การวิเคราะห์สูตรเซรั่มและคำแนะนำในการผสม

สูตรเซรั่มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ประโยชน์ต่อผิวอย่างครอบคลุม โดยเน้นที่การให้ความชุ่มชื้น การฟื้นฟู การต้านอนุมูลอิสระ และการปลอบประโลมผิว ประกอบด้วยส่วนผสมที่หลากหลาย ทั้งสารสกัดจากการหมัก สารสกัดจากพืช วิตามิน และซิลิโคน

ส่วนผสมหลักและประโยชน์:

• การฟื้นฟูและเสริมเกราะป้องกันผิว:

  • Bifida Ferment Lysate: มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซม DNA ของผิวที่เสียหาย โดยเฉพาะจากรังสี UV และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
  • Yeast Extract: ประกอบด้วยโอลิโกเปปไทด์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยลดเลือนริ้วรอยจากการผลัดเซลล์ผิว นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและลดจุดด่างดำได้
  • Hydrolyzed Soy Protein: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับความชุ่มชื้นของผิวและเส้นผม
  • Hydrogenated Lecithin (Phospholipid): เป็นอิมัลซิไฟเออร์ธรรมชาติที่ช่วยสร้างไลโปโซม ทำให้ส่วนผสมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เสริมเกราะป้องกันผิว และลดการระคายเคือง

• การให้ความชุ่มชื้น:

  • Hyaluronic Acid: สารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยดึงและกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นและลดเลือนริ้วรอย
  • Butylene Glycol, Glycerin, Methyl Gluceth-20: สารให้ความชุ่มชื้นทั่วไปที่ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว
  • Cholesterol: ส่วนประกอบสำคัญของไขมันตามธรรมชาติในผิว ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งให้กลับมานุ่มชุ่มชื้น
  • Lecithin: อิมัลซิไฟเออร์ธรรมชาติที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น

• คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและปลอบประโลมผิว:

  • Tocopheryl Acetate (Vitamin E): วิตามินอีรูปแบบคงตัว ให้การปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ
  • Soy Extract: มีไอโซฟลาโวน เช่น Genistein ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีและจุดด่างดำแห่งวัย
  • Olive Extract: อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Hydroxytyrosol และ Oleuropein ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระและมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย
  • Grape Seed Extract: มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (OPCs) ช่วยปกป้องผิว
  • Chamomile Extract: มีคุณสมบัติปลอบประโลมและต้านการอักเสบ ช่วยลดการระคายเคืองและรอยแดงของผิวเนื่องจากมี Apigenin
  • สารสกัดอื่นๆ: Triticum Vulgare (Wheat Bran) Extract, Polygonum Cuspidatum Root Extract, Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract, Selaginella Tamariscina (Spike Moss) Extract, Cola Nitida (Kola) Nut Extract, Humulus Lupulus (Hops) Extract, Sea Whip Extract, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Extract ให้ประโยชน์ด้านการต้านอนุมูลอิสระ การปลอบประโลม หรือการปรับสภาพผิวที่หลากหลาย
  • Caffeine: สามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตขนาดเล็ก ซึ่งอาจช่วยลดอาการบวมและรอยคล้ำใต้ตา และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

• เนื้อสัมผัส:

  • Cyclopentasiloxane, Dimethicone, Bis-PEG-18 Methyl Ether Dimethyl Silane, Peg-9 Dimethicone, Simethicone, Polymethylsilsesquioxane: ซิลิโคนให้สัมผัสที่เรียบเนียน ไม่เหนอะหนะ ช่วยให้เกลี่ยง่าย และอาจให้ผลแบบ Soft-focus หรือช่วยเบลอริ้วรอย (Polymethylsilsesquioxane, Silica, Titanium Dioxide)
  • Silica, Titanium Dioxide: ช่วยปรับเนื้อสัมผัส การดูดซับความมัน และอาจให้ผลแบบแมตต์หรือช่วยเบลอริ้วรอย
  • Xanthan Gum, Carbomer: สารเพิ่มความหนืดที่ใช้สร้างเนื้อเจลและความข้นของเซรั่ม
  • Caprylic/capric triglyceride: สารให้ความนุ่มลื่นที่ได้จากน้ำมันมะพร้าว ให้สัมผัสบางเบา ไม่เหนอะหนะ

• สารช่วยคงสภาพและสารกันเสีย:

  • Disodium EDTA: สารคีเลตที่ช่วยคงสภาพสูตรโดยจับกับไอออนของโลหะในน้ำ
  • Potassium Sulfate, Tromethamine: น่าจะใช้สำหรับปรับค่า pH หรือเป็นบัฟเฟอร์
  • BHT: สารต้านอนุมูลอิสระที่ใช้ป้องกันการเกิดออกซิเดชันของน้ำมัน
  • Potassium Sorbate, Phenoxyethanol, Ethylhexylglycerin, Caprylyl Glycol: สารกันเสียที่ใช้ป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในสูตร

คำแนะนำทั่วไปในการผสม:

สูตรนี้เป็นสูตรที่ค่อนข้างซับซ้อน อาจเป็นอิมัลชัน (น้ำในน้ำมัน หรือ น้ำมันในน้ำ) หรือเซรั่มเนื้อเจลที่ซับซ้อนซึ่งมีทั้งส่วนของน้ำและน้ำมัน แนวทางการผสมทั่วไปคือการรวมส่วนผสมตามคุณสมบัติการละลายและความไวต่อความร้อน

1. ส่วนของน้ำ (Water Phase): รวมส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น น้ำ, Butylene Glycol, Glycerin, Methyl Gluceth-20, Hyaluronic Acid, Bifida Ferment Lysate, Yeast Extract, Hydrolyzed Soy Protein, Sodium RNA, Pantethine, Potassium Sulfate, Tromethamine, Disodium EDTA, Potassium Sorbate, Phenoxyethanol, Ethylhexylglycerin, Caprylyl Glycol, Caramel และสารสกัดจากพืชส่วนใหญ่ (Olive Extract, Grape Seed Extract, Chamomile Extract ฯลฯ) สารเพิ่มความหนืด เช่น Xanthan Gum และ Carbomer จะกระจายตัวในส่วนของน้ำและปรับให้เป็นเจล (สำหรับ Carbomer) สารสกัดบางชนิดอาจต้องเติมหลังจากการเย็นตัวลงหากมีความไวต่อความร้อน (เช่น Olive Extract, Grape Seed Extract, Yeast Extract, Chamomile Extract)
2. ส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคน (Oil/Silicone Phase): รวมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันและซิลิโคน เช่น Cyclopentasiloxane, Bis-PEG-18 Methyl Ether Dimethyl Silane, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Tocopheryl Acetate, Glycine Soja Seed Extract (หากใช้รูปแบบที่ละลายในน้ำมัน), Olea Europaea (Olive) Fruit Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน แม้ว่าสารสกัดมักจะละลายน้ำ), Triticum Vulgare (Wheat Bran) Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Polygonum Cuspidatum Root Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Selaginella Tamariscina Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Cola Nitida Nut Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Humulus Lupulus Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Ascorbyl Tocopheryl Maleate, Nordihydroguaiaretic Acid, Citri Reticulate Peel Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Pomegranate Seed Oil, Cholesterol, Sea Whip Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Micrococcus Lysate (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Caffeine (หากใช้รูปแบบที่ละลายในน้ำมัน แม้ว่าสารสกัดจะละลายน้ำ), Alteromonas Ferment Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Arabidopsis Thaliana Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Ethylbisiminomethylguaiacol Manganese Chloride (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Linoleic Acid, Lecithin, Hydrogenated Lecithin, Rosmarinus Officinalis Extract (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Linolenic Acid, Lauryldimonium Hydroxypropyl Hydrolyzed Soy Protein (หากใช้รูปแบบน้ำมัน), Polymethylsilsesquioxane, Dimethicone, Peg-9 Dimethicone, Simethicone, Caprylic/capric triglyceride, BHT, Titanium Dioxide, Silica. Cholesterol ต้องการความร้อนสูงมาก (สูงกว่า 150°C) เพื่อละลายในส่วนของน้ำมันก่อนนำไปรวมกับส่วนผสมอื่น Hydrogenated Lecithin ควรกระจายตัวที่อุณหภูมิห้อง
3. การทำอิมัลชัน/การรวมส่วนผสม: หากเป็นอิมัลชัน ส่วนของน้ำมันที่ได้รับความร้อน (ซึ่งมี Cholesterol และน้ำมัน/ซิลิโคนอื่นๆ ที่ทนความร้อนละลายอยู่) จะค่อยๆ ถูกเติมลงในส่วนของน้ำที่ได้รับความร้อน พร้อมกับการผสมอย่างแรงด้วยอิมัลซิไฟเออร์ (เช่น PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Lecithin, Hydrogenated Lecithin หรืออื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนแต่เป็นส่วนหนึ่งของสูตร) หากเป็นเซรั่มเนื้อเจล ส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคนอาจถูกกระจายตัวในส่วนของน้ำที่ขึ้นเจลแล้ว
4. การทำให้เย็นและการเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: ปล่อยให้ส่วนผสมเย็นตัวลง เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น สารสกัดจากพืชหลายชนิด วิตามิน (บางรูปแบบ) และสารกันเสีย (Phenoxyethanol, Ethylhexylglycerin, Caprylyl Glycol, Potassium Sorbate) ปรับค่า pH หากจำเป็น
5. การผสมขั้นสุดท้าย: ผสมให้เข้ากันดีเพื่อให้เนื้อเซรั่มเป็นเนื้อเดียวกัน

ข้อควรพิจารณาที่สำคัญในการผสม:

• ปฏิบัติตามคำแนะนำเฉพาะสำหรับวัตถุดิบแต่ละชนิดอย่างเคร่งครัด เกี่ยวกับการละลาย ขีดจำกัดอุณหภูมิ และช่วง pH
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผงต่างๆ (เช่น Carbomer, Xanthan Gum, Silica, Titanium Dioxide, Cholesterol, Hydrolyzed Soy Protein, Hydrogenated Lecithin, Lecithin) กระจายตัวได้ดีเพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน
• Cholesterol ต้องการความร้อนสูงมากในการละลายในน้ำมัน ซึ่งต้องทำอย่างระมัดระวังก่อนนำไปรวมกับส่วนผสมอื่น
• Hydrogenated Lecithin และ Lecithin มีข้อกำหนดเฉพาะในการกระจายตัว (อุณหภูมิห้องสำหรับ Hydrogenated Lecithin, ใช้ความร้อนสำหรับ Lecithin)
• รักษาช่วง pH ที่ถูกต้องเพื่อความคงตัวและประสิทธิภาพสูงสุดของส่วนผสม เช่น Carbomer (pH ที่ปรับแล้ว 6-7), Soy Extract (pH 5-7), Olive Extract (pH 4.0-6.5), Grape Seed Extract (หลีกเลี่ยงความร้อน > 40°C), Yeast Extract (pH 4.0-6.5, หลีกเลี่ยงความร้อน > 40°C), Chamomile Extract (หลีกเลี่ยงความร้อน > 40°C)
• ใช้อุปกรณ์ผสมที่เหมาะสม (เช่น เครื่องผสมแบบ High-shear สำหรับการทำอิมัลชัน, เครื่องผสมแบบใบพัดสำหรับการผสมทั่วไป)
• ทำการทดสอบ Challenge test เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสารกันเสียมีประสิทธิภาพสำหรับสูตรสำเร็จรูป