อิมัลซิไฟเออร์สำหรับเซรั่มเนื้อใส pH ต่ำ ที่มีวิตามินอีและบิซาโบลอล
คำถาม
กำลังทำเซรั่ม C E Ferulic ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี 2% และบิซาโบลอล 0.5% ในส่วนน้ำมัน ต้องการให้ได้เซรั่มเนื้อใสในสภาวะที่มีค่า pH ต่ำ (2.5-3.5) และสูตรมีอิเล็กโทรไลต์ อยากสอบถามเกี่ยวกับการเลือกใช้อิมัลซิไฟเออร์หรือสารช่วยละลายดังนี้ค่ะ:
- Laureth-23 เหมาะสำหรับสูตร pH ต่ำและปริมาณน้ำมันเท่านี้หรือไม่? ควรใช้กี่เปอร์เซ็นต์เพื่อให้ได้เนื้อใส โดยพิจารณาว่าอัตราการใช้ทั่วไปอยู่ที่ 1-5% (ไม่เกิน 6%)? กังวลว่า Laureth-23 อาจทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนค่ะ
- สามารถใช้ Flora Solve Clear แทน Laureth-23 เพื่อให้ได้เซรั่มเนื้อใสได้หรือไม่? อัตราส่วนการใช้ที่แนะนำสำหรับการช่วยละลายคือ Flora Solve Clear 2-5 ส่วน ต่อน้ำหอม/น้ำมันหอมระเหย 1 ส่วน การใช้ Flora Solve Clear 3% ต่อส่วนน้ำมัน 2.5% เพียงพอหรือไม่?
- ต้องการอิมัลซิไฟเออร์ที่ทำให้เนื้อเป็นสีขาว ใช้งานในเปอร์เซ็นต์น้อย ไม่ต้องปั่นด้วยความเร็วสูง และยังคงทำให้เซรั่มใสอยู่ด้วย มีส่วนผสมลักษณะนี้หรือไม่?
- หากลดปริมาณวิตามินอีลงเหลือ 1% (ส่วนน้ำมันรวม 1.5%) จะมีผลต่อความต้องการอิมัลซิไฟเออร์/สารช่วยละลาย หรือความคงตัวของสูตรมากน้อยแค่ไหน?
คำตอบ
อิมัลซิไฟเออร์สำหรับเซรั่ม C E Ferulic เนื้อใสในสภาวะ pH ต่ำ
สำหรับการทำเซรั่ม C E Ferulic ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี 2% และบิซาโบลอล 0.5% ในส่วนน้ำมัน โดยต้องการให้ได้เซรั่มเนื้อใสในสภาวะที่มีค่า pH ต่ำ (2.5-3.5) และมีอิเล็กโทรไลต์ การเลือกใช้อิมัลซิไฟเออร์หรือสารช่วยละลายที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ
การใช้ Laureth-23
สำหรับ ลอเร็ธ-23 (Laureth-23) เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสำหรับสูตรที่มีค่า pH ต่ำ ในการทำให้เซรั่มเนื้อใสที่มีส่วนน้ำมันรวม 2.5% (วิตามินอี 2% + บิซาโบลอล 0.5%) โดยทั่วไปจะต้องใช้ ลอเร็ธ-23 ในปริมาณที่เพียงพอต่อการประสานส่วนน้ำมันนี้ให้เข้ากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีคำแนะนำทั่วไปว่าอาจใช้ประมาณ 3 เท่าของส่วนน้ำมัน แต่ปริมาณที่แน่นอนเพื่อให้ได้ความใสและความคงตัวสูงสุดในสูตรเฉพาะของคุณจะต้องทำการทดสอบค่ะ โดยทั่วไปอัตราการใช้ ลอเร็ธ-23 อยู่ที่ 1-5% และไม่ควรเกิน 6% คุณอาจพบว่าต้องใช้ในปริมาณที่ค่อนไปทางสูงของช่วงนี้ค่ะ ส่วนข้อกังวลเรื่อง ลอเร็ธ-23 อาจทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนนั้น ความสามารถในการอุดตันของส่วนผสมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและความไวของผิวแต่ละบุคคลค่ะ
ทางเลือกเพื่อให้ได้เนื้อใส: Flora Solve Clear
ในฐานะทางเลือกเพื่อให้ได้เนื้อใสในสูตรที่มีค่า pH ต่ำ มีการแนะนำให้ทดลองใช้ ฟลอร่า โซลฟ์ เคลียร์ (Flora Solve Clear) ฟลอร่า โซลฟ์ เคลียร์ เป็นสารช่วยละลายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนำพาน้ำหอมและน้ำมันหอมระเหยเข้ากับเบสน้ำ ทำให้ได้สารละลายที่ใส แม้ว่าจะสามารถช่วยละลายส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันอื่นๆ เช่น วิตามินอี และบิซาโบลอล ในสภาวะ pH ต่ำได้ แต่ประสิทธิภาพในการสร้างอิมัลชันที่ใสและคงตัวด้วยส่วนน้ำมัน 2.5% ยังคงต้องได้รับการประเมินอย่างรอบคอบค่ะ อัตราส่วนการใช้ที่แนะนำสำหรับการช่วยละลายโดยทั่วไปคือ ฟลอร่า โซลฟ์ เคลียร์ 2-5 ส่วน ต่อน้ำหอม/น้ำมันหอมระเหย 1 ส่วน การใช้ ฟลอร่า โซลฟ์ เคลียร์ 3% ต่อส่วนน้ำมัน 2.5% เป็นอัตราส่วนที่ต่ำกว่าคำแนะนำสำหรับน้ำหอม ดังนั้น การทดสอบความคงตัวอย่างเข้มงวด (รวมถึงการทดสอบอุณหภูมิ) จึงจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าสูตรยังคงใสและไม่แยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอิเล็กโทรไลต์อยู่ด้วย ฟลอร่า โซลฟ์ เคลียร์ เป็นของเหลวใส ไม่มีสีและไม่มีกลิ่นค่ะ
เซรั่มเนื้อขาว กับ เนื้อใส
คุณยังได้สอบถามถึงอิมัลซิไฟเออร์ที่ทำให้เนื้อเป็นสีขาว ใช้งานในเปอร์เซ็นต์น้อย ไม่ต้องปั่นด้วยความเร็วสูง และยังคงทำให้เซรั่มใสอยู่ด้วยค่ะ ขอชี้แจงว่าอิมัลซิไฟเออร์ที่ทำให้เซรั่มเป็นสีขาวนั้นจะสร้างอิมัลชันที่มีลักษณะขุ่นหรือขาว ซึ่งตรงข้ามกับเซรั่มเนื้อใสค่ะ อิมัลซิไฟเออร์ที่ให้เนื้อขาวมักจะทำงานแตกต่างจากสารช่วยละลายที่ใช้สำหรับเซรั่มใส และมักต้องใช้วิธีการผสมที่แตกต่างกัน ดังนั้น ส่วนผสมที่ทำให้เซรั่มเป็นทั้งสีขาวและใสในเวลาเดียวกันจึงเป็นไปไม่ได้ค่ะ หากเป้าหมายของคุณคือเซรั่มเนื้อใส ควรเน้นที่สารช่วยละลายหรืออิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมกับการสร้างระบบที่ใสค่ะ
การปรับปริมาณวิตามินอี
การลดปริมาณวิตามินอีลงเหลือ 1% จะทำให้ส่วนน้ำมันรวมลดลงเหลือ 1.5% (วิตามินอี 1% + บิซาโบลอล 0.5%) ซึ่งอาจช่วยลดปริมาณอิมัลซิไฟเออร์หรือสารช่วยละลายที่ต้องใช้เพื่อให้ได้ความใสลงได้เล็กน้อย แต่ความท้าทายที่เกิดจากค่า pH ต่ำและอิเล็กโทรไลต์ต่อความคงตัวของสูตรยังคงมีอยู่ และยังคงต้องมีการทดสอบส่วนผสมที่เลือกใช้อย่างละเอียดค่ะ
สรุป
สรุปคือ สำหรับเซรั่มเนื้อใสที่มีค่า pH ต่ำและมีส่วนน้ำมันตามที่คุณแจ้ง ลอเร็ธ-23 เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่เป็นไปได้ แต่ต้องทดสอบปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ความใสและความคงตัว ซึ่งอาจต้องใช้ในเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนไปทางสูงของช่วงที่แนะนำค่ะ ฟลอร่า โซลฟ์ เคลียร์ เป็นอีกทางเลือกสำหรับความใส แต่ประสิทธิภาพกับปริมาณน้ำมันและส่วนประกอบอื่นๆ ในสูตร (ค่า pH ต่ำ, อิเล็กโทรไลต์) ต้องได้รับการทดสอบความคงตัวอย่างละเอียดค่ะ การทำให้เซรั่มเป็นทั้งสีขาวและใสพร้อมกันนั้นเป็นไปไม่ได้ค่ะ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ส่วนผสมใดหรือปรับปริมาณวิตามินอีหรือไม่ การทดสอบความคงตัวอย่างครอบคลุมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสูตรที่มีความท้าทายนี้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Vitamin C E Ferulic

Laureth-23
