เปรียบเทียบความเหนอะหนะของ Hyaluronic Acid และวิธีลดความเหนอะหนะที่ความเข้มข้นสูง
คำถาม
รบกวนสอบถามค่ะว่า - ในปริมาณเท่ากัน เช่น 5-10% ความเหนอะหนะของไฮยารูรอนตัวไหนจะมากกว่ากันคะ ระหว่าง 4d hyaกับ double hya ถ้าใส่ลงในสูตรเดียวกันทุกประการ - หากต้องการใช้ไฮยารูรอนปริมาณ10%ขึ้นไป ควรทำอย่างไรให้มีความเหนอะหนะน้อยที่สุด แต่ได้ความชุ่มชื้นมากเท่าเดิมคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
คำตอบ
การเปรียบเทียบความเหนอะหนะระหว่าง 4D Hyaluronic Acid และ Double Hyaluron Liquid
จากข้อมูลรายละเอียดผลิตภัณฑ์:
- 4D Hyaluronic Acid ถูกอธิบายว่ามี "เนื้อเจลข้น" และ "เนื้อเจลใสหนืด" เป็นการผสมผสานโมเลกุลไฮยาลูรอนิกแอซิด 4 ชนิด รวมถึงชนิดโมเลกุลใหญ่และชนิดประจุบวก ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดเนื้อเจลและฟิล์มเคลือบผิว โครงสร้างนี้ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้หลายชั้น แต่อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้มากกว่า โดยเฉพาะที่ความเข้มข้นสูง เช่น 5-10%
- Double Hyaluron Liquid ถูกอธิบายว่าเป็น "ของเหลวข้นใส" และเป็นการผสมผสานระหว่างโมเลกุลขนาดนาโนและขนาดมาตรฐาน ขนาดมาตรฐานสามารถสร้าง "เจลได้เล็กน้อย" และ "เคลือบผิวได้เล็กน้อย" ในขณะที่ขนาดนาโนไม่สร้างเนื้อเจล เนื่องจากมีสัดส่วนของขนาดนาโนที่ไม่สร้างเจลมาก และขนาดมาตรฐานสร้างเจลได้เพียงเล็กน้อย จึงมีแนวโน้มที่จะมีความหนืดและความเหนอะหนะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ 4D Hyaluronic Acid ที่ความเข้มข้นเท่ากัน (5-10%) ในเบสสูตรเดียวกัน
ดังนั้น ที่ความเข้มข้นเท่ากัน (5-10%) ในสูตรเดียวกัน 4D Hyaluronic Acid คาดว่าจะมีความหนืดและอาจรู้สึกเหนอะหนะมากกว่า Double Hyaluron Liquid
วิธีลดความเหนอะหนะที่ความเข้มข้นสูงของ Hyaluronic Acid (10% ขึ้นไป)
การใช้ Hyaluronic Acid ในความเข้มข้นสูง (10% หรือมากกว่า) มักทำให้รู้สึกเหนอะหนะ เพื่อลดความเหนอะหนะขณะที่ยังคงให้ความชุ่มชื้นสูง ควรพิจารณาแนวทางการพัฒนาสูตรดังนี้:
- ผสมผสาน Hyaluronic Acid หลายขนาดโมเลกุล: แม้ว่า 4D และ Double Hyaluron จะมีการผสมผสานโมเลกุลอยู่แล้ว แต่การปรับ อัตราส่วน หรือการเพิ่ม Hyaluronic Acid ขนาดโมเลกุลอื่นๆ ที่เฉพาะเจาะจงเข้าไป สามารถช่วยได้ Hyaluronic Acid โมเลกุลเล็กจะเหนอะหนะน้อยกว่า แต่สร้างฟิล์มเคลือบผิวได้น้อยกว่า ในขณะที่โมเลกุลใหญ่จะสร้างฟิล์มได้ดีกว่าแต่เหนอะหนะกว่า การผสมผสานที่สมดุลเป็นสิ่งสำคัญ
- เพิ่มสารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ: ผสมผสาน Hyaluronic Acid กับสารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ เช่น Glycerin, Panthenol (วิตามินบี 5) หรือ Sodium PCA สารเหล่านี้สามารถช่วยเสริมความชุ่มชื้นและบางครั้งช่วยปรับเนื้อสัมผัสให้น้อยลงความเหนอะหนะกว่าสูตรที่พึ่งพา Hyaluronic Acid ความเข้มข้นสูงเพียงอย่างเดียว
- เพิ่มสารปรับเนื้อสัมผัส/สารให้ความนุ่มลื่น: การใส่สารให้ความนุ่มลื่นเนื้อบางเบา (เช่น esters หรือ silicones บางชนิด) หรือสารปรับความข้นหนืดในสูตร สามารถช่วยปรับปรุงความลื่นและลดความรู้สึกเหนอะหนะหลังใช้ โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการให้ความชุ่มชื้น
- ปรับปรุงเบสของสูตรโดยรวม: องค์ประกอบโดยรวมของเบสเซรั่มหรือครีมของคุณมีผลอย่างมากต่อเนื้อสัมผัสสุดท้าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบสสูตรได้รับการพัฒนามาอย่างดีเพื่อรองรับ Hyaluronic Acid ที่ความเข้มข้นสูงได้
การให้ความชุ่มชื้นสูงโดยมีความเหนอะหนะน้อยที่สุดที่ความเข้มข้น 10% ขึ้นไปนั้น ต้องอาศัยการพัฒนาสูตรอย่างรอบคอบ และมักจะเกี่ยวข้องกับการผสมผสาน Hyaluronic Acid กับส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยปรับปรุงความรู้สึกทางประสาทสัมผัสของผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Double Hyaluron Liquid
