จัดเป็นหนึ่งในสาร whitening ที่มีความปลอดภัยสูงสุด และให้ประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเทียบกับสาร whitening ชนิดทั่วไป เช่น Kojic Acid, Alpha Arbutin

*สามารถระคายเคืองผิว*

Phenylethyl Resorcinol ออกฤทธิ์ เพื่อให้ผิวกระจ่างใสขึ้น

Phenylethyl Resorcinol ถูกจัดเป็นหนึ่งในสาร whitening ที่มีความปลอดภัยสูงสุด และให้ประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเทียบกับสาร whitening ชนิดทั่วไป เช่น Kojic Acid, Alpha Arbutin

นิยมเรียกชื่อทางการค้าว่า SymWhite 377 (สินค้ารายการนี้ไม่ได้ผลิตโดยผู้ผลิต SymWhite 377 แต่มีโครงสร้างทางเคมีเดียวกัน)

จากผลการทดลอง ควบคุมกระบวนการสร้างเม็ดสี (tyrosynase) ในเห็ด พบว่า Phenylethyl Resorcinol มีประสิทธิภาพควบคุมเม็ดสีในเห็ดทดลอง ได้สูงสุด เมื่อเทียบกับสาร whitening ชนิดอื่นๆ รวมถึง สาร whitening ที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับ Phenylethyl Resorcinol (เช่น dyhydropinosylvin) โดยหน่วยในแกนซ้าย หมายถึง "เท่า" ของ Kojic Acid

จากการทดลองกับ Melanoma Cells (เซลล์เม็ดสี) ใน plate ทดลอง พบว่า Phenylethyl Resorcinol มีประสิทธิภาพในการลดเม็ดสีได้อย่างชัดเจนกว่าสาร whitening ที่นิยมในท้องตลาด โดยเมื่อเทียบกับ Kojic Acid มีประสิทธิภาพสูงถึงกว่า 210 เท่า (การทดลองนี้ ดำเนินการใน plate ทดลอง)

Phenylethyl Resorcinol ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย โดยเมื่อนำมาทดลองหา DPPH Assay (ประสิทธิภาพของการต้านอนุมูลอิสระ) พบว่า Phenylethyl Resorcinol สามารถออกฤทธิ์ได้ดี ตั้งแต่ระดับความเข้มข้น 1uM ขึ้นไป โดยหากพิจารณาที่ 25uM จะพบว่า มีฤทธิ์ anti-oxidant ได้มากกว่า alpha-tocopherol (Vitamin E ธรรมชาติ) และ BHT (เคมีสังเคราะห์ที่นิยมใช้ต้านอนุมูลิืสระ)

ตัวอย่างสูตรครีม ที่มี  Phenylethyl Resorcinol 0.5%

1.Water 93.75%

2.Mineral Oil (ชนิดเบา) 5%

3.Satin Cream Maker™ 1%

4.Disodium EDTA 0.2% (ช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับ Phenylethyl Resorcinol)

5.Xanthan Gum 0.5%

6.Sodium Metabisulfite 0.15%

6.Phenylethyl Resorcinol 0.5%

ขั้นตอนการผสม: 

1. ผสม 2+3 เข้าด้วยกัน เป็นส่วนน้ำมัน, ผสม 1+4 เข้าด้วยกัน เป็นส่วนน้ำ

2. เติมส่วนน้ำ ลงในส่วนน้ำมัน คนให้เข้ากันจนได้เนื้อครีม

3. เติม 5 ลงในเนื้อครีมที่ได้ คนให้เข้ากัน

4. วัด pH ของสูตร หากอยู่ในช่วงที่มากกว่า 6 หรือต่ำกว่า 4 ให้เติม ด่าง (Triethanolamine) หรือ กรด (Citric Acid, Lactic Acid, Glycolic Acid) เพื่อปรับ

*ห้ามใช้ Carbomer, Carbopol, PEG-400 ในสูตร

*น้ำหอมบางชนิด จะมีปัญหากับ Phenylethyl Resorcinol และทำให้เกิดสีเหลือง หรือเกิดการแยกชั้น ก่อนใช้น้ำหอมใดๆ จะต้องทดสอบก่อน

*หลีกเลี่ยงส่วนผสมกลุ่ม Amino Acids, Urea หรือ โปรตีนใดๆ ในสูตร เนื่องจากอาจเกิดปัญหากับ Phenylethyl Resorcinol (สีเหลือง/แยกชั้น)

*สูตรควรมีการใช้ ActiveProtec™ OX ที่ 0.6% เพื่อช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีของสูตร

กรุณาศึกษาผลการทดลองเพิ่มเติมได้จากโบรชัวร์แนบ

การใช้: ใช้ได้ในผลิตภัณฑ์ Whitening ที่อยู่ในรูปแบบครีม หรือโลชั่น

วิธีการผสม: 
- ผสมในขั้นตอนสุดท้าย ลงในเนื้อครีม โดยในสูตรจะต้องมีส่วนของน้ำมันอยู่ด้วย แต่ไม่จำเป็นต้องนำ Phenylethyl Resorcinol ไปผสมเข้ากับส่วนของน้ำมันก่อน ให้ผสม Phenylethyl Resorcinol ลงในเนื้อครีมโดยตรง ในขั้นตอนสุดท้าย สามารถใช้ความร้อนได้ไม่เกิน 50องศา เพื่อช่วยให้ Phenylethyl Resorcinol ละลายเข้ากับเนื้อครีมได้เร็วขึ้น

- ผลิตภัณฑ์สำเร็จ ควรเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกันแสง และอากาศได้

- ผลิตภัณฑ์สำเร็จควรจะมี pH อยู่ในช่วง 4-5 หาก pH ต่ำหรือสูงกว่านี้ ความเสถียรของ Phenylethyl Resorcinol จะด้อยลง

อัตราการใช้: 0.1-1.0% (แนะนำ 0.5% สำหรับผลิตภัณฑ์ leave-on ทาทิ้งบนผิว)

ลักษณะผลิตภัณฑ์: ผงสีอ่อน

การละลาย: สามารถละลายในน้ำมัน แต่ในขั้นตอนการผสม ให้ใส่ Phenylethyl Resorcinol ลงในเนื้อครีม ในขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้น (หากสูตรเป็นเนื้ออื่นๆเช่นเนื้อเจล ในสูตรจะต้องมีน้ำมันอยู่ด้วย เพื่อช่วยให้ Phenylethyl Resorcinol ละลายเข้ากับเนื้อสูตรได้)

การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 6°C-8°C หลีกเลี่ยงแสงและความชื้น มีอายุอย่างต่ำ 2ปี

INCI Name: Phenylethyl Resorcinol

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Phenylethyl Resorcinol

                                                            LA ROCHE-POSAY Pigmentclar Serum

La Roche Posay Sensi White Essence

Vichy IDEAL WHITE META WHITENING ESSENCE