การทำสูตรสกินแคร์ใช้เองสำหรับผิวแห้ง: ปัญหาความเสถียร ความเข้ากันได้ และวัตถุดิบ

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรและปัญหาผิวค่ะ จากข้อมูลที่คุณแจ้งเรื่องผิวแห้ง รอยสิว และริ้วรอยจางๆ รวมถึงคำแนะนำที่ได้รับ สรุปและตอบคำถามได้ดังนี้ค่ะ

ปัญหาผิวและการพิจารณาสูตร:
สภาพผิวของคุณค่อนข้างแห้ง ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาริ้วรอยจางๆ แม้ว่าสูตรตั้งต้นของคุณจะมีส่วนผสมที่ดี แต่ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นอาจจะยังไม่เพียงพอ การแนะนำให้ตัด L-Carnitine ออกนั้นเหมาะสมแล้ว เนื่องจาก L-Carnitine เน้นเรื่องการควบคุมความมัน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาหลักของคุณค่ะ

สูตรที่ทางทีมงานแนะนำปรับปรุงเน้นการเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผิวแห้ง และยังช่วยปรับปรุงลักษณะของริ้วรอยจางๆ รวมถึงช่วยให้ผิวฟื้นตัวจากรอยสิวได้ดีขึ้นค่ะ

ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นที่ทีมงานแนะนำ (จากสารที่คุณมี):

• Aloe Vera Extract 3%
• Allantoin 0.2%
• Panthenol (Pro Vitamin B5) 3%
• Natural Betaine (Trimethylglycine) 5%
• Natural Moisturizing Amino Acids 3%
• Rose Hip Oil 10%

เมื่อใช้ร่วมกับสารไวท์เทนนิ่ง (Vitamin B3, Niacinamide (Safe-B3™) 5%, N-Acetyl-D glucosamine (GlucoBright™) 4%) และส่วนผสมลดริ้วรอยที่ลดความเข้มข้นลง (DMAE (SkinTight MD™) Powder 1%, Soy Extract 1%) สูตรนี้จะช่วยดูแลผิวแห้งที่มีปัญหาตามที่คุณแจ้งได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นค่ะ ส่วน French Pine Bark Extract แนะนำให้ตัดออกเนื่องจากอาจทำให้สีของสูตรเข้มขึ้นมากค่ะ

สำหรับ PE-1 Aqua และ Vitamin E แนะนำให้เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง เนื่องจากอาจรบกวนประสิทธิภาพกันได้ค่ะ

คำตอบสำหรับข้อสงสัยของคุณ:

1. ผสมใส่ขวดเขย่า: แม้จะทำได้ในสูตรง่ายๆ แต่สำหรับสูตรที่เป็นอิมัลชั่นหรือเจล การค่อยๆ เติมส่วนผสมทีละส่วนพร้อมกับคน จะช่วยให้เนื้อสูตรเข้ากันได้ดีและคงตัวมากกว่าค่ะ
2. ใส่สารกันเสีย (Phenoxyethanol) ตอนไหน: สามารถใส่ในส่วนของน้ำก่อนผสม หรือใส่ตอนท้ายหลังจากผสมสูตรเสร็จแล้วก็ได้ค่ะ การเก็บสูตรในตู้เย็นช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ดี โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ใส่สารกันเสีย แต่ก็ไม่สามารถทดแทนสารกันเสียได้ทั้งหมดหากต้องการเก็บไว้นานหรือใช้ที่อุณหภูมิห้องค่ะ
3. สารพวก electrolyte: สามารถแยกใส่ตอนท้ายหลังจากได้เนื้อสูตรหลักแล้วจะง่ายกว่าค่ะ อย่างไรก็ตาม สารกลุ่ม Electrolyte (เช่น Sodium Lactate หรือผงบางชนิดที่มีความเข้มข้นสูงอย่าง DMAE) อาจทำให้สารสร้างเนื้อ/สารประสานบางชนิด (Light Cream Maker, Pro Polymer) ไม่คงตัวได้ อาจต้องเพิ่มปริมาณสารสร้างเนื้อเพื่อให้เนื้อคงตัวค่ะ SiliSolve หรือ SiliSolve Plus จะทน Electrolyte ได้ดีกว่าค่ะ
4. Pro Polymer ใส่น้ำมันตอนไหน: หากใช้ Pro Polymer ในสูตรที่มีน้ำมัน ให้ละลาย Pro Polymer ในส่วนของน้ำก่อนเพื่อสร้างเนื้อเจล จากนั้นค่อยๆ เติมส่วนของน้ำมันลงไปพร้อมกับคนค่ะ
5. SiliSolve™ 1% ใช้น้อยลงได้ไหม: ความเข้มข้นของ SiliSolve ที่ใช้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมัน/ซิลิโคนที่ต้องการประสาน และเนื้อสัมผัสที่ต้องการค่ะ 1% เป็นจุดเริ่มต้น แต่คุณอาจต้องปรับตามสูตรและผลลัพธ์ที่ต้องการค่ะ SiliSolve มีประโยชน์อย่างยิ่งในสูตรที่มี Electrolyte สูงค่ะ
6. DMAE Powder ทนกรด: DMAE (SkinTight MD™) Powder มีความคงตัว สามารถละลายในส่วนของน้ำได้ค่ะ และสามารถปรับ pH ตอนท้ายหลังจากผสมสูตรเสร็จแล้วได้ค่ะ
7. Soy Extract ตกตะกอน/เขย่าก่อนใช้: Soy Extract ไม่ควรตกตะกอนในสูตรที่ผสมอย่างถูกต้อง หากตกตะกอนแสดงว่าอาจมีขั้นตอนหรือส่วนผสมที่ไม่เข้ากัน การเขย่าก่อนใช้ช่วยกระจายตัวได้ชั่วคราว แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุค่ะ
8. EDTA กับน้ำสิงห์: ไม่แนะนำให้ใช้น้ำดื่มที่มีปริมาณแร่ธาตุสูง (เช่น น้ำสิงห์ 308ppm) ในการทำเครื่องสำอาง เนื่องจากแร่ธาตุอาจรบกวนส่วนผสมและความคงตัวของสูตรได้ค่ะ แนะนำให้ใช้น้ำกลั่นหรือน้ำ RO (Reverse Osmosis) ที่มีค่า ppm ต่ำๆ (ควรต่ำกว่า 20ppm) ค่ะ Disodium EDTA 0.2% ช่วยดักจับไอออนของโลหะได้ แต่ก็อาจไม่เพียงพอสำหรับน้ำที่มีความกระด้างสูงมากๆ ค่ะ

ประสบการณ์การทดลองทำของคุณ:

ยอดเยี่ยมมากค่ะที่คุณได้ทดลองทำสูตรด้วยส่วนผสมที่มีอยู่! ประสบการณ์ของคุณกับการใช้ Pro Polymer ยืนยันว่าการใส่น้ำมันในปริมาณมากต้องใช้การคนอย่างระมัดระวัง การเพิ่ม PE-1 Aqua ช่วยให้การซึมดีขึ้นตามที่คุณสังเกตได้ค่ะ

สำหรับสูตรทาเท้าที่มี Urea, Sodium Lactate, และ Lactic Acid กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เล็กน้อยนั้นเป็นเรื่องปกติค่ะ มาจาก Lactic Acid ซึ่งได้จากการบ่มผลิตภัณฑ์นมค่ะ

เรื่องการเติม Orange Oil เพื่อให้มีกลิ่นในสูตรทาเท้าโดยใช้ Pro Polymer เป็นสารประสาน: ตามที่ทีมงานแจ้ง สูตรนี้มี Electrolyte และความเป็นกรดสูง ทำให้ Pro Polymer สร้างเนื้อหรือประสานน้ำมันได้ยากค่ะ แม้จะคนแรงๆ ให้น้ำมันกระจายตัวได้ชั่วคราว แต่อาจจะไม่คงตัวค่ะ สำหรับการใส่น้ำหอมหรือ essential oil ในสูตรที่เป็นน้ำใสๆ โดยไม่ทำให้ขุ่น แนะนำให้ใช้ Flora Solve หรือ Flora Solve Clear ค่ะ โดยทั่วไปใช้ประมาณ 3-5% ต่อ น้ำหอม/essential oil 1% ค่ะ

ดีใจที่ได้ยินว่าคุณพอใจกับผลลัพธ์ของสูตรที่ทำเอง และพบว่าการผสมเองคุ้มค่าและดีกว่าผลิตภัณฑ์ราคาแพงค่ะ!

ข้อเสนอแนะของคุณเรื่องการขายขวดดรอปเปอร์, แท่งแก้ว, และซองดูดความชื้น ทางทีมงานได้รับทราบและจะแจ้งฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไปค่ะ

ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์และคำถามค่ะ!