Benfotiamine (Oil-Soluble Vitamin B1)

  • Product Code: 127592

เบนโฟไทอามีนเป็นอนุพันธ์สังเคราะห์ของไทอามีน (วิตามินบี 1) ที่ละลายในไขมัน โครงสร้างของมันช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าไทอามีนชนิดละลายน้ำ ทำให้ระดับไทอามีนภายในเซลล์เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการดูดซึมที่สูงขึ้นนี้จึงนำไปสู่การวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลในเลือดสูงและความเครียดออกซิเดชัน

฿3,127.50 ราคาพิเศษนี้สำหรับสั่งหน้าเวปเท่านั้น
กรัม (เริ่มต้นขั้นต่ำ 0 กรัม)

อัตรา ราคาต่อหน่วยจะถูกลง เมื่อสั่งซื้อปริมาณที่สูงขึ้น

กรุณากรอกปริมาณที่ต้องการ ระบบจะแสดงราคาโดยอัตโนมัติ

  •  
ชิ้น, ค่าบรรจุ: 0/ชิ้น

สินค้าจะถูกบรรจุตามปริมาณที่สั่งซื้อ

  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -

(ปัจจุบัน อย. ยังไม่อนุญาติให้ใช้ในอาหารเสริม สามารถใช้เพื่อพัฒนาและการวิจัย หรือส่งออกนอกประเทศไทย เท่านั้น)

เบนโฟไทอามีน (Benfotiamine)

เบนโฟไทอามีนเป็นอนุพันธ์สังเคราะห์ของไทอามีน (วิตามินบี 1) ที่ละลายในไขมัน โครงสร้างของมันช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าไทอามีนชนิดละลายน้ำ ทำให้ระดับไทอามีนภายในเซลล์เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการดูดซึมที่สูงขึ้นนี้จึงนำไปสู่การวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลในเลือดสูงและความเครียดออกซิเดชัน


ประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นของเบนโฟไทอามีน


1. การจัดการภาวะเส้นประสาทเสื่อมจากเบาหวาน (Diabetic Neuropathy)

เบนโฟไทอามีนอาจช่วยบรรเทาอาการปวด ชา และเสียวซ่าจากความเสียหายของเส้นประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน โดยกลไกการออกฤทธิ์เกี่ยวข้องกับการยับยั้งกระบวนการทำลายเนื้อเยื่อที่เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูง

งานวิจัยสนับสนุน:

  • การทดลองทางคลินิกหลายชิ้น (รวมถึง RCTs) พบว่าเบนโฟไทอามีน (300–600 มก./วัน) ช่วยลดอาการปวดจากเส้นประสาทได้อย่างมีนัยสำคัญ
    (Haupt E et al., Int J Clin Pharmacol Ther, 2005; Stracke H et al., Exp Clin Endocrinol Diabetes, 2008)

  • รายงานผู้ป่วยพบว่า เมื่อใช้ร่วมกับเมทิลโคบาลามิน (วิตามินบี 12) อาการดีขึ้นชัดเจน
    (Wounds International, 2024)

  • อย่างไรก็ตาม การศึกษาระยะยาว 24 เดือนในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ไม่พบความแตกต่างในด้านการทำงานของเส้นประสาท
    (Fraser DA et al., Diabetes Care, 2012)


2. ลดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน (กลไกทั่วไป)

เบนโฟไทอามีนช่วยกระตุ้นเอนไซม์ transketolase เพื่อเบี่ยงเบนการเผาผลาญกลูโคสไปจากกระบวนการที่ก่อให้เกิด AGEs ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ

งานวิจัยสนับสนุน:

  • ยับยั้ง 3 กลไกสำคัญของความเสียหายจากน้ำตาลในเลือดสูง ได้แก่ การสร้าง AGEs, การกระตุ้น PKC และวิถี hexosamine
    (Hammes HP et al., Nat Med, 2003)

  • ลด AGEs, VEGF และปัจจัยทำลายในเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของหนูเบาหวาน
    (Chakrabarti R et al., J Diabetes Invest, 2011 / PubMed 24843471)


3. ศักยภาพในการปกป้องระบบประสาท (รวมถึงโรคอัลไซเมอร์)

เบนโฟไทอามีนอาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมอง โดยการเพิ่มการเผาผลาญกลูโคสในสมองและลด AGEs กับความเครียดออกซิเดชัน

งานวิจัยสนับสนุน:

  • การศึกษา Phase IIa ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ระยะแรก พบว่าให้เบนโฟไทอามีน 300 มก. วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 12 เดือน ช่วยชะลอการเสื่อมทางปัญญา โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่มียีน APOEε4
    (Gibson GE et al., J Alzheimers Dis, 2020)

  • การศึกษาในหนูพบว่าเบนโฟไทอามีนช่วยเพิ่มความจำและลดคราบอะไมลอยด์กับโปรตีนเทาที่ถูกฟอสโฟรีเลต
    (Pan X et al., Brain, 2010)


4. ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ

เบนโฟไทอามีนแสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยตรง และยังสามารถลดกระบวนการอักเสบในเซลล์ได้

งานวิจัยสนับสนุน:

  • การศึกษาในหลอดทดลองแสดงว่าเบนโฟไทอามีนสามารถลดความเสียหายต่อ DNA จากอนุมูลอิสระ
    (Schmid U et al., Diabetes Metab Res Rev, 2008)

  • ในเซลล์แมคโครฟาจ พบว่ามีการลด prostaglandins และ leukotrienes ผ่านการยับยั้ง COX-2 และ LOX-5
    (Shoeb M, Ramana KV, Free Radic Biol Med, 2012 / PubMed 22067901)

  • ในเซลล์ไมโครเกลีย เบนโฟไทอามีนลด TNF-α, IL-6 และตัวบ่งชี้ oxidative stress เช่น NO และ superoxide พร้อมเพิ่มระบบต้านอนุมูลอิสระของเซลล์เอง
    (Vrkoslav B et al., Front Cell Neurosci, 2015; Bozic I, Lavrnja I, Heliyon, 2023 / PMC10682628)


5. สุขภาพหลอดเลือด

เบนโฟไทอามีนอาจช่วยปรับปรุงการทำงานของเยื่อบุหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน

งานวิจัยสนับสนุน:

  • ป้องกันความผิดปกติของหลอดเลือดหลังบริโภคอาหารที่มี AGEs สูงในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
    (Stirban A et al., Diabetes Care, 2006)

  • การศึกษาในสัตว์พบว่าเพิ่มการไหลเวียนเลือดและลดการอักเสบในหลอดเลือด
    (Ceylan-Isik AF et al., Am J Physiol Heart Circ Physiol, 2006)


6. บทบาทในการติดสุรา

การดื่มสุราเรื้อรังทำให้เกิดการขาดไทอามีน เบนโฟไทอามีนอาจช่วยลดผลกระทบทางจิตใจและการพึ่งพาแอลกอฮอล์ได้

งานวิจัยสนับสนุน:

  • การศึกษาขนาดเล็กพบว่าเบนโฟไทอามีนขนาดสูงอาจช่วยลดการดื่มสุราในผู้หญิง และลดความเครียดในผู้ชายที่เลิกสุรา
    (Manzardo AM et al., Drug Alcohol Depend, 2013)




Be the first to review this product :-)

Please login to write a review.






บริการวิเคราะห์
บริการแลป ราคา
Benfotiamine (Oil-Soluble Vitamin B1)

เบนโฟไทอามีนเป็นอนุพันธ์สังเคราะห์ของไทอามีน (วิตามินบี 1) ที่ละลายในไขมัน โครงสร้างของมันช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าไทอามีนชนิดละลายน้ำ ทำให้ระดับไทอามีนภายในเซลล์เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการดูดซึมที่สูงขึ้นนี้จึงนำไปสู่การวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลในเลือดสูงและความเครียดออกซิเดชัน

(ปัจจุบัน อย. ยังไม่อนุญาติให้ใช้ในอาหารเสริม สามารถใช้เพื่อพัฒนาและการวิจัย หรือส่งออกนอกประเทศไทย เท่านั้น)

เบนโฟไทอามีน (Benfotiamine)

เบนโฟไทอามีนเป็นอนุพันธ์สังเคราะห์ของไทอามีน (วิตามินบี 1) ที่ละลายในไขมัน โครงสร้างของมันช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าไทอามีนชนิดละลายน้ำ ทำให้ระดับไทอามีนภายในเซลล์เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการดูดซึมที่สูงขึ้นนี้จึงนำไปสู่การวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลในเลือดสูงและความเครียดออกซิเดชัน


ประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นของเบนโฟไทอามีน


1. การจัดการภาวะเส้นประสาทเสื่อมจากเบาหวาน (Diabetic Neuropathy)

เบนโฟไทอามีนอาจช่วยบรรเทาอาการปวด ชา และเสียวซ่าจากความเสียหายของเส้นประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน โดยกลไกการออกฤทธิ์เกี่ยวข้องกับการยับยั้งกระบวนการทำลายเนื้อเยื่อที่เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูง

งานวิจัยสนับสนุน:

  • การทดลองทางคลินิกหลายชิ้น (รวมถึง RCTs) พบว่าเบนโฟไทอามีน (300–600 มก./วัน) ช่วยลดอาการปวดจากเส้นประสาทได้อย่างมีนัยสำคัญ
    (Haupt E et al., Int J Clin Pharmacol Ther, 2005; Stracke H et al., Exp Clin Endocrinol Diabetes, 2008)

  • รายงานผู้ป่วยพบว่า เมื่อใช้ร่วมกับเมทิลโคบาลามิน (วิตามินบี 12) อาการดีขึ้นชัดเจน
    (Wounds International, 2024)

  • อย่างไรก็ตาม การศึกษาระยะยาว 24 เดือนในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ไม่พบความแตกต่างในด้านการทำงานของเส้นประสาท
    (Fraser DA et al., Diabetes Care, 2012)


2. ลดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน (กลไกทั่วไป)

เบนโฟไทอามีนช่วยกระตุ้นเอนไซม์ transketolase เพื่อเบี่ยงเบนการเผาผลาญกลูโคสไปจากกระบวนการที่ก่อให้เกิด AGEs ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ

งานวิจัยสนับสนุน:

  • ยับยั้ง 3 กลไกสำคัญของความเสียหายจากน้ำตาลในเลือดสูง ได้แก่ การสร้าง AGEs, การกระตุ้น PKC และวิถี hexosamine
    (Hammes HP et al., Nat Med, 2003)

  • ลด AGEs, VEGF และปัจจัยทำลายในเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของหนูเบาหวาน
    (Chakrabarti R et al., J Diabetes Invest, 2011 / PubMed 24843471)


3. ศักยภาพในการปกป้องระบบประสาท (รวมถึงโรคอัลไซเมอร์)

เบนโฟไทอามีนอาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมอง โดยการเพิ่มการเผาผลาญกลูโคสในสมองและลด AGEs กับความเครียดออกซิเดชัน

งานวิจัยสนับสนุน:

  • การศึกษา Phase IIa ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ระยะแรก พบว่าให้เบนโฟไทอามีน 300 มก. วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 12 เดือน ช่วยชะลอการเสื่อมทางปัญญา โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่มียีน APOEε4
    (Gibson GE et al., J Alzheimers Dis, 2020)

  • การศึกษาในหนูพบว่าเบนโฟไทอามีนช่วยเพิ่มความจำและลดคราบอะไมลอยด์กับโปรตีนเทาที่ถูกฟอสโฟรีเลต
    (Pan X et al., Brain, 2010)


4. ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ

เบนโฟไทอามีนแสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยตรง และยังสามารถลดกระบวนการอักเสบในเซลล์ได้

งานวิจัยสนับสนุน:

  • การศึกษาในหลอดทดลองแสดงว่าเบนโฟไทอามีนสามารถลดความเสียหายต่อ DNA จากอนุมูลอิสระ
    (Schmid U et al., Diabetes Metab Res Rev, 2008)

  • ในเซลล์แมคโครฟาจ พบว่ามีการลด prostaglandins และ leukotrienes ผ่านการยับยั้ง COX-2 และ LOX-5
    (Shoeb M, Ramana KV, Free Radic Biol Med, 2012 / PubMed 22067901)

  • ในเซลล์ไมโครเกลีย เบนโฟไทอามีนลด TNF-α, IL-6 และตัวบ่งชี้ oxidative stress เช่น NO และ superoxide พร้อมเพิ่มระบบต้านอนุมูลอิสระของเซลล์เอง
    (Vrkoslav B et al., Front Cell Neurosci, 2015; Bozic I, Lavrnja I, Heliyon, 2023 / PMC10682628)


5. สุขภาพหลอดเลือด

เบนโฟไทอามีนอาจช่วยปรับปรุงการทำงานของเยื่อบุหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน

งานวิจัยสนับสนุน:

  • ป้องกันความผิดปกติของหลอดเลือดหลังบริโภคอาหารที่มี AGEs สูงในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
    (Stirban A et al., Diabetes Care, 2006)

  • การศึกษาในสัตว์พบว่าเพิ่มการไหลเวียนเลือดและลดการอักเสบในหลอดเลือด
    (Ceylan-Isik AF et al., Am J Physiol Heart Circ Physiol, 2006)


6. บทบาทในการติดสุรา

การดื่มสุราเรื้อรังทำให้เกิดการขาดไทอามีน เบนโฟไทอามีนอาจช่วยลดผลกระทบทางจิตใจและการพึ่งพาแอลกอฮอล์ได้

งานวิจัยสนับสนุน:

  • การศึกษาขนาดเล็กพบว่าเบนโฟไทอามีนขนาดสูงอาจช่วยลดการดื่มสุราในผู้หญิง และลดความเครียดในผู้ชายที่เลิกสุรา
    (Manzardo AM et al., Drug Alcohol Depend, 2013)

Mechanism -
Appearance -
Longevity -
Strength -
Storage -
Shelf Life -
Allergen(s) -
Dosage (Range) -
Dosage (Per Day) -
Mix Method -
Heat Resistance -
Stable in pH range -
Solubility -
Product Types -
INCI -

ตะกร้า

ไม่มีสินค้า

Subtotal: ฿0.00
฿0.00 รวมทั้งสิ้น :