แก้ไขปัญหาเนื้อเซรั่มเหนียวและมีกลิ่นคาว
คำถาม
อยากขอคำแนะนำเกี่ยวกับสูตรครับ สูตรทดสอบ Puress Blue Serum มีส่วนผสมดังนี้ครับ
Zinc PCA 1%
Sebum-Reg™ (Capryloyl Glycine) 2%
Methylsulfonylmethane (Pure MSM™) 3%
L-Carnitine (Carnitine) 3%
Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride) 2%
SelectSorb™ (PMMA ดูดซับน้ำมัน) 3%
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland) 2%
GlucoBright™ (Acetyl glucosamine) 3%
Z-White™ 0.5%
4MSK (Potassium Methoxysalicylate) 2%
CosmoWhite™ (1-Methylhydantoin-2-Imide) 1.5%
Tranexamic Acid 1%
Alpha Arbutin (China, Enzymatic Synthesis) 1%
Satin Cream Maker™ 1.8%
Silicone Gel (Ultra Clear) 7%
Skin-mimic™ (Skin Barrier Restoration) 5%
Disodium EDTA 0.2%
Sodium Metabisulfite 0.2%
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free) 1%
Dimethyl Isosorbide (DMI) 3%
Phospholipid 2%
Mystery Rose 0.1%
น้ำกลั่น ปราศจากเชื้อ 54.7%
หลังจากใช้แล้ว พบปัญหาดังนี้ครับ
- หลังจากทาแล้วรู้สึกว่า เซรั่มทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนใบหน้า
- เซรั่มมีกลิ่นเหม็นคาวอ่อนๆ คล้ายกลิ่นน้ำปลา
อยากทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด และควรแก้ไขอย่างไร
ขอขอบคุณ RD ล่วงหน้าด้วยครับ
คำตอบ
หัวข้อ: คำแนะนำเกี่ยวกับสูตรเซรั่ม
ขอบคุณที่แจ้งข้อมูลสูตร Puress Blue Serum ที่ทดลองทำ พร้อมทั้งปัญหาที่พบหลังจากใช้งาน จากรายการส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์ที่ระบุ นี่คือสาเหตุที่เป็นไปได้และแนวทางการแก้ไขสำหรับปัญหาความเหนียวเหนอะหนะและกลิ่นคาวอ่อนๆ ครับ:
1. ความเหนียวเหนอะหนะ:
สาเหตุที่เป็นไปได้:
- ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำสูง: สารออกฤทธิ์หลายชนิดในสูตร (Zinc PCA, Capryloyl Glycine, MSM, L-Carnitine, Vitamin B6, Niacinamide, Acetyl Glucosamine, Zinc Glycinate, 4MSK, Tranexamic Acid, 1-Methylhydantoin-2-Imide, Alpha Arbutin) เป็นชนิดที่ละลายน้ำได้และมีเปอร์เซ็นต์รวมกันค่อนข้างสูง (ประมาณ 25%) สารบางชนิด เช่น Niacinamide และ Acetyl Glucosamine เป็นที่ทราบกันดีว่าอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้ โดยเฉพาะที่ความเข้มข้นสูง
- สารสร้างเนื้อ/ปรับเนื้อ: Satin Cream Maker และ Silicone Gel มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเซรั่ม ความเข้มข้นของ Silicone Gel (7%) ค่อนข้างสูงสำหรับเซรั่ม ซึ่งอาจทิ้งความรู้สึกเคลือบผิวที่บางคนอาจรู้สึกเหนียวหรือหนักได้ ชนิดและความเข้มข้นของ Satin Cream Maker ก็มีผลต่อความรู้สึกหลังใช้เช่นกัน
- Dimethyl Isosorbide (DMI): ที่ความเข้มข้น 3% DMI บางครั้งอาจทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะเล็กน้อยบนผิว
- Skin-mimic™: ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบ อาจทำให้รู้สึกหนักขึ้นได้
แนวทางการแก้ไขที่แนะนำ:
- ปรับความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์: หากเป็นไปได้ ลองลดความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่ทราบว่าอาจทำให้เหนอะหนะลงเล็กน้อย (เช่น Niacinamide, Acetyl Glucosamine) หรือประเมินว่าเปอร์เซ็นต์รวมกันสูงเกินไปสำหรับเนื้อเซรั่มที่ต้องการหรือไม่
- ปรับระบบสร้างเนื้อ: ลองลดความเข้มข้นของ Silicone Gel หรือ Satin Cream Maker หรือพิจารณาใช้สารสร้างเนื้อ/สารก่อเจลชนิดอื่นที่ให้ความรู้สึกเบาบางกว่า
- ปรับกระบวนการผลิต: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดละลายและเข้ากันได้ดี
- พิจารณาเพิ่มสารที่ช่วยให้ลื่น: แม้จะมี Silicone Gel อยู่แล้ว สารเอสเทอร์เบาๆ หรืออิมอลเลียนต์อื่นๆ (หากเข้ากันได้) อาจช่วยเพิ่มความลื่นและลดความเหนอะหนะได้ แต่การเพิ่มน้ำมันอาจทำให้ลักษณะของเซรั่มเปลี่ยนไปอย่างมาก
- ตรวจสอบค่า pH: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH ของสูตรอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับการคงตัวและเข้ากันได้กับผิว เนื่องจากค่า pH อาจส่งผลต่อความรู้สึกของส่วนผสมบางชนิด
2. กลิ่นคาวอ่อนๆ:
สาเหตุที่เป็นไปได้:
- การเสื่อมสภาพหรือปฏิกิริยาระหว่างส่วนผสม: นี่เป็นสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ส่วนผสมหลายชนิดมีไนโตรเจนหรือซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ (L-Carnitine, Capryloyl Glycine, Acetyl Glucosamine, Zinc Glycinate, Tranexamic Acid, 1-Methylhydantoin-2-Imide, MSM) ภายใต้สภาวะบางอย่าง (เช่น ค่า pH, อุณหภูมิ, ปฏิกิริยากับส่วนประกอบอื่น เช่น Sodium Metabisulfite หรือสิ่งเจือปน) สารเหล่านี้อาจเสื่อมสภาพหรือทำปฏิกิริยาจนเกิดกลิ่นคล้ายเอมีนหรือกลิ่นกำมะถัน ซึ่งอาจถูกรับรู้ว่าเป็นกลิ่นคาวได้
- คุณภาพของวัตถุดิบ: กลิ่นอาจมาจากสิ่งเจือปนในวัตถุดิบอย่างน้อยหนึ่งชนิด
- ปัญหาค่า pH: ค่า pH ของสูตรมีผลอย่างมากต่อความคงตัวและกลิ่นของส่วนผสมบางชนิด
- ปฏิกิริยากับสารกันเสีย: แม้จะไม่พบบ่อยสำหรับ Mild Preserved Eco™ แต่บางครั้งสารกันเสียอาจทำปฏิกิริยากับส่วนผสมอื่นจนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
แนวทางการแก้ไขที่แนะนำ:
- ระบุแหล่งที่มา: นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด
- ดมกลิ่นวัตถุดิบแต่ละชนิดแยกกัน เพื่อดูว่ามีกลิ่นอยู่ก่อนแล้วหรือไม่
- ลองผสมส่วนผสมพื้นฐานง่ายๆ (เช่น น้ำ + สารออกฤทธิ์แต่ละชนิด) เพื่อดูว่ากลิ่นเกิดขึ้นในระบบที่ง่ายกว่าหรือไม่
- ตรวจสอบและปรับค่า pH ของสูตรสำเร็จรูปและระหว่างการเตรียม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH คงที่
- ตรวจสอบคุณภาพและสภาพการจัดเก็บวัตถุดิบทั้งหมด
- แก้ไขที่แหล่งที่มา:
- หากระบุส่วนผสมที่เป็นต้นเหตุได้ ให้ลองจัดหาจากซัพพลายเออร์รายอื่น หรือใช้เกรดที่แตกต่างกัน
- หากปัญหาเกิดจากค่า pH ให้ปรับและทำให้ค่า pH คงที่
- หากเกิดจากปฏิกิริยา ให้ปรับสูตรเพื่อหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่มีปัญหา หรือเพิ่มสารทำให้คงตัว/สารต้านอนุมูลอิสระที่เหมาะสม
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้รับการจัดเก็บอย่างเหมาะสม (หลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูงหรือแสงแดด)
- การกลบกลิ่น (ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด): หากกลิ่นจางมากและไม่สามารถกำจัดได้หมด การเพิ่มความเข้มข้นหรือใช้ชนิดของน้ำหอมที่แตกต่างกันอาจช่วยกลบกลิ่นได้ แต่การแก้ไขที่ต้นเหตุจะดีกว่า เพราะการกลบกลิ่นไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง (การเสื่อมสภาพหรือปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้น)
หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาสำหรับสูตรเซรั่มของคุณนะครับ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

L-Carnitine (Carnitine)

Disodium EDTA

Silicone Gel (Ultra Clear, Super Silky)

Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)

Satin Cream Maker™

Zinc PCA

Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride)

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Tranexamic Acid (Trans-White™)

Phospholipid

4MSK (Potassium Methoxysalicylate)

SelectSorb™ (High Oil Absorption PMMA)

Sebum-Reg™ (Capryloyl Glycine)

Dimethyl Isosorbide (DMI)

CosmoWhite™ (1-Methylhydantoin-2-Imide)
