แก้ปัญหาเซรั่มแยกชั้นระหว่างผสมและหลังเก็บ

ปัญหาการขึ้นเนื้อเซรั่มและการแยกชั้น

เข้าใจเลยค่ะว่าการพัฒนาสูตรเซรั่มแล้วเจอปัญหาการแยกชั้นทั้งตอนผสมและหลังเก็บเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจมาก จากสูตรและวิธีการที่คุณให้มา เซรั่มของคุณเป็นสูตรที่ซับซ้อน มีส่วนผสมที่ละลายน้ำจำนวนมากในความเข้มข้นสูง รวมถึงอิเล็กโทรไลต์ (Magnesium Sulfate) และสารสร้างเนื้อเจล (Natto Gum, 4D Hyaluronic Acid) ร่วมกับเฟสน้ำมัน/ซิลิโคน การทำอิมัลชันให้เสถียรในระบบที่ซับซ้อนแบบนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายค่ะ

สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดของปัญหาการแยกชั้นที่คุณเจอคือ:

1. การรบกวนจากอิเล็กโทรไลต์ (Magnesium Sulfate): Magnesium Sulfate เป็นเกลือ (อิเล็กโทรไลต์) ซึ่งสามารถทำลายความเสถียรของอิมัลชันได้ โดยเฉพาะอิมัลชันแบบ Oil-in-Water (O/W) เนื่องจากไปรบกวนการทำงานของสารประสานเนื้อ (Emulsifier) สูตรของคุณมี Magnesium Sulfate 1.5% ซึ่งถือว่ามีความเข้มข้นสูง คำอธิบายผลิตภัณฑ์ของ Magnesium Sulfate ระบุว่ามักใช้เป็นสารช่วยคงตัวในสูตรแบบ Water-in-Oil ไม่ใช่ Oil-in-Water และคำอธิบายของ Silky Serum Base Plus แนะนำให้เติมใน ขั้นตอนสุดท้าย เพื่อช่วยเรื่องความเสถียร การที่คุณเติมลงในเฟสน้ำ ก่อน การทำอิมัลชัน อาจเป็นสาเหตุของการแยกชั้นทั้งตอนผสมและเมื่อตั้งทิ้งไว้
2. ปริมาณสารออกฤทธิ์ในเฟสน้ำสูง: ส่วนผสมที่ละลายน้ำจำนวนมากและความเข้มข้นสูง (เช่น Tranexamic Acid, Vitamin B3 (Safe-B3 TM), สารสกัดต่างๆ, เปปไทด์, 4D Hyaluronic Acid, Natto Gum ฯลฯ) สามารถเพิ่มขั้วและความแรงไอออนิกของเฟสน้ำ ทำให้สารประสานเนื้อสร้างและคงตัวหยดน้ำมันได้ยากขึ้น
3. ความเหมาะสมและความเข้มข้นของสารประสานเนื้อ:
   • คุณได้ลองใช้ Silky Serum Base Plus (16%), SiliSolve (1%), และ SiliSolve Plus (1%) แม้ว่าสารประสานเนื้อเหล่านี้จะออกแบบมาสำหรับระบบน้ำ/ซิลิโคน หรือ น้ำ/น้ำมัน/ซิลิโคน และทนต่ออิเล็กโทรไลต์ได้ แต่ส่วนผสมที่ซับซ้อนและความเข้มข้นสูงในสูตรของคุณอาจต้องการความเข้มข้นของสารประสานเนื้อที่สูงขึ้น โดยเฉพาะ SiliSolve และ SiliSolve Plus ที่คุณใช้เพียง 1% ซึ่งเป็นช่วงต่ำสุดของปริมาณแนะนำ (0.5-3%)
   • ต้องแน่ใจว่าสารประสานเนื้อที่คุณเลือกเหมาะสมที่สุดสำหรับ ส่วนผสมเฉพาะเจาะจงทั้งหมด ในสูตรนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีอิเล็กโทรไลต์และโพลิเมอร์ในปริมาณสูง
4. วิธีการผสมและการใช้เครื่องปั่น (Shear): การค่อยๆ เติมเฟสน้ำลงในเฟสน้ำมัน/สารประสานเนื้อ เป็นวิธีที่ถูกต้องสำหรับสารประสานเนื้อประเภทนี้ แต่ความเร็วในการเติมและกำลังของเครื่องปั่น (Homogenizer) เป็นสิ่งสำคัญมาก การเติมเฟสน้ำเร็วเกินไปอาจทำให้ระบบสารประสานเนื้อรับไม่ไหวและเกิดการแยกชั้นก่อนที่จะสร้างอิมัลชันที่เสถียรได้ การที่สูตรแยกชั้นเมื่อเติมน้ำไปได้ประมาณครึ่งหนึ่ง แสดงว่าระบบกำลังมีปัญหาในการรวมเฟสน้ำที่เหลือ
5. ความเข้ากันได้ของโพลิเมอร์: Natto Gum ถูกระบุว่าเป็นอิเล็กโทรไลต์อ่อนๆ และอาจทำให้สูตรเหลวได้หากสารสร้างเนื้อเจลไม่ทนต่ออิเล็กโทรไลต์ การทำงานร่วมกันระหว่าง Natto Gum, 4D Hyaluronic Acid และ Magnesium Sulfate ที่มีความเข้มข้นสูง อาจเป็นปัญหาต่อความเสถียรในระยะยาว (การคายน้ำหรือแยกชั้น)

แนวทางการแก้ไขปัญหา:

นี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถลองทำเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้:

1. จัดการกับ Magnesium Sulfate: นี่คือผู้ต้องสงสัยหลัก
   • ลดความเข้มข้น: ลองลดความเข้มข้นของ Magnesium Sulfate ลง (เช่น เหลือ 0.5% หรือน้อยกว่า) ในการทดลองสูตรเพื่อดูว่าความเสถียรดีขึ้นหรือไม่
   • เปลี่ยนวิธีการเติม: ลองเติม Magnesium Sulfate หลังจาก ที่อิมัลชันเริ่มก่อตัวและเย็นลงเล็กน้อย ตามที่แนะนำสำหรับ Silky Serum Base Plus ละลาย Magnesium Sulfate ในน้ำปริมาณเล็กน้อยแล้วค่อยๆ เติมลงไปในขณะที่ยังคงปั่นอยู่
2. ปรับความเข้มข้นของสารประสานเนื้อ: หากใช้ SiliSolve หรือ SiliSolve Plus ลองเพิ่มความเข้มข้นเป็น 2% หรือ 3% ในการทดลองสูตร ปริมาณสารประสานเนื้อที่สูงขึ้นอาจจำเป็นต่อการจัดการกับเฟสน้ำที่มีส่วนผสมซับซ้อน
3. ปรับปรุงขั้นตอนการผสม:
   • เติมช้าๆ: ค่อยๆ เติมเฟสน้ำลงในเฟสน้ำมัน/สารประสานเนื้อ ช้าๆ มากๆ ทีละน้อย โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของการทำอิมัลชัน รอให้แต่ละส่วนที่เติมเข้าไปเข้ากันดีก่อนที่จะเติมส่วนต่อไป วิธีนี้จะช่วยให้สารประสานเนื้อมีเวลาในการสร้างและคงตัวหยดน้ำมัน
   • การปั่น: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องปั่น (Homogenizer) ให้แรงเฉือนที่เพียงพอ และปั่นเป็นเวลาที่เหมาะสมหลังจากเติมน้ำทั้งหมดแล้ว เพื่อให้อิมัลชันพัฒนาโครงสร้างได้อย่างสมบูรณ์
4. ลดความซับซ้อนและทดสอบ: ลองทำสูตรที่ง่ายขึ้น โดยมีเพียงน้ำ เฟสน้ำมัน/ซิลิโคน (รวมถึง Cyclopentasiloxane), สารประสานเนื้อ, และ Magnesium Sulfate หากระบบที่ง่ายขึ้นนี้ยังไม่เสถียร แสดงว่าปัญหาอยู่ที่ความสามารถของสารประสานเนื้อในการจัดการกับเฟสน้ำมัน/ซิลิโคนเมื่อมีอิเล็กโทรไลต์อยู่ แต่ถ้าสูตรที่ง่ายขึ้นเสถียร ค่อยๆ เติมกลุ่มสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำลงไปทีละกลุ่ม (เช่น Natto Gum, 4D Hyaluronic Acid, Tranexamic Acid, Vitamin B3 (Safe-B3 TM), Disodium EDTA) เพื่อระบุว่าส่วนผสมใดที่ทำให้เกิดการแยกชั้น
5. ตรวจสอบค่า pH: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH ของเฟสน้ำและเซรั่มสุดท้ายอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับสารประสานเนื้อที่คุณเลือกและความเสถียรของส่วนผสมออกฤทธิ์ทั้งหมด
6. พิจารณาสารช่วยคงตัวทางเลือก: หากการผสมผสานระหว่าง Natto Gum, 4D Hyaluronic Acid และ Magnesium Sulfate ไม่เข้ากัน คุณอาจต้องพิจารณาสารสร้างเนื้อเจลในเฟสน้ำ หรือสารช่วยคงตัวอิมัลชันทางเลือกที่ทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์ได้ดีกว่า

การพัฒนาสูตรเซรั่มที่ซับซ้อนซึ่งมีสารออกฤทธิ์และความเข้มข้นสูง รวมถึงอิเล็กโทรไลต์ เป็นเรื่องที่ท้าทายและมักต้องมีการทดลองปรับปรุงซ้ำๆ เพื่อหาสมดุลที่เหมาะสมของส่วนผสมและกระบวนการผลิต การให้ความสำคัญกับอิเล็กโทรไลต์ การปรับความเข้มข้นของสารประสานเนื้อ และความเร็วในการผสม เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแก้ไขปัญหาค่ะ