แนวทางการพัฒนาสูตร Tanning Oil

ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ ทางบริษัทไม่มีสูตรสำเร็จรูปสำหรับ Tanning Oil ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่คุณลูกค้าต้องการ (เน้นชุ่มชื้น, มี SPF, ป้องกันจุดด่างดำและริ้วรอย) โดยเฉพาะค่ะ

อย่างไรก็ตาม ดิฉันสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับประเภทของส่วนผสมที่จำเป็นต้องพิจารณาในการพัฒนาสูตรดังกล่าว โดยเน้นส่วนผสมที่เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมันค่ะ:

ประเภทส่วนผสมหลักที่ควรพิจารณา:

• น้ำมันพื้นฐาน (Base Oils): เพื่อให้ได้คุณสมบัติความชุ่มชื้นและความเป็น "ออยล์" ของ Tanning Oil ควรเลือกใช้น้ำมันบำรุงผิว ตัวอย่างเช่น Fractionated Coconut Oil หรือ Babassu Oil (Refined) ซึ่งเป็นน้ำมันเนื้อเบา ซึมซาบง่าย

• สารกันแดด (UV Filters): การที่จะมีค่า SPF ได้ จำเป็นต้องใส่สารกันแดด สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมัน มักจะใช้สารกันแดดชนิดที่ละลายในน้ำมันได้ คุณจะต้องใช้สารกันแดดหลายชนิดร่วมกันเพื่อให้ครอบคลุมการป้องกันทั้งรังสี UVB (ที่ทำให้ผิวไหม้แดด) และ UVA (ที่ทำให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ) ตัวอย่างสารกันแดดชนิดละลายในน้ำมันกลุ่ม UVB ที่พบ ได้แก่ Homosalate และ Enzacamene การพัฒนาสูตรเพื่อให้ได้ค่า SPF ที่ต้องการนั้น ต้องอาศัยการคำนวณอัตราส่วนและการทดสอบที่แม่นยำค่ะ

• สารป้องกันจุดด่างดำ (Anti-Dark Spot Agents): เพื่อช่วยป้องกันและลดเลือนจุดด่างดำ สามารถเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสชนิดที่ละลายในน้ำมันได้ Activated Resorcinol™ และ Phenylethyl Resorcinol เป็นตัวอย่างของส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันและมีประสิทธิภาพในการลดการสร้างเม็ดสีผิวค่ะ

• สารป้องกันริ้วรอย/ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Aging/Antioxidants): ส่วนผสมที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่นำไปสู่การเกิดริ้วรอย สารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำมัน เช่น วิตามินอี หรืออนุพันธ์วิตามินซีชนิดที่ละลายในน้ำมัน นิยมนำมาใช้ในสูตรที่เป็นน้ำมันเพื่อประโยชน์ในการชะลอวัยค่ะ

การพัฒนาสูตรเครื่องสำอางให้มีความคงตัวและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันแดดเพื่อให้ได้ค่า SPF ที่ชัดเจนนั้น ค่อนข้างซับซ้อนและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการเลือกส่วนผสม ความเข้ากันได้ของส่วนผสม ความคงตัว และการทดสอบค่ะ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสูตรโดยเฉพาะค่ะ