สูตร Cleansing Balm ที่ใช้ PEG-10 Isostearate และ Oilsify 15

ทั้ง PEG-10 Isostearate และ Oilsify 15 เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ Cleansing Oil และ Balm เพื่อช่วยในการล้างเครื่องสำอางและล้างออกด้วยน้ำได้อย่างสะอาด

บทบาทของส่วนประกอบ:

• PEG-10 Isostearate: ใช้ในสูตร Cleansing Balm เพื่อช่วยละลายและล้างเครื่องสำอาง โดยเฉพาะในระบบ Water-in-Oil ช่วยให้เนื้อบาล์มเกิดการอิมัลชั่นเมื่อโดนน้ำ
• Oilsify 15: เป็นอิมัลซิไฟเออร์สำหรับน้ำมัน (Oil-emulsifier) ที่มีประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอางใน Cleansing Oil ช่วยให้น้ำมันรวมตัวกับน้ำได้ดี

ขั้นตอนการผสม:

ใน Cleansing Balm ทั้ง PEG-10 Isostearate และ Oilsify 15 มักจะถูกเติมลงใน ส่วนของน้ำมัน (oil phase) โดยทั่วไป การทำ Cleansing Balm จะมีขั้นตอนดังนี้:

1. รวมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันทั้งหมดเข้าด้วยกัน ซึ่งรวมถึงน้ำมันเหลว, น้ำมันแข็ง/บัตเตอร์, แว็กซ์ (ถ้าใช้เพื่อปรับเนื้อ), PEG-10 Isostearate และ Oilsify 15
2. ให้ความร้อนแก่ส่วนผสมอย่างอ่อนโยนเพื่อละลายส่วนประกอบที่เป็นของแข็ง (แว็กซ์, น้ำมันแข็ง/บัตเตอร์) จนส่วนผสมใสและเป็นเนื้อเดียวกัน
3. คนผสมให้เข้ากันดี เพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมด โดยเฉพาะอิมัลซิไฟเออร์ กระจายตัวอย่างทั่วถึง
4. เทส่วนผสมลงในภาชนะและปล่อยให้เย็นตัวลงจนแข็งเป็นเนื้อบาล์ม

อัตราการใช้:

• PEG-10 Isostearate: อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 1-30%
• Oilsify 15: อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 5-20% โดยทั่วไปแนะนำที่ 10-15%

เปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนสำหรับสูตรที่สมบูรณ์จะขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสและประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่ต้องการ ซึ่งต้องอาศัยการทดลองและปรับปรุงสูตร

การทนความร้อน:

คำแนะนำในการจัดเก็บสำหรับส่วนประกอบทั้งสองตัวระบุให้เก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดดสำหรับการจัดเก็บระยะยาว อย่างไรก็ตาม ส่วนประกอบเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสูตรที่มีน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งมักจะต้องมีการให้ความร้อนเพื่อละลายส่วนประกอบที่เป็นของแข็ง เช่น แว็กซ์ หรือบัตเตอร์

แม้ว่าจะไม่มีการระบุอุณหภูมิสูงสุดที่ทนได้สำหรับการผลิตในคำอธิบายผลิตภัณฑ์ แต่อิมัลซิไฟเออร์เหล่านี้มักจะมีความเสถียรเพียงพอที่จะนำไปผสมในส่วนของน้ำมันที่ได้รับความร้อนในระหว่างกระบวนการผลิตบาล์ม ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้อุณหภูมิที่จำเป็นในการละลายแว็กซ์ (เช่น 60-80°C) ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนสูงเป็นเวลานาน

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามแนวทางการกำหนดสูตรเฉพาะและทำการทดสอบความเสถียรสำหรับผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของคุณ