แผนการทำสูตรเซรั่มไฮยาลูรอนและวิตามินซี

แผนการทำสูตรของคุณ

ค่ะ เข้าใจแผนการของคุณที่ต้องการทำเซรั่ม 2 สูตรแยกกัน คือ สูตรเบสไฮยาลูรอนที่ผสมสารอื่นๆ และสูตรวิตามินซีจากชุด Vitamin C E Ferulic ค่ะ แนวทางนี้เหมาะสมกับการดูแลปัญหาผิวที่แตกต่างกันค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับแผนของคุณมีดังนี้ค่ะ

• เซรั่มเบสไฮยาลูรอน: ส่วนผสมที่คุณเลือกสำหรับเซรั่มเบสไฮยาลูรอน (N-Acetyl-D Glucosamine, Alpha Arbutin, Vitamin B5, Natural Amino Acids, Vitamin B3, และ Licorice Extract) เป็นการผสมผสานที่ดีที่มุ่งเน้นเรื่องความกระจ่างใส ลดรอยแดงและการอักเสบ และให้ความชุ่มชื้นค่ะ

  • N-Acetyl-D Glucosamine ทำงานได้ดีกับ Vitamin B3 (Niacinamide) ในการช่วยให้ผิวกระจ่างใส และยังช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนตามธรรมชาติในผิว
  • Alpha Arbutin มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใสและสีผิวสม่ำเสมอ
  • Vitamin B5 (Panthenol) ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และเสริมเกราะป้องกันผิว
  • Natural Moisturizing Amino Acids เป็นส่วนประกอบของสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติในผิว อย่างที่ได้มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้ คุณอาจพิจารณาว่าจะใส่ตัวนี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคุณ (หากผิวยังมีความมันอยู่แม้ใช้ BHA อาจพิจารณาตัดออกได้)
  • Vitamin B3 (Niacinamide) มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งช่วยลดรอยแดง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เสริมเกราะป้องกันผิว และช่วยควบคุมความมัน
  • Licorice Extract (โดยเฉพาะ Licochalcone A) มีคุณสมบัติเด่นในการลดการอักเสบ รอยแดง และการระคายเคือง ซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อใช้ BHA และยังช่วยควบคุมความมันได้ด้วย
  • คุณจะต้องนำส่วนผสมเหล่านี้ไปผสมเข้ากับเบสที่เหมาะสม เช่น Hyaluronic Acid Gel Base ด้วยตัวเองค่ะ โดยทั่วไป MySkinRecipes จะจำหน่ายวัตถุดิบและชุดคิทเพื่อให้ลูกค้าผสมผลิตภัณฑ์เองค่ะ

• เซรั่ม Vitamin C E Ferulic: การใช้ชุด Vitamin C E Ferulic เป็นวิธีที่ดีในการทำเซรั่มที่มีประสิทธิภาพสูงด้วย L-Ascorbic Acid, Vitamin E และ Ferulic Acid การผสมผสานนี้เป็นที่ยอมรับในด้านคุณสมบัติแอนติออกซิแดนต์ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

  • ชุดคิทนี้ออกแบบมาเพื่อให้คุณผสมส่วนประกอบต่างๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้ L-Ascorbic Acid ซึ่งมีความเสถียรต่ำเมื่อละลายน้ำ ยังคงประสิทธิภาพสูงสุด
  • สำหรับตัวทำละลาย (Ethoxydiglycol, Propylene glycol, Glycerin) ในชุดคิท สูตรนี้มักจะถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเสถียรและการซึมผ่านของ L-Ascorbic Acid การปรับเปลี่ยนหรือตัดตัวทำละลายออกนั้น แม้จะทำได้ แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ทำตามสูตรที่กำหนดในชุดคิท เว้นแต่คุณมีความรู้ด้านเคมีในการปรุงสูตรเป็นอย่างดี เนื่องจากการเปลี่ยนระบบตัวทำละลายอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเสถียรและประสิทธิภาพของวิตามินซี คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับ L-Ascorbic Acid Ultra-Fine ระบุถึงความเสถียรต่ำเมื่อละลายน้ำ และความสำคัญของค่า pH (2.0-4.0 โดย อย. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้มี pH อย่างน้อย 3.5) ซึ่งสูตรในชุดคิทถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับเรื่องนี้ค่ะ

โดยสรุป แผนการทำเซรั่มแยก 2 สูตรของคุณเป็นแนวทางที่ดีค่ะ คุณจะต้องทำการผสมทั้งสองสูตรด้วยตัวเองโดยใช้วัตถุดิบและเบสที่เตรียมไว้ สำหรับชุด Vitamin C E Ferulic แนะนำให้ทำตามสูตรที่แนะนำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ