHA (Salicylic Acid): ดีเยี่ยมสำหรับการผลัดเซลล์ผิวทั้งบนพื้นผิวและภายในรูขุมขน ช่วยลดการอุดตัน สิวหัวดำ และสิวหัวขาว คุณสมบัติ "Timed-Released" บ่งชี้ว่าอาจอ่อนโยนกว่า BHA ทั่วไป ซึ่งดีสำหรับการลดการระคายเคือง
- Glucosamine (N-acetyl-D): ทำงานได้ดีกับ Niacinamide ในการช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและมีประโยชน์สำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย
- สารสกัดจากว่านหางจระเข้ (Aloe Vera Extract): มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งช่วยลดการอักเสบและต่อต้านความแห้งกร้านที่อาจเกิดขึ้นจากสารออกฤทธิ์
- สารสกัดจากชะเอมเทศ (Licorice Root Extract - Licochalcone A): เป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดรอยแดงและการระคายเคืองที่เกี่ยวข้องกับสิว
- Zinc PCA: ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยสมานแผล (เช่น รอยสิว) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับสิวและลดรอยหลังการเกิดสิว
- วิตามินบี 3 (Niacinamide): ส่วนผสมอเนกประสงค์ที่ช่วยลดความมัน เสริมเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และปรับปรุงลักษณะของรูขุมขนและรอยดำหลังการอักเสบ
โดยรวมแล้ว การผสมผสานของส่วนผสมเหล่านี้ถือว่าเลือกมาได้ดีสำหรับผิวมันที่เป็นสิวง่าย ข้อกังวลเกี่ยวกับค่า pH นั้นถูกต้อง เนื่องจาก BHA (Salicylic Acid) จะมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ค่า pH ต่ำ (เหมาะอย่างยิ่งที่ 3-4) อย่างไรก็ตาม รูปแบบ Timed-Released หรือ Encapsulated มักถูกออกแบบมาให้ทำงานที่ค่า pH ที่สูงขึ้นเล็กน้อยและอ่อนโยนกว่า (มักอยู่ในช่วง 4-6) ซึ่งเข้ากันได้กับส่วนผสมส่วนใหญ่ของคุณ เช่น Niacinamide, Glucosamine, สารสกัดจากว่านหางจระเข้, สารสกัดจากชะเอมเทศ และ Zinc PCA การทำให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายของโทนเนอร์อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับ BHA เฉพาะของคุณ (ตรวจสอบคำแนะนำจากผู้จำหน่าย) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสิทธิภาพและความเสถียร
การใช้ BHA โทนเนอร์ร่วมกับ Benzac (5%)
การใช้ BHA โทนเนอร์ร่วมกับ Benzac (benzoyl peroxide) 5% สามารถมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาสิวได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดความแห้ง รอยแดง การลอก และการระคายเคือง Benzac เองก็ทำให้ผิวแห้งได้ การใช้ร่วมกับสารผลัดเซลล์ผิวอื่นอย่าง BHA ต้องใช้ความระมัดระวัง
คำแนะนำ:
- สลับการใช้: อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองในเวลาเดียวกัน พิจารณาใช้ Benzac ในตอนเย็น และ BHA โทนเนอร์ในตอนเช้า หรือใช้สลับวันกันในตอนเย็น
- สังเกตปฏิกิริยาของผิว: ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับปฏิกิริยาของผิว หากคุณมีอาการแห้ง ลอก แดง หรือแสบมากเกินไป ให้ลดความถี่ในการใช้ผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งหรือทั้งสองอย่างลง
- ให้ความสำคัญกับการให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว: เนื่องจากคุณใช้สารออกฤทธิ์ที่ค่อนข้างแรง การเพิ่มส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวในกิจวัตรของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ โทนเนอร์ BHA ปัจจุบันของคุณมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ สารสกัดจากชะเอมเทศ และ Niacinamide ซึ่งช่วยได้ หากคุณปรับสูตร พิจารณาเพิ่มความเข้มข้นของส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลม/ให้ความชุ่มชื้นเล็กน้อย หรือเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ
- พิจารณาความเข้มข้น BHA ที่ต่ำลง: หากกังวลเรื่องการระคายเคือง คุณอาจพิจารณาลดความเข้มข้นของ BHA ในโทนเนอร์ของคุณเล็กน้อยเมื่อใช้ร่วมกับ Benzac 5%
การเพิ่มความหนืดให้กับโทนเนอร์ของคุณ
สามารถเพิ่มความหนืดให้กับโทนเนอร์ของคุณเพื่อให้ทาง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้สำลีได้ สำหรับโทนเนอร์ที่เป็นเบสด้วยน้ำ สารเพิ่มความหนืดที่เหมาะสมคือโพลีเมอร์ที่ละลายน้ำได้
สารเพิ่มความหนืดที่แนะนำ:
- Hydroxyethyl Cellulose (HEC): เป็นโพลีเมอร์ที่ไม่ใช่ไอออนิก ละลายน้ำได้ และสามารถสร้างเนื้อเจลที่ใสได้ ทำงานได้ดีในสูตรที่มีอิเล็กโทรไลต์และมีความเสถียรในช่วง pH ที่กว้าง (รวมถึงช่วงที่เป็นกรดถึงกรดอ่อนๆ ที่เหมาะสมสำหรับ BHA)
วิธีการผสม:
ในการผสม HEC โดยทั่วไปให้กระจายผงในน้ำเย็นก่อนเพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน จากนั้นให้ความร้อนส่วนผสมถึงประมาณ 70°C พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องจนผงละลายหมดและเกิดเนื้อเจล ปล่อยให้เย็นลงพร้อมกับคนต่อไป สำหรับสูตรของคุณที่มี BHA แบบ Encapsulated สิ่งสำคัญคือ หลีกเลี่ยงการผสมด้วยความเร็วสูง (เช่น เครื่องปั่นแรงๆ) หลังจากเติม BHA เนื่องจากอาจทำให้แคปซูลเสียหายและปล่อย BHA ออกมาเร็วเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและลดประโยชน์ของ Timed-Release การคนด้วยมือหรือการปั่นด้วยความเร็วต่ำก็เพียงพอสำหรับการผสมสารเพิ่มความหนืดและส่วนผสมอื่นๆ
การใช้ร่วมกับ Witch Hazel Alcohol-Free Toner
สูตรโทนเนอร์ที่สองของคุณมีส่วนผสมที่เน้นการปลอบประโลม ให้ความชุ่มชื้น และปรับผิวให้กระจ่างใส:
- Witch Hazel (Alcohol-Free): มีคุณสมบัติช่วยกระชับรูขุมขนโดยไม่ทำให้ผิวแห้งเหมือนแอลกอฮอล์
- Alpha-Arbutin: ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดรอยดำจากสิว
- วิตามินบี 5 (Panthenol): ปลอบประโลม ให้ความชุ่มชื้น และช่วยซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว
- สารสกัดจากดาวเรือง (Calendula Extract): ต้านการอักเสบ ช่วยสมานแผล และปลอบประโลมผิว
- Copper Peptide (GHK-Cu): สนับสนุนการสมานแผล การสร้างคอลลาเจน และช่วยซ่อมแซมผิวและลดรอยแผลเป็น
- สารสกัดจากใบบัวบก (Gotu Kola - Centella Asiatica Extract): มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยสมานผิว
การใช้โทนเนอร์นี้หลังจาก BHA โทนเนอร์อาจเป็นประโยชน์ เนื่องจากมีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลม ให้ความชุ่มชื้น และซ่อมแซมผิว ซึ่งสามารถช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจาก BHA และ Benzac ส่วนผสมในโทนเนอร์ที่สองเข้ากันได้ดีและสามารถช่วยเสริมสุขภาพผิวได้
ข้อควรพิจารณาในการใช้ร่วมกัน:
- ความไวของผิว: หากผิวของคุณรู้สึกไวหรือระคายเคืองเป็นพิเศษจากการใช้ Benzac และ BHA โทนเนอร์ การเพิ่มผลิตภัณฑ์อีกชั้นอาจมากเกินไป ให้สังเกตปฏิกิริยาของผิว
- ความเข้ากันได้ของส่วนผสม: แม้ว่าส่วนผสมในโทนเนอร์ที่สองส่วนใหญ่จะเข้ากันได้ดี แต่ควรระมัดระวังเสมอเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์หลากหลาย ควรเริ่มใช้ทีละน้อย
สรุปแล้ว สูตร BHA โทนเนอร์ปัจจุบันของคุณออกแบบมาได้ดีสำหรับปัญหาผิวของคุณ เมื่อใช้ร่วมกับ Benzac ให้เน้นการใช้อย่างอ่อนโยนและเสริมการดูแลผิว การเพิ่มความหนืดด้วย HEC โดยใช้การผสมด้วยความเร็วต่ำเป็นวิธีที่ดี การใช้โทนเนอร์ที่สองที่มีคุณสมบัติปลอบประโลมตามหลังก็สามารถเป็นประโยชน์ได้ หากผิวของคุณทนได้
อย่าลืมทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บนพื้นที่เล็กๆ ของผิวก่อนเสมอครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Calendula Extract (Water Soluble)
