การเลือกอนุพันธ์วิตามินซีที่ดีที่สุดสำหรับเซรั่มที่เสถียร

ในการพัฒนาเซรั่มวิตามินซี ความเสถียรของอนุพันธ์วิตามินซีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาประสิทธิภาพไว้ได้นาน อนุพันธ์หลายชนิดมีความเสถียรดีกว่า L-Ascorbic Acid บริสุทธิ์

• Ethyl Ascorbic Acid (3-O-ethyl ascorbic acid): เป็นอนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้ มีความเสถียรสูง และผสมได้ง่ายในสูตร มีประสิทธิภาพที่ดีในการทำให้ผิวกระจ่างใส และทนความร้อนได้ดี
• Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate): เป็นอนุพันธ์ที่ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรดีเยี่ยมและมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในเซรั่มที่เป็นน้ำมัน มีประสิทธิภาพในการต่อต้านริ้วรอย ทำให้ผิวกระจ่างใส และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• Ascorbyl Glucoside (AA-2G): เป็นอนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้ มีความเสถียรปานกลาง แม้จะเสถียรน้อยกว่า Ethyl Ascorbic Acid หรือ Perfect-C™ ที่ละลายในน้ำมัน แต่ก็มีประสิทธิภาพสูงในการทำให้ผิวกระจ่างใสและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม ต้องปรับค่า pH อย่างระมัดระวังระหว่างการผสมเพื่อให้มีความเสถียรสูงสุด (pH 6.5-6.8)
• Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) และ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP): เป็นอนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้ มีความเสถียรสูง และใช้งานง่าย อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปถือว่ามีประสิทธิภาพปานกลางในการทำให้ผิวกระจ่างใส เมื่อเทียบกับ L-Ascorbic Acid, Ethyl Ascorbic Acid หรือ AA-2G
• L-Ascorbic Acid: วิตามินซีในรูปแบบบริสุทธิ์ แม้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่มีความเสถียรน้อยที่สุด โดยเฉพาะในสูตรที่เป็นน้ำ และต้องใช้สภาวะที่เฉพาะเจาะจง (pH ต่ำ สารต้านอนุมูลอิสระ) เพื่อรักษาความเสถียร มีแนวโน้มที่จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันเมื่อสัมผัสกับน้ำ แสง และอากาศ
• Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum: เป็นเบสวิตามินซีสำเร็จรูปที่มีความเสถียรสูง ซึ่งมี L-Ascorbic Acid แม้จะมีความเสถียรมาก แต่ไม่เหมาะสำหรับการเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เนื่องจากอาจส่งผลต่อความเสถียรได้

เพื่อความเสถียรสูงสุดในเซรั่ม Ethyl Ascorbic Acid (สำหรับสูตรน้ำ) หรือ Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) (สำหรับสูตรน้ำมัน) เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม เนื่องจากมีความเสถียรโดยธรรมชาติและผสมได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับ L-Ascorbic Acid หรือ AA-2G

บรรจุภัณฑ์สำหรับเซรั่มวิตามินซี

วิตามินซีไวต่อแสงและอากาศ ซึ่งอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและสูญเสียประสิทธิภาพ บรรจุภัณฑ์มีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซรั่ม

• บรรจุภัณฑ์ทึบแสง: ให้การปกป้องที่ดีที่สุดจากแสง ช่วยรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพของวิตามินซีตลอดอายุการเก็บรักษา
• ขวดแก้วสีชา: แม้ว่าขวดแก้วสีชาจะให้การปกป้องจากแสง UV ได้บ้างเมื่อเทียบกับแก้วใส แต่ก็ไม่ได้ป้องกันแสงได้ทั้งหมด บรรจุภัณฑ์ทึบแสง (เช่น ขวดปั๊มสุญญากาศ หรือหลอดบีบ) ดีกว่าสำหรับส่วนผสมที่ไวต่อแสง เช่น วิตามินซี

ดังนั้น การบรรจุเซรั่มวิตามินซีในภาชนะทึบแสงจึงเป็นที่แนะนำอย่างยิ่ง มากกว่าขวดแก้วสีชา เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมยังคงเสถียรและมีประสิทธิภาพนานที่สุด