เปรียบเทียบสารช่วยนำพาสารออกฤทธิ์ละลายน้ำ: 1,2-Hexanediol + VersaMoist™ vs DMI + Phospholipid

Based on the information about these ingredients:

• 1,2-Hexanediol เป็นตัวทำละลายและสารช่วยนำพา (penetration enhancer) ที่ช่วยนำพาส่วนผสมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็น humectant และช่วยเสริมประสิทธิภาพสารกันเสีย
• VersaMoist™ (PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether) ถูกอธิบายว่าช่วยเพิ่มการซึมผ่านของผิว (skin penetrating) เนื่องจากสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน ช่วยเชื่อมระหว่างส่วนผสมกับชั้นผิว
• Dimethyl Isosorbide (DMI) เป็นตัวทำละลายและสารช่วยนำพาที่รู้จักกันดี และระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเหมาะสมสำหรับการนำพาส่วนผสมที่ละลายในน้ำ มีประวัติการใช้งานยาวนานและมีตัวอย่างการทดลองทางคลินิกที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นหรือลดการระคายเคืองสำหรับส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด รวมถึงชนิดที่ละลายในน้ำ เช่น Vitamin C และ Hyaluronic Acid
• Phospholipid (Hydrogenated Lecithin) เหมาะสำหรับการนำพาทั้งส่วนผสมที่ละลายในน้ำและน้ำมัน มีคุณสมบัติในการสร้าง Liposome ซึ่งแสดงให้เห็นในการทดลองว่าช่วยเพิ่มการดูดซึมของสูตรเข้าสู่ชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและเสริมเกราะป้องกันผิว

เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองชุดสำหรับการเพิ่มการซึมผ่านของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำ:

• ชุด 1,2-Hexanediol และ VersaMoist™ ให้คุณสมบัติการช่วยนำพาโดยทั่วไปและเป็นตัวทำละลาย โดย VersaMoist™ ช่วยเชื่อมกับทั้งส่วนที่เป็นน้ำและน้ำมันในผิว
• ชุด Dimethyl Isosorbide (DMI) และ Phospholipid ให้แนวทางที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นสำหรับส่วนผสมที่ละลายในน้ำ โดย DMI เหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับวัตถุประสงค์นี้ และ Phospholipid สร้าง Liposome ซึ่งแสดงให้เห็นว่าช่วยเพิ่มการดูดซึมเข้าสู่ชั้นผิวต่างๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ Phospholipid ยังมีประโยชน์เพิ่มเติมต่อเกราะป้องกันผิว

ดังนั้น สำหรับการเพิ่มการซึมผ่านของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำ ชุด Dimethyl Isosorbide (DMI) และ Phospholipid มีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพมากกว่า เนื่องจาก DMI มีความเหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับส่วนผสมที่ละลายในน้ำ และ Phospholipid มีความสามารถที่พิสูจน์แล้วในการปรับปรุงการดูดซึมผ่านการสร้าง Liposome รวมถึงประโยชน์ต่อเกราะป้องกันผิว.