แนวทางการพัฒนาสูตรครีมกันแดด (Physical & Hybrid)

ถามโดย: ohm556 เมื่อ: June 20, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

จากคำถามก่อนหน้านี้เกี่ยวกับวัตถุดิบ ดิฉันต้องการคำแนะนำในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด โดยมีข้อกำหนดดังนี้:

  1. เนื้อสัมผัส: เป็นเนื้อครีมสีขาว (ไม่ต้องผสมรองพื้น แต่ทาแล้วผิวอาจจะดูขาวกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย)
  2. การกันน้ำ: กันน้ำได้ แต่อาจจะไม่ต้องมาก แค่กันเหงื่อปกติ
  3. ค่า SPF/PA: SPF 40-50 PA+++
  4. สารกันแดด: ถ้าเป็น Physical sunscreen 100% ได้จะดีมากๆ ครับ หรือแบบผสม chemical นิดหน่อย (แต่เน้น Physical มากกว่า)
  5. คุณสมบัติเนื้อสัมผัส: ทาแล้วเนื้อไม่เหนอะ ไม่มัน เกลี่ยง่าย
  6. ความขาววอก: ทาแล้วไม่วอก หรือน้อยที่สุดครับ

รบกวนขอเป็นสูตรตัวอย่างที่แบบ Physical 100% และแบบผสม chemical (เน้น Physical) ให้ซัก 2-3 สูตรหน่อยครับ

คำตอบ

แนวทางการพัฒนาสูตรเซรั่ม เจล และครีมกันแดด

ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับสูตรของคุณค่ะ ดิฉันเข้าใจว่าคุณกำลังประสบปัญหาด้านความเสถียรของเซรั่มและเจล และต้องการคำแนะนำในการพัฒนาสูตรครีมกันแดด เรามาดูแต่ละประเด็นกันค่ะ

ความเสถียรของเซรั่ม (สีและกลิ่นเปลี่ยน)

การเปลี่ยนแปลงของสีและกลิ่นในเซรั่มของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเก็บไว้ในที่อุณหภูมิสูง มีแนวโน้มมาจากการออกซิเดชันของส่วนผสมที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น Witch Hazel และอาจรวมถึง Tetrahydrodiferuloylmethane ซึ่งสามารถเสื่อมสภาพได้เมื่อเวลาผ่านไปและเมื่อสัมผัสความร้อนหรือแสง แม้ว่า Disodium EDTA จะช่วยจับไอออนโลหะที่สามารถเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ แต่การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะจะช่วยปกป้องสูตรได้ดียิ่งขึ้น

พิจารณาการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น:

  • Hydroxyacetophenone: ส่วนผสมนี้ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยรักษาคุณภาพของส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร
  • ActiveProtec™ OX: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระและป้องกันการเปลี่ยนสีในสูตรต่างๆ รวมถึงสูตรที่มีสารไวท์เทนนิ่งที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลง
  • ChromaDetox™ (Dimethylmethoxy Chromanol): สารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพสูงที่ให้การปกป้องในวงกว้างต่อ reactive species ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของสูตรและป้องกันการเสื่อมสภาพที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนสี

การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระหนึ่งชนิดหรือหลายชนิดร่วมกันสามารถปรับปรุงความเสถียรในระยะยาวของเซรั่มของคุณได้อย่างมาก ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสีและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

ความเสถียรของเจล (ปริมาณลดลง)

การที่เจลของคุณมีปริมาณลดลง โดยเฉพาะในบรรจุภัณฑ์แบบกระปุก ส่วนใหญ่เกิดจากการระเหยของน้ำ แม้ว่าการบรรจุแบบสุญญากาศจะช่วยได้ แต่การสูญเสียน้ำบางส่วนยังคงเกิดขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้เนื้อเจลหดตัวลง

เพื่อลดการระเหยของน้ำและปรับปรุงความเสถียรของเจล คุณสามารถพิจารณาแนวทางต่อไปนี้:

  • เสริมระบบ Humectant: แม้ว่า Sodium Hyaluronate จะเป็น Humectant ที่ดี แต่การเพิ่มความเข้มข้นหรือเพิ่ม Humectant ชนิดอื่นที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เนื้อเจลอุ้มน้ำได้มากขึ้น ส่วนผสมอย่าง MOIST72™ (Saccharide Isomerate) มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นยาวนานและช่วยกักเก็บน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ใส่ Film Formers: การเพิ่มฟิล์มฟอร์มมิ่งโพลีเมอร์สามารถสร้างชั้นฟิล์มบนพื้นผิวของเจล (หรือเมื่อทาบนผิว) ซึ่งช่วยลดอัตราการระเหยของน้ำ Allianz OPT (Acrylates/C12-22 Alkyl Methacrylate Copolymer) เป็นตัวอย่างของโพลีเมอร์ที่สามารถช่วยเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำและเหงื่อได้
  • ปรับ Gelling Agent: การทบทวนความเข้มข้นและชนิดของสารก่อเจล (คุณใช้ Natto Gum และอาจใช้ AnyGel™ หากเป็นผลิตภัณฑ์นั้น) ก็มีประโยชน์เช่นกัน การทำให้โครงสร้างเจลแข็งแรงขึ้นสามารถช่วยกักเก็บน้ำไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ AnyGel™ (Dehydroxanthan Gum) เป็นสารก่อเจลในน้ำที่มีคุณสมบัติให้เนื้อเจลที่คงตัว

การผสมผสานระบบ Humectant ที่ดีเข้ากับสารสร้างฟิล์มมักเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดการสูญเสียน้ำในสูตรเจล

คำแนะนำในการพัฒนาสูตรครีมกันแดด

การพัฒนาครีมกันแดดที่ตรงตามความต้องการของคุณ (เนื้อครีมสีขาว กันน้ำ/กันเหงื่อ SPF 40-50 PA+++ เน้น Physical หรือ Hybrid เนื้อไม่เหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ขาววอกน้อยที่สุด) สามารถทำได้ นี่คือแนวคิดสำหรับสองประเภทของสูตร:

1. ครีมกันแดด Physical 100%

เพื่อให้ได้ SPF 40-50 PA+++ โดยใช้เพียง Physical Filter คุณจะต้องใช้ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เป็นหลัก เพื่อลดการขาววอกและให้เนื้อสัมผัสที่ดี สิ่งสำคัญคือต้องใช้ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ชนิดที่มีขนาดอนุภาคเล็กมาก (micronized) หรือผ่านการเคลือบพิเศษ

ส่วนประกอบหลัก:

  • Physical UV Filters: ใช้ Zinc Oxide (เช่น Zinc Oxide (Ultra-Fine, Non-Yellow, Non-Coated, USP)) และ Titanium Dioxide (เช่น Titanium Dioxide 30nm SilkTouch™) ร่วมกัน ความเข้มข้นรวมจะขึ้นอยู่กับระดับ SPF/PA ที่ต้องการและเกรดที่ใช้ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 15-25% หรือสูงกว่า
  • ระบบ Emulsifier: เลือก Emulsifier ที่เหมาะสำหรับการสร้างอิมัลชันแบบ O/W หรือ W/O ที่มีความคงตัวและมีปริมาณของแข็งสูง (UV Filter) Velvet Cream Maker™ หรือ Sucrose Cream Maker™ เป็นตัวอย่างของ Emulsifier ที่ช่วยให้ได้เนื้อครีมที่น่าใช้
  • Film Former: ใส่ Film-forming Polymer เช่น Allianz OPT เพื่อเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำและเหงื่อ
  • Emollients: เลือก Emollient ที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ เพื่อช่วยให้เกลี่ยง่ายและให้ความรู้สึกที่ดีบนผิว
  • Texture Modifiers: ส่วนผสมอย่าง Silica หรือ Powder สามารถช่วยลดความมันและให้ฟินิชแบบแมตต์ได้

การพัฒนาครีมกันแดด Physical 100% ที่มี SPF สูงและขาววอกน้อยที่สุด ต้องอาศัยการเลือกใช้ UV Filter ที่ผ่านการปรับปรุงมาเป็นพิเศษและเทคนิคการผสมที่ถูกต้องเพื่อให้กระจายตัวได้ดี

2. ครีมกันแดด Hybrid Physical และ Chemical

สูตร Hybrid เป็นการผสมผสานระหว่าง Physical Filter และ Chemical Filter ซึ่งบางครั้งอาจให้เนื้อสัมผัสที่ดีกว่า เกลี่ยง่ายกว่า และอาจให้ SPF/PA ที่สูงขึ้นโดยใช้ความเข้มข้นของสารกันแดดรวมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสูตร Physical 100% ในขณะที่ยังคงใช้ประโยชน์จากการป้องกันรังสี UV ในวงกว้างของ Physical Blocker

ส่วนประกอบหลัก:

  • Physical UV Filters: ใช้ Zinc Oxide และ/หรือ Titanium Dioxide ในความเข้มข้นที่น้อยกว่าในสูตร Physical ล้วน
  • Chemical UV Filters: เพิ่ม Chemical Filter ที่มีความคงตัวและป้องกันรังสี UV ได้กว้าง ซึ่งเข้ากันได้กับส่วนประกอบอื่นๆ ในสูตร ตัวอย่าง Chemical Filter รุ่นใหม่ที่มีความคงตัวสูง ได้แก่ Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine (Tinosorb S) หรือ Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate (Uvinul A Plus) การเลือกใช้และความเข้มข้นจะขึ้นอยู่กับ SPF/PA ที่ต้องการและข้อกำหนดทางกฎหมาย
  • ระบบ Emulsifier: เช่นเดียวกับครีมกันแดด Physical ใช้ระบบ Emulsifier ที่เหมาะสม (เช่น Velvet Cream Maker™, Sucrose Cream Maker™)
  • Film Former: ใส่ Film-forming Polymer เช่น Allianz OPT เพื่อเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำ
  • Emollients และ Texture Modifiers: เช่นเดียวกับสูตร Physical เลือก Emollient และ Texture Modifier เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและฟินิชตามที่ต้องการ

ในการพัฒนาครีมกันแดดทั้งสองประเภท ควรพิจารณาถึงการกระจายตัวของ UV Filter ความคงตัวของอิมัลชัน และคุณสมบัติทางประสาทสัมผัสโดยรวม เพื่อให้ตรงตามความต้องการของคุณสำหรับครีมที่ไม่เหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ขาววอกน้อยที่สุด และกันน้ำได้ดี

หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงสูตรเดิมของคุณและพัฒนาผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดใหม่ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Small Molecule, 8-50K Daltons)
Hyaluronic Acid (Small Molecule, 8-50K Daltons)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
L-Carnitine (Carnitine)
L-Carnitine (Carnitine)
เครื่องสำอาง
Witch Hazel (Distillate - Alcohol Free, Paraben Free)
Witch Hazel (Distillate - Alcohol Free, Paraben Free)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
MOIST72™
MOIST72™
เครื่องสำอาง
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
เครื่องสำอาง
Natto Gum (Nutto Gum)
Natto Gum (Nutto Gum)
เครื่องสำอาง
Natural PHA (Gluconolactone)
Natural PHA (Gluconolactone)
เครื่องสำอาง
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
เครื่องสำอาง
ODA-White Plus™
ODA-White Plus™
เครื่องสำอาง
AnyGel™
AnyGel™
เครื่องสำอาง
Hydroxyacetophenone (anti-microbial, anti-oxidant)
Hydroxyacetophenone (anti-microbial, anti-oxidant)
เครื่องสำอาง
ActiveProtec™ OX
ActiveProtec™ OX
เครื่องสำอาง
Velvet Cream Maker™ (e.q. Sensanov WR)
Velvet Cream Maker™ (e.q. Sensanov WR)
เครื่องสำอาง
Sucrose Cream Maker™ (e.q. Emulgade Sucro Plus)
Sucrose Cream Maker™ (e.q. Emulgade Sucro Plus)
เครื่องสำอาง
ChromaDetox™ (Dimethylmethoxy Chromanol)
ChromaDetox™ (Dimethylmethoxy Chromanol)
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide (Ultra-Fine, Non-Yellow, Non-Coated, USP)
Zinc Oxide (Ultra-Fine, Non-Yellow, Non-Coated, USP)
เครื่องสำอาง