ใช้ในงานวิจัยเป็นสารโพรบเรืองแสง (fluorescent probe) เนื่องจากมีคุณสมบัติการปล่อยแสงที่แรง โดยเฉพาะในการศึกษาการโต้ตอบของกรดนิวคลีอิกและโปรตีน สารอนุพันธ์ของสารนี้ถูกสำรวจในเคมียารักษาโรคสำหรับการประยุกต์ใช้ในการต่อต้านมะเร็งและต้านจุลชีพ นอกจากนี้ยังใช้ในการพัฒนาเซ็นเซอร์สำหรับไอออนโลหะและไบโอโมเลกุล เนื่องจากมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม

ทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารประกอบอะคริดีนที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งมีศักยภาพในการใช้บำบัดด้วยแสง (photodynamic therapy) และเป็นสารแทรกตัวในดีเอ็นเอ (DNA intercalators) โดยในงานวิจัยทางชีววิทยาและชีวเคมี สารนี้สามารถแทรกตัวเข้าไปในสายดีเอ็นเอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการจำลอง การถอดรหัส และการแปลความ จึงนิยมใช้ในห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบความเสียหายของดีเอ็นเอ หรือศึกษาผลกระทบของสารกลายพันธุ์ (mutagenic agents) นอกจากนี้ยังใช้เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารประกอบอะคริดีนชนิดอื่นที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ เช่น สารต้านจุลชีพ สารต้านมาลาเรีย หรือสารต้านมะเร็ง บางครั้งยังนำไปใช้ในเทคนิคการย้อมสีเซลล์เพื่อสังเกตภายใต้กล้องจุลทรรศน์ โดยเฉพาะในงานวิจัยเกี่ยวกับโครมาตินและนิวเคลียส