เกิดจากการนำ Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอน) ไปผ่านกระบวนการทำให้เกิดประจุบวก ซึ่งจะสามารถเกาะอยู่บนผิวได้ เนื่องจากผิวมีประจุลบตามธรรมชาติ HyaCoat™ จึงกลายเป็น Hyaluronic Acid ที่เกาะติดอยู่บนผิว สามารถใช้ในสูตรล้างออก (wash-off) เช่น น้ำยาล้างหน้า แชมพู สบู่

HyaCoat™ เกิดจากการนำ Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอน) ไปผ่านกระบวนการทำให้เกิดประจุบวก ซึ่งจะสามารถเกาะอยู่บนผิวได้ เนื่องจากผิวมีประจุลบตามธรรมชาติ HyaCoat™ จึงกลายเป็น Hyaluronic Acid ที่เกาะติดอยู่บนผิว หรือเส้นผม สามารถใช้ในสูตรล้างออก (wash-off) เช่น น้ำยาล้างหน้า แชมพู สบู่

จากการทดลองใช้ HyaCoat™ และ Hyaluronic Acid ความเข้มข้นระดับเดียวกันที่ 1% ผสมกับน้ำ ทาลงบนผิว และปล่อยให้น้ำไหลผ่าน พบว่า เมื่อน้ำไหลผ่าน 5นาที และ 10นาที และ 15นาที Hyaluronic Acid จะถูกชะล้างจะออกไปแทบทั้งหมด เมื่อเทียบกับ HyaCoat™ ซึ่งยังสามารถเกาะอยู่บนผิวได้ ทำให้ HyaCoat™ สามารถให้ความชุ่มชื้นผิวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะถูกน้ำล้าง

HyaCoat™ จึงเหมาะกับการใช้ในสูตรทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกาย เนื่องจากสามารถช่วยเคลือบและให้ความชุ่มชื้นผิวไว้ได้ยาวนาน แม้ว่าจะถูกล้างออก

บริษัทมีจำหน่าย Hyaluronic Acid 12ชนิด

1. ขนาด Small (Molecular Weight: เฉลี่ย 10,000 Daltons) สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ ให้ความชุ่มชื้นผิวในระดับลึก แต่ไม่ก่อให้เกิดเนื้อเจล และไม่สามารถเคลือบผิวได้

2. ขนาด Standard (Molecular Weight: เฉลี่ย 1,000,000 Daltons) ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ ให้ความชุ่มชื้นบริเวณผิวหนังชั้นนอก ก่อให้เกิดเจลได้เล็กน้อย เคลือบผิวได้เล็กน้อย

3. ขนาด Large (Molecular Weight: เฉลี่ย 2,000,000 Daltons) ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ ให้ความชุ่มชื้นบริเวณผิวหนังชั้นนอก ก่อให้เกิดเจลได้ดี เคลือบผิวได้ดี

4. ชนิดเหลว Double Hyaluronic Acid เกิดจากการผสมระหว่าง ขนาด Nano และขนาด Standard ใช้งานได้ง่าย และสามารถให้ความชุ่มชื้นได้ทั้งผิวชั้นล่าง และผิวชั้นบน

5. ชนิดผง Cationic ผ่านกระบวนการทำให้เกิดประจุบวก สามารถเกาะอยู่บนผิว หรือเส้นผม ได้ สามารถใช้ในสูตรล้างออก เช่นน้ำยาล้างหน้า แชมพู คอนดิชั่นเนอร์

6. ชนิด Elastomer เนื้อเจล ด้วยลักษณะการเชื่อมโยงกันของแต่ละโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่ ทำให้มีประสิทธิภาพการกักเก็บความชุ่มชื้น ได้มาก และยาวนาน

7. ชนิด Japan เกรดเดียวกับที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ Hyaluron Serum ที่จำหน่ายส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น

8. ชนิด 4D Hyaluron เป็นเนื้อเจลข้น ประกอบด้วย ไฮยาลูรอน 3 ขนาดโมเลกุล และ ไฮยาลูรอน ชนิดประจุบวก จึงสามารถบำรุงผิวได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งชั้นนอกจนไปถึงชั้นใน

9. ชนิด 8D Hyaluron เป็นเนื้อเจล ประกอบด้วย ไฮยาลูรอน 4 ขนาดโมเลกุล และ ไฮยาลูรอน ชนิดประจุบวก และ ไฮยาลูรอน ชนิดครอสลิเมอร์ และ ไฮยาลูรอน ชนิด acetylated (หรือเรียกว่า super-hyaluron)

10. ชนิด acetylated (หรือเรียกว่า super-hyaluron) มีความสามารถในการดูดซึมเข้าสู่ผิวได้สูงสุด เมื่อเทียบกับ Hyaluron ชนิดอื่นๆ

11. ชนิดกระจายตัวในน้ำมัน (oil-dispersible) สามารถผสมในสูตร oil-based เช่น ลิปสติก ลิปบาล์ม และผลิตภัณฑ์ make-up ส่วนใหญ่เนื่องจากเป็น oil-based ได้

12. ชนิด China เป็นเกรดที่เน้นประหยัดต้นทุนสูตร ราคาประหยัด โดยมีคุณภาพมาตรฐาน

การใช้: สำหรับเครื่องสำอางค์ทุกชนิด อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม แชมพู สบู่

วิธีการผสม: ละลายในน้ำ โดยปั่นน้ำด้วยความเร็วอย่างน้อย 1,000รอบต่อนาที และจึงโปรยผงลงในน้ำทีละเล็กน้อย

อัตราการใช้: 0.1-0.5% (แนะนำ 0.1-0.2%)

ลักษณะผลิตภัณฑ์: ผงสีขาว

การละลาย: สามารถละลายในน้ำ

การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในที่แห้งและเย็น อุณหภูมิระหว่าง 15°C-25°C ห้ามโดนแสงแดดและความชื้น มีอายุอย่างน้อย 2ปี

INCI Name: Hydroxypropyltrimonium Hyaluronate

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ HyaCoat™

Hada-Labo Gokujyun Hyaluronic Acid Foaming Face Wash

Dr.Ci:Labo LABO LABO SUPER-MOIST-GEL

BIFESTA CLEANSING LOTION IN SEBUM

Kose INFINITY BEAUTY HAND SERUM