Oat bran (Raw ดิบ, 300 Mesh)
- Product Code: 125576
อาหารยอดนิยมที่มีคุณค่าทางโภชนาการซึ่งรู้จักกันดีว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
ผงละเอียดพิเศษ 300 mesh
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
- -
รำข้าวโอ๊ตเป็นอาหารยอดนิยมที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ต่อไปนี้คือประโยชน์หลักบางประการของการรวมข้าวโอ๊ตไว้ในอาหารของคุณ:
-
สุขภาพหัวใจ : ข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ที่สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล การลดคอเลสเตอรอลจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
-
การควบคุมน้ำตาลในเลือด : ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ในข้าวโอ๊ตจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวาน
-
การจัดการน้ำหนัก : ข้าวโอ๊ตมีแคลอรี่ต่ำและมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการกินมากเกินไปและช่วยในการจัดการน้ำหนัก
-
สุขภาพระบบย่อยอาหาร : ไฟเบอร์ในข้าวโอ๊ตช่วยในการย่อยอาหารและช่วยป้องกันอาการท้องผูกโดยเพิ่มปริมาณให้กับอุจจาระ ช่วยให้ขับถ่ายเป็นปกติ
-
อุดมไปด้วยสารอาหาร : ข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งที่ดีของสารอาหารที่จำเป็น เช่น แมงกานีส ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ทองแดง เหล็ก สังกะสี โฟเลต และวิตามินบี 1 และบี 5
-
สารต้านอนุมูลอิสระ : ข้าวโอ๊ตมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่าอะเวแนนทราไมด์ ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และสามารถช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและลดความดันโลหิต
-
ปรับปรุงสุขภาพผิว : ข้าวโอ๊ตถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเนื่องจากมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการ ข้าวโอ๊ตสามารถช่วยบรรเทาอาการคันและระคายเคืองจากโรคต่างๆ เช่น กลากและผิวหนังอักเสบ
-
รองรับการทำงานของภูมิคุ้มกัน : เบต้ากลูแคนในข้าวโอ๊ตอาจช่วยเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อด้วยการช่วยให้เซลล์ภูมิคุ้มกันค้นหาตำแหน่งของการติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว
ความแตกต่างระหว่างรำข้าวโอ๊ตปรุงสุกและดิบ
1. การรักษาคุณค่าทางโภชนาการ
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : การปรุงข้าวโอ๊ตอาจทำให้ปริมาณสารอาหารบางชนิดลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะวิตามินที่ไวต่อความร้อนบางชนิด เช่น วิตามินบี อย่างไรก็ตาม การปรุงอาหารยังทำให้สารอาหารบางชนิดสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ซึ่งหมายความว่าร่างกายจะดูดซึมสารอาหารเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น การปรุงข้าวโอ๊ตสามารถทำให้แป้งย่อยได้ง่ายขึ้น
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบ เช่น ข้าวโอ๊ตที่แช่ค้างคืน จะคงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เนื่องจากไม่ได้ผ่านความร้อน ซึ่งรวมถึงวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เอเวแนนทราไมด์ ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
2. ความสามารถในการย่อยอาหาร
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : การปรุงอาหารจะทำให้แป้งในข้าวโอ๊ตสลายตัว ทำให้ย่อยง่ายขึ้น ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีระบบย่อยอาหารที่บอบบาง
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบมีแป้งที่ย่อยยากกว่า ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ย่อยยากและทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก ซึ่งช่วยให้แบคทีเรียชนิดดีในลำไส้เจริญเติบโตได้ดีขึ้น ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารแข็งแรงขึ้นและเพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้
3. ผลกระทบต่อน้ำตาลในเลือด
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : การปรุงข้าวโอ๊ตทำให้มีดัชนีน้ำตาล (GI) สูงกว่าข้าวโอ๊ตดิบ ซึ่งหมายความว่าข้าวโอ๊ตสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วข้าวโอ๊ตจะมีดัชนีน้ำตาลต่ำถึงปานกลาง ซึ่งช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบมีดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำกว่าข้าวโอ๊ตสุก แป้งและไฟเบอร์ที่ย่อยยากจะทำให้กระบวนการย่อยอาหารช้าลง ทำให้มีการปล่อยกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดอย่างค่อยเป็นค่อยไป
4. ความอิ่มและการควบคุมน้ำหนัก
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : ข้าวโอ๊ตปรุงสุกมีแนวโน้มที่จะขยายตัวและดูดซับน้ำ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น ซึ่งสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้โดยการลดปริมาณแคลอรี่โดยรวมที่บริโภคเข้าไป
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบมีแคลอรีสูงกว่าแต่ยังมีไฟเบอร์มากกว่าต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ปริมาณไฟเบอร์สามารถช่วยให้รู้สึกอิ่มและพึงพอใจ ช่วยควบคุมน้ำหนักได้
5. ความสะดวกสบาย
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : การปรุงข้าวโอ๊ตต้องใช้เวลาและต้องมีการเตรียม ซึ่งอาจไม่เหมาะกับตอนเช้าที่ยุ่งวุ่นวาย
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบ เช่น ข้าวโอ๊ตที่ใช้ทำข้าวโอ๊ตข้ามคืน สามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าและรับประทานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สะดวกสำหรับมื้ออาหารระหว่างเดินทาง
6. สุขภาพระบบย่อยอาหาร
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : ย่อยง่ายสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหารหรือผู้ที่แพ้ง่าย อย่างไรก็ตาม การปรุงสุกเกินไปอาจทำให้เส้นใยอาหารสลายตัวมากเกินไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพของข้าวโอ๊ตลดลง
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบมีปริมาณเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำสูง ซึ่งจะช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติและมีสุขภาพระบบย่อยอาหารโดยรวมที่ดี
7. ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : แม้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดจะลดลงระหว่างการปรุงอาหาร แต่ข้าวโอ๊ตก็ยังคงมีสารประกอบที่มีประโยชน์จำนวนมากหลังจากการปรุงอาหาร
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ยังคงมีสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง เช่น อาเวแนนทราไมด์ ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าในรูปแบบดิบ
สรุป:
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : ย่อยง่าย อิ่มท้องมากขึ้น และเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทานอาหารอุ่นๆ สบายๆ สารอาหารบางชนิดลดลงเล็กน้อยแต่ยังคงมีประโยชน์สูง
- ข้าวโอ๊ตดิบ : คงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน มีผลกระทบต่อดัชนีน้ำตาลต่ำ มีแป้งที่ย่อยยากสูง และสะดวกสำหรับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มปริมาณไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระให้สูงสุด
Be the first to review this product :-)
บริการวิเคราะห์
บริการแลป | ราคา |
---|
อาหารยอดนิยมที่มีคุณค่าทางโภชนาการซึ่งรู้จักกันดีว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
ผงละเอียดพิเศษ 300 mesh
รำข้าวโอ๊ตเป็นอาหารยอดนิยมที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ต่อไปนี้คือประโยชน์หลักบางประการของการรวมข้าวโอ๊ตไว้ในอาหารของคุณ:
-
สุขภาพหัวใจ : ข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ที่สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล การลดคอเลสเตอรอลจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
-
การควบคุมน้ำตาลในเลือด : ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ในข้าวโอ๊ตจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวาน
-
การจัดการน้ำหนัก : ข้าวโอ๊ตมีแคลอรี่ต่ำและมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการกินมากเกินไปและช่วยในการจัดการน้ำหนัก
-
สุขภาพระบบย่อยอาหาร : ไฟเบอร์ในข้าวโอ๊ตช่วยในการย่อยอาหารและช่วยป้องกันอาการท้องผูกโดยเพิ่มปริมาณให้กับอุจจาระ ช่วยให้ขับถ่ายเป็นปกติ
-
อุดมไปด้วยสารอาหาร : ข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งที่ดีของสารอาหารที่จำเป็น เช่น แมงกานีส ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ทองแดง เหล็ก สังกะสี โฟเลต และวิตามินบี 1 และบี 5
-
สารต้านอนุมูลอิสระ : ข้าวโอ๊ตมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่าอะเวแนนทราไมด์ ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และสามารถช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและลดความดันโลหิต
-
ปรับปรุงสุขภาพผิว : ข้าวโอ๊ตถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเนื่องจากมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการ ข้าวโอ๊ตสามารถช่วยบรรเทาอาการคันและระคายเคืองจากโรคต่างๆ เช่น กลากและผิวหนังอักเสบ
-
รองรับการทำงานของภูมิคุ้มกัน : เบต้ากลูแคนในข้าวโอ๊ตอาจช่วยเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อด้วยการช่วยให้เซลล์ภูมิคุ้มกันค้นหาตำแหน่งของการติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว
ความแตกต่างระหว่างรำข้าวโอ๊ตปรุงสุกและดิบ
1. การรักษาคุณค่าทางโภชนาการ
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : การปรุงข้าวโอ๊ตอาจทำให้ปริมาณสารอาหารบางชนิดลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะวิตามินที่ไวต่อความร้อนบางชนิด เช่น วิตามินบี อย่างไรก็ตาม การปรุงอาหารยังทำให้สารอาหารบางชนิดสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ซึ่งหมายความว่าร่างกายจะดูดซึมสารอาหารเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น การปรุงข้าวโอ๊ตสามารถทำให้แป้งย่อยได้ง่ายขึ้น
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบ เช่น ข้าวโอ๊ตที่แช่ค้างคืน จะคงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เนื่องจากไม่ได้ผ่านความร้อน ซึ่งรวมถึงวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เอเวแนนทราไมด์ ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
2. ความสามารถในการย่อยอาหาร
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : การปรุงอาหารจะทำให้แป้งในข้าวโอ๊ตสลายตัว ทำให้ย่อยง่ายขึ้น ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีระบบย่อยอาหารที่บอบบาง
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบมีแป้งที่ย่อยยากกว่า ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ย่อยยากและทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก ซึ่งช่วยให้แบคทีเรียชนิดดีในลำไส้เจริญเติบโตได้ดีขึ้น ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารแข็งแรงขึ้นและเพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้
3. ผลกระทบต่อน้ำตาลในเลือด
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : การปรุงข้าวโอ๊ตทำให้มีดัชนีน้ำตาล (GI) สูงกว่าข้าวโอ๊ตดิบ ซึ่งหมายความว่าข้าวโอ๊ตสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วข้าวโอ๊ตจะมีดัชนีน้ำตาลต่ำถึงปานกลาง ซึ่งช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบมีดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำกว่าข้าวโอ๊ตสุก แป้งและไฟเบอร์ที่ย่อยยากจะทำให้กระบวนการย่อยอาหารช้าลง ทำให้มีการปล่อยกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดอย่างค่อยเป็นค่อยไป
4. ความอิ่มและการควบคุมน้ำหนัก
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : ข้าวโอ๊ตปรุงสุกมีแนวโน้มที่จะขยายตัวและดูดซับน้ำ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น ซึ่งสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้โดยการลดปริมาณแคลอรี่โดยรวมที่บริโภคเข้าไป
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบมีแคลอรีสูงกว่าแต่ยังมีไฟเบอร์มากกว่าต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ปริมาณไฟเบอร์สามารถช่วยให้รู้สึกอิ่มและพึงพอใจ ช่วยควบคุมน้ำหนักได้
5. ความสะดวกสบาย
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : การปรุงข้าวโอ๊ตต้องใช้เวลาและต้องมีการเตรียม ซึ่งอาจไม่เหมาะกับตอนเช้าที่ยุ่งวุ่นวาย
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบ เช่น ข้าวโอ๊ตที่ใช้ทำข้าวโอ๊ตข้ามคืน สามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าและรับประทานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สะดวกสำหรับมื้ออาหารระหว่างเดินทาง
6. สุขภาพระบบย่อยอาหาร
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : ย่อยง่ายสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหารหรือผู้ที่แพ้ง่าย อย่างไรก็ตาม การปรุงสุกเกินไปอาจทำให้เส้นใยอาหารสลายตัวมากเกินไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพของข้าวโอ๊ตลดลง
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ข้าวโอ๊ตดิบมีปริมาณเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำสูง ซึ่งจะช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติและมีสุขภาพระบบย่อยอาหารโดยรวมที่ดี
7. ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : แม้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดจะลดลงระหว่างการปรุงอาหาร แต่ข้าวโอ๊ตก็ยังคงมีสารประกอบที่มีประโยชน์จำนวนมากหลังจากการปรุงอาหาร
- ข้าวโอ๊ตดิบ : ยังคงมีสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง เช่น อาเวแนนทราไมด์ ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าในรูปแบบดิบ
สรุป:
- ข้าวโอ๊ตปรุงสุก : ย่อยง่าย อิ่มท้องมากขึ้น และเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทานอาหารอุ่นๆ สบายๆ สารอาหารบางชนิดลดลงเล็กน้อยแต่ยังคงมีประโยชน์สูง
- ข้าวโอ๊ตดิบ : คงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน มีผลกระทบต่อดัชนีน้ำตาลต่ำ มีแป้งที่ย่อยยากสูง และสะดวกสำหรับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มปริมาณไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระให้สูงสุด
Mechanism | - |
Appearance | - |
Longevity | - |
Strength | - |
Storage | - |
Shelf Life | - |
Allergen(s) | - |
Dosage (Range) | - |
Recommended Dosage | - |
Dosage (Per Day) | - |
Recommended Dosage (Per Day) | - |
Mix Method | - |
Heat Resistance | - |
Stable in pH range | - |
Solubility | - |
Product Types | - |
INCI | - |
ตะกร้า
ไม่มีสินค้า