ส่วนผสมสำหรับโลชั่นวิตามินซีที่ pH 3.5-4
คำถาม
สำหรับสูตรโลชั่นวิตามินซีที่ pH 3.5-4 อยากทราบว่ามีสารตัวไหนที่สามารถคงตัวอยู่ได้ดีและทำงานได้มีประสิทธิภาพบ้าง และมีสารตัวไหนที่ควรหลีกเลี่ยงหรือระมัดระวังในการใช้บ้าง?
คำตอบ
ส่วนผสมสำหรับโลชั่นวิตามินซีที่ pH 3.5-4
การทำโลชั่นทาตัววิตามินซีที่ pH 3.5-4 จำเป็นต้องเลือกส่วนผสมที่คงตัวและมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดนี้ นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับส่วนผสมที่ใช้ได้ดีและส่วนผสมที่ควรระมัดระวัง:
รูปแบบวิตามินซีที่เหมาะสมสำหรับ pH 3.5-4
สำหรับโลชั่นในช่วง pH 3.5-4 รูปแบบวิตามินซีที่เหมาะสมที่สุดคือรูปแบบที่ยังคงความเสถียรและออกฤทธิ์ได้ดีในสภาพที่เป็นกรดนี้:
- L-Ascorbic Acid: เป็นวิตามินซีรูปแบบบริสุทธิ์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดในระดับ pH ที่เป็นกรด โดยทั่วไปจะต่ำกว่า 3.5 เพื่อการซึมซาบที่ดีที่สุด แต่ก็ยังคงความเสถียรและมีประสิทธิภาพในช่วง 3.5-4 ช่วยให้ผิวสว่างใส ลดเลือนริ้วรอย และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
- Ethyl Ascorbic Acid: เป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีที่มีความเสถียรสูง ละลายน้ำได้ และมีประสิทธิภาพในช่วง pH 3.5-6.0 ให้ประโยชน์คล้ายกับ L-Ascorbic Acid ทั้งในด้านความกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย
ส่วนผสมบำรุงผิวอื่นๆ ที่เข้ากันได้กับ pH 3.5-4
ส่วนผสมบำรุงผิวอื่นๆ หลายชนิดสามารถนำมาใช้ในโลชั่นที่ปรับ pH เป็น 3.5-4 ได้:
- Vitamin E (Tocopheryl Acetate): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เสถียร ทำงานร่วมกับวิตามินซีเพื่อปกป้องผิว โดยทั่วไปเข้ากันได้กับช่วง pH นี้
- Hyaluronic Acid: เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยม แม้ว่า Hyaluronic Acid บริสุทธิ์อาจเสื่อมสภาพได้ใน pH ที่ต่ำมากเมื่อเวลาผ่านไป แต่ในช่วง 3.5-4 และอาจได้รับการปกป้องภายในระบบนำส่ง เช่น Ascorbyl Propyl Hyaluronate ก็มักจะสามารถใช้ร่วมได้
- Ferulic Acid: มักใช้ร่วมกับ L-Ascorbic Acid และ Vitamin E เพื่อเพิ่มความเสถียรและการปกป้องจากอนุมูลอิสระ
ส่วนผสมที่ควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงที่ pH 3.5-4
ส่วนผสมบางชนิดไม่เสถียรหรือไม่ทำงานได้ดีใน pH ที่ต่ำนี้ หรืออาจทำให้เกิดปัญหาด้านความเข้ากันได้:
- อนุพันธ์วิตามินซีบางชนิด: รูปแบบเช่น Ascorbyl Glucoside (AA-2G) จะเสถียรที่ pH สูงกว่า (โดยทั่วไป 6.5-6.8) และ Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) จะเสถียรในสภาพที่เป็นด่าง (pH 7-9) รูปแบบเหล่านี้จะไม่เสถียรหรือไม่ทำงานได้ดีที่ pH 3.5-4
- Niacinamide (Vitamin B3): แม้ว่า Niacinamide เองจะเสถียรในช่วง pH ที่กว้าง (เหมาะสมที่ 4.0-7.0, เสถียรที่ 3-8) แต่การผสมกับส่วนผสมที่เป็นกรดบางชนิด โดยเฉพาะ L-Ascorbic Acid ที่อุณหภูมิสูงขึ้นหรือเมื่อเวลาผ่านไป อาจทำให้ Niacinamide เปลี่ยนเป็น Niacin ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแดงหรือระคายเคืองผิวได้ นอกจากนี้ อนุพันธ์วิตามินซีบางชนิด เช่น Ethyl Ascorbic Acid ยังระบุชัดเจนว่าไม่เข้ากันกับ Niacinamide ในสูตรเดียวกัน โดยทั่วไป การหลีกเลี่ยงการใช้ L-Ascorbic Acid หรือ Ethyl Ascorbic Acid ความเข้มข้นสูงร่วมกับ Niacinamide ในสูตร pH ต่ำเดียวกันจะปลอดภัยกว่า หรือควรใช้รูปแบบที่เสถียรและทดสอบความเข้ากันได้อย่างรอบคอบ
- ส่วนผสมที่ไวต่อ pH ต่ำ: โพลิเมอร์ สารเพิ่มความหนืด หรือสารสกัดจากพืชบางชนิดอาจสูญเสียประสิทธิภาพหรือความเสถียรในสภาพที่เป็นกรดสูง ควรตรวจสอบช่วง pH ที่แนะนำสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิดที่คุณต้องการใช้เสมอ
เมื่อทำการผสม ควรตรวจสอบ pH ที่แนะนำสำหรับการใช้งานของส่วนผสมแต่ละชนิดจากผู้จำหน่ายเสมอ เพื่อให้แน่ใจในความเสถียรและประสิทธิภาพในช่วง pH เป้าหมาย 3.5-4 ของคุณ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
